นิคมฯ304ปราจีนฯยันยังไม่เจอน้ำท่วม

ผู้บริหาร 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค ปราจีนบุรียืนยันโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมไม่ถูกน้ำท่วม สามารถดำเนินการผลิตได้ตามปกติ

นายพูลศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด กล่าวว่า พื้นที่โรงงานทุกแห่งในสวนอุตสาหกรรม 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค จ.ปราจีนบุรี น้ำไม่ท่วมแต่อย่างใด โรงงานทุกแห่งที่ตั้งอยู่ภายในสวนอุตสาหกรรมรวมกว่า 112 แห่ง ยังคงสามารถดำเนินการผลิตได้ตามปกติ รวมทั้งเส้นทางคมนาคมขนส่งสู่กรุงเทพฯท่าเรือ หรือ สนามบิน ก็ไม่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้เนื่องจากพื้นที่ตั้งโครงการฯ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ย 20 เมตร และอยู่ห่างจากแม่น้ำปราจีนบุรีราว 8 กิโลเมตร ทั้งนี้หากเปรียบเทียบความสูงกับพื้นที่ที่ประสบภัยในขณะนี้ทั้งที่กบินทร์บุรี ท่าตูม และศรีมหาโพธิ พื้นที่โครงการฯ ก็ยังอยู่สูงกว่าพื้นที่ดังกล่าว ประมาณ 10 เมตร และมีระยะห่างจากพื้นที่ดังกล่าวมาก

อย่างไรก็ตามส่วนที่มีข่าวว่า โรงงานไดเซล ถูกน้ำท่วมนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด พื้นที่โรงงานยังคงแห้งสนิท และสามารถดำเนินการผลิตได้ตามปกติ มีเพียงเส้นทางซอยย่อยหน้าโรงงานที่มีน้ำขังเป็นระยะเวลาสั้นๆที่รอการระบาย ซึ่งขณะนี้ก็แห้งสนิทแล้ว และที่วิตกว่าน้ำจะท่วมโรงงานไดเซลหรือไม่ ก็เป็นไปได้ เนื่องจากพื้นที่โรงงานไดเซลอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมาก ขณะที่ระดับน้ำในคลองขณะนี้สูงกว่าระดับน้ำทะเล 10.2 เมตร หากเทียบกับสถิติระดับน้ำในคลองสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นในรอบ 10 ปี คือ ในช่วงมหาอุทกภัยปี 2554 ระดับน้ำในคลองก็สูงเพียง 10.5 เมตรเท่านั้น จึงเชื่อมั่นได้ว่า โรงงานไดเซลน้ำจะไม่ท่วมพื้นที่โรงงานอย่างแน่นอน

ด้านนายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) หนึ่งในโรงงานที่ตั้งในสวนอุตสาหกรรม 304 กล่าวว่า พื้นที่โรงงานในส่วนของดั๊บเบิ้ล เอ ก็ยังแห้งสนิท และสามารถดำเนินการผลิตและขนส่งสินค้าเข้าออกจากโรงงานได้ตามปกติ เชื่อมั่นว่า น้ำไม่ท่วมแน่นอน เพราะพื้นที่ในสวนอุตสาหกรรม 304 เป็นพื้นที่สูง อย่างอุทกภัยเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา พื้นที่นี้ก็ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด

ขณะที่นายอภิชัย ซอปิติพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพลาย จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นพีเอส กล่าวว่า เอ็นพีเอสมีโรงไฟฟ้าที่อยู่ในพื้นที่ 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค และผลิตไฟฟ้าแล้วทั้งสิ้น 5 โรง กำลังการผลิตรวม 435 เมกะวัตต์ ซึ่งระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ดำเนินธุรกิจมาไม่เคยประสบปัญหาน้ำท่วมแต่อย่างใด และขณะนี้เอ็นพีเอสก็มีการลงทุนเพิ่มในพื้นที่นี้ เป็นโครงการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มอีก 2 โรง กำลังการผลิตรวม 223 เมกะวัตต์ เพื่อช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศด้วยการใช้เชื้อเพลิงที่ปลูกได้มาผลิตกระแสไฟฟ้า