คนชายแดนสุรินทร์เชื่อไม่เกิดสงคราม
ชาวชายแดนสุรินทร์มั่นใจไม่เกิดสงครามหลังศาลโลกตัดสินปราสาทพระวิหาร 11 พ.ย.
ชาวชายแดนสุรินทร์มั่นใจไม่เกิดสงครามหลังศาลโลกตัดสินปราสาทพระวิหาร 11 พ.ย.
เมื่อวันที่ 24 ต.ค. บริเวณตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นตลาดการค้าระหว่างชาวไทยและชาวกัมพูชาตั้งอยู่ติด ชายแดนไทย-กัมพูชามากที่สุด ปรากฏว่าบรรยากาศทั่วไปหลังจากมีข่าวว่าศาลโลกมีกำหนดอ่านคำพิพากษาคดีกรณีปราสาทพระวิหารในวันที่ 11 พ.ย. นี้ เวลา 10.00 น. ตรงกับเวลา 16.00 น. ในประเทศไทย ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 17 วันนั้น พ่อค้า แม่ค้า และประชาชนชาวไทย-ชาวกัมพูชา ยังคงประกอบสัมมาอาชีพกันตามปกติ ส่วนใหญ่มีความมั่นใจกรณีศาลโลกมีคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร จะไม่ส่งผลให้เกิดสงครามระหว่างไทย-กัมพูชาขึ้นมาอีก เนื่องจากรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลของสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา แม้บางส่วนยังคงผวากับภัยสงครามที่เคยเกิดขึ้นเมื่อช่วงปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งทหารไทยกับกัมพูชาปะทะกันอย่างรุนแรงทำให้เกิดความสูญเสียต่อบ้านเรือน ทรัพย์สิน ชีวิตทหารรวมทั้งชาวบ้านเป็นอย่างมาก
นายสาหลี่ มาดมะนั่ง พ่อค้าส่งสินค้าการเกษตร ตลาดชายแดนช่องจอม กล่าวว่า ไม่รู้สึกได้กังวลอะไรกับการอ่านคำพิพากษาของศาลโลกในคดีกรณีปราสาทพระวิหาร เพราะว่ารัฐบาลไทย ได้ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชา ทำให้มั่นใจว่าไม่เกิดสงครามระหว่างไทย-กัมพูชา แน่นอน รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาประสานงานกันได้เป็นอย่างดี ไม่มีอะไรที่น่ากลัว รัฐบาลไทยและรัฐบาทกัมพูชายังมีสัมพันธ์ที่ดีงามต่อกัน คงจะไม่มีสงครามอีกต่อไปในวันข้างหน้า การค้าขายตลอดแนวชายแดนก็สะดวกขึ้น ฝากถึงพี่น้องชาวไทยและพี่น้องชาวกัมพูชาตลอดแนวชายแดน ไม่ต้องกังวลกับข่าวลือต่างๆ จงเชื่อมั่นในสัมพันธ์ภาพที่ดีงานระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา
ด้าน นายพัฒนา ชื่นยง ผู้จัดการตลาดการค้าชายแดนช่องจอม กล่าวว่า อยากให้คำพิพากษาออกมาในทิศทางที่เป็นประโยชน์ของทั้งสองประเทศ เพื่อความสัมพันธ์ไมตรีจะได้อยู่ดีเหมือนเดิม การค้าขายบริเวณชายแดนสามารถขับเคลื่อนไปได้ หากเกิดสงครามก็จะมีผลกระทบอย่างมากตลาดการค้าชายแดนช่องจอมแทบร้างไปเลย หลังเกิดความสู้รบหรือความขัดแย้ง นักท่องเที่ยวก็ไม่มี การค้าขายหยุดชะงักเกิดความขาดแคลนของสินค้า ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านบริเวณแนวชายแดนก็จะฝืดเคือง เป็นความยากลำบากไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์กี่ครั้งชาวบ้านก็ไม่เคยมีความสุขเลย จะมีแต่ความทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นสภาพชีวิต ความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ สังคมทุกคนล้วนเป็นห่วงว่าเหตุการณ์เหล่านั้นจะกลับมาอีก ขอวิงวอนให้สถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นขอให้เป็นสถานการณ์ที่ดี ทำให้บริเวณชายแดนเกิดความสงบสุข ค้าขายได้ตามปกติ


