เปิดชื่อ 42 เรือนจำใหม่รับนักโทษลัน

โดย...เอกชัย จั่นทอง

ปัญหาผู้ต้องขังเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด สร้างผลกระทบให้เรือนจำล้นอย่างคาดไม่ถึง ในแต่ละเดือนกระบวนการยุติธรรมส่งผู้ต้องขังเข้าเรือนจำมากกว่า 1 หมื่นคน สร้างปัญหาตามมาทั้งการควบคุมระเบียบ การดูแลสุขภาวะอนามัย และการฝึกอาชีพ ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือกำลังเจ้าหน้าที่เมื่อเทียบสัดส่วนกับผู้ต้องขัง มีเพียง 1 ต่อ 80 ถึง 1 ต่อ 100 คนเท่านั้น

ชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม ระบุว่า จำนวนผู้ต้องขังขณะนี้มีมากกว่า 2.72.8 แสนคน และคาดว่าปลายปีนี้จะมีผู้ต้องขังมากถึง 3 แสนคน ทว่าขณะนี้เรือนจำทั่วประเทศพร้อมสำหรับรับผู้ต้องขังเพียง 1.5 แสนคนเท่านั้น

“การปล่อยนักโทษออกไปควรต้องพัฒนา ฝึกอาชีพ และอบรมความประพฤติ แต่ทุกวันนี้แทบทำไม่ได้เพราะสถานที่จำกัด เมื่อปล่อยผู้ต้องขังเร็วเกินไปเพราะต้องเผื่อที่ให้คนใหม่เข้ามา ก็ทำให้คนเก่ายังไม่พร้อมเป็นคนดี” รมว.ยุติธรรม กล่าว

กรมราชทัณฑ์คำนวณแล้วพบว่า หากจะสร้างเรือนจำให้พร้อมรองรับผู้ต้องขังที่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดแล้วจะต้องสร้างเรือนจำใหม่กว่า 42 แห่ง

ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ได้ประสานกับบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ เพื่อจัดทำโครงร่างการก่อสร้าง และแผนการลงทุนต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือน ต.ค.นี้ และให้ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์รับผิดชอบขั้นตอนระดมทุนและการก่อสร้าง

สำหรับเรือนจำและทัณฑสถานที่จะก่อสร้างใหม่ แบ่งเป็นกลุ่มเรือนจำที่มีความพร้อมและมีที่ดินรองรับ 40 แห่ง ได้แก่ 1.เรือนจำกลางลำปาง 2.เรือนจำกลางเพชรบุรี 3.เรือนจำจังหวัดนครนายก 4.เรือนจำจังหวัดชัยนาท 5.เรือนจำกลางพัทลุง 6.เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี 7.เรือนจำกลางอุดรธานี 8.เรือนจำกลางขอนแก่น 9.เรือนจำจังหวัดปราจีนบุรี 10.เรือนจำจังหวัดน่าน 11.เรือนจำจังหวัดชุมแพ (ขอนแก่น) 12.เรือนจำอำเภอนครไทย (พิษณุโลก) 13.เรือนจำจังหวัดแพร่ 14.เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด 15.เรือนจำจังหวัดเลย 16.เรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ 17.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษอยุธยา 18.เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์

19.เรือนจำจังหวัดกระบี่ 20.เรือนจำจังหวัดพิจิตร 21.เรือนจำจังหวัดเวียงสระ (สุราษฎร์ธานี) 22.เรือนจำจังหวัดหนองคาย 23.เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา 24.เรือนจำความมั่นคงสูงสุด 25.เรือนจำพิเศษระยอง 26.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษเขต 2 (ระยอง)

27.เรือนจำกลางนครสวรรค์ 28.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษเขต 6 (หนองน้ำขุ่น) 29.ทัณฑสถานหญิงเขต 7 (เขาบิน) 30.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช (แดนความมั่นคงสูง) 31.ทัณฑสถานหญิงเขต 8 (เขาหมาก) 32.ศาลจังหวัดเดชอุดม (อุบลราชธานี) 33.ศาลจังหวัดพิมาย จ.นครราชสีมา 34.ศาลจังหวัดน่าน สาขาปัว (40 ไร่) 35.ศาลจังหวัดหัวหิน (30 ไร่) 36.เรือนจำจังหวัดระนอง 37.ศาลจังหวัดวิเชียรบุรี 38.ศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน สาขาปาย 39.ศาลจังหวัดฮอด จ.เชียงใหม่ 40.ศาลจังหวัดเชียงคำ จ.พะเยา

ส่วนกลุ่มเรือนจำที่อยู่ระหว่างการจัดหาที่ดินสำหรับการก่อสร้าง ได้แก่ 1.เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 2.เรือนจำจังหวัดอุทัยธานี

สำหรับแนวคิดการย้ายเรือนจำคลองเปรมบนเนื้อที่กว่า 400 ไร่ ซึ่งประกอบด้วย โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เรือนจำคลองเปรม และทัณฑสถานหญิงกลาง ยังคงเดินหน้าต่อ โดยชัยเกษมตั้งเป้าไว้ว่าจะนำพื้นที่ดังกล่าวนั้นมาพัฒนาเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ

“เรือนจำที่อยู่ในแหล่งชุมชนและสามารถพัฒนาเป็นพื้นที่เศรษฐกิจควรต้องย้ายออกทั้งหมด เพื่อคืนพื้นที่ให้กับประชาชนใช้ประโยชน์ โดยกระทรวงยุติธรรมยินดีย้ายออกทันที ขอให้มีเรือนจำใหม่เพื่อรองรับนักโทษเดิมก่อนเท่านั้น” ชัยเกษม กล่าว