ฝันของนักการเมือง 'มาแล้วต้องไป'
ในเมื่อคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีห้ามเป็นพนักงานหรือลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ทำให้ วิเชษฐ์ เกษมทองศรี ต้องลาออกจากประธานกรรมการ
ในเมื่อคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีห้ามเป็นพนักงานหรือลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ทำให้ วิเชษฐ์ เกษมทองศรี ต้องลาออกจากประธานกรรมการ ปตท. (บอร์ด ปตท.) ทั้งที่ทำงานไปได้แค่เดือนกว่า
แต่เมื่อมารับบท รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แค่ 2 เดือนก็เกิดเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเล จ.ระยอง
จึงเป็นเหตุบังเอิญเหลือเกินของผู้เคยเป็นประธานบอร์ด ปตท.และ รมว.ทรัพยากรฯ ปัจจุบันคือคนเดียวกันที่มีบทบาทในสถานการณ์นี้
“ผมอาจได้เปรียบรัฐมนตรีคนอื่น เพราะรู้จักผู้บริหาร ปตท.ทุกคน ตอนเกิดเหตุน้ำมันรั่วผมเป็น รมต.คนแรกลงไปยังพื้นที่ จึงได้บอกให้รีบแก้ไข วันนั้นเราสั่งการให้บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล รีบขจัดคราบน้ำมันออกไปให้เร็วที่สุดจากที่ประเมินใช้เวลา 14 วัน ก็สามารถดำเนินการได้เสร็จภายใน 7 วัน สภาพแวดล้อมเกือบกลับมาสมบูรณ์ แต่กระทรวงทรัพยากรฯ ก็ยังไม่จบมีภารกิจในการฟื้นฟูระยะยาวต่อไป”
แม้เคยสวมหมวกประธาน ปตท.มาก่อน แต่วันนี้ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ก็ต้องตรวจสอบ ปตท.อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
“ผมบอกประชาชนในวันเกิดเหตุการณ์ว่า อย่าเพิ่งคิดเรียกร้องค่าเสียหาย แต่คิดว่าจะรีบแก้ปัญหาอย่างไร ผมให้ ปตท.พูดชัดเจนว่าต้องรับผิดชอบ ตอนนี้ขอแก้ปัญหาก่อน วันต่อมาได้เชิญผู้บริหารกระทรวง ตัวแทนกองทัพเรือ ปตท. ประชุมเปิดเผยให้สื่อมวลชนรับฟัง โดยได้บอกกับบริษัท พีทีทีฯ ให้ยืนยันชัดเจนว่าคุณจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด”
“มีคนบอกผมว่าโชคดีนะ ที่ตอนนี้มาเป็นรัฐมนตรีในช่วงที่ ปตท.เผชิญปัญหาทั้งเรื่องน้ำมันดิบรั่วไหลและการเคลื่อนไหวประชาชนคัดค้านการขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี” วิเชษฐ์ กล่าว พร้อมเสียงหัวเราะ
ถึงกระนั้น วิเชษฐ์ขอโอกาสชี้แจงให้สาธารณะเข้าใจภาพของ ปตท.ว่า “คนไม่เข้าใจจะไม่รู้ ปตท.ใส่หมวกสามใบ ประเด็นแรก ปตท.มีรัฐบาลถือหุ้นใหญ่ 67% อีก 33% ประชาชนทั้งในและต่างประเทศถือหุ้น ประเด็นที่สอง ปตท.เป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติ คำว่าพลังงานแห่งชาติจะมองเรื่องกำไรมากไม่ได้ ต้องมองเรื่องความมั่นคงพลังงาน และประเด็นสุดท้าย ปตท.อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เขาก็ต้องกำหนดให้ทำกำไรมากๆ ถึงจะมีคนซื้อหุ้นมากๆ”
“เห็นมั้ยว่าหมวกสามใบแย้งกันอยู่ คุณเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติ คุณจะเอาแต่กำไร พี่น้องประชาชนเดือดร้อน คุณต้องตอบสนองความต้องการแบกรับภาระ ผมก็ถือว่าตอนนั้นเข้าไปเป็นประธานบอร์ดเดือนกว่าต้องไปชี้แจงผู้ถือหุ้นหลายพันคนที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีคำถามต้องชี้แจง บางคำถามตรงมาที่ตัวผม วิสัยทัศน์การบริหารเป็นอย่างไร บางครั้งก็ถามซีอีโอ สิ่งสำคัญต้องคุมการประชุมให้เรียบร้อยแล้วทำให้ผู้ถือหุ้นพอใจ เพราะถือว่าเป็นผู้มีบุญคุณสนับสนุนเรา”
ครั้นรับตำแหน่ง รมว.ทรัพยากรฯ ใช่ว่าจะสบายกายสบายใจ เพราะรับรู้ตั้งแต่ก่อนเข้ามาจนถึงทุกวันนี้มีแรงกดดันเขย่าเก้าอี้
“ต้องพูดตรงไปตรงมา ปตท.อาจมีแรงกดดันทางการเมืองน้อย สามารถคิดอะไรทำได้เร็วด้วย แต่การทำงาน รมต.ตอบสนองคนทั้งประเทศ คิดอะไรต้องรอบคอบ อย่างที่ผมบอก เวลาคุณทำสิ่งหนึ่งมีทั้งคนพอใจและไม่พอใจ คุณไปรื้อรีสอร์ทต้องมีคนไม่พอใจแน่นอน แล้วคนไม่พอใจเป็นผู้มีอิทธิพล มีนายทุนใหญ่ ผมก็จะเจอแรงกดดันเยอะในอนาคต”
“ขอพูดความในใจนิดหนึ่ง ตอนผมเป็น รมช.คมนาคม ครั้งแรกรู้สึกตื่นเต้นดีใจที่ได้เป็นนักการเมืองทุกคนมีความฝันอยากขึ้นมาบริหารประเทศ แต่วันที่ผมมาเป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ วันนั้นผมคิดแปลกมาก ไม่รู้ทำไม ผมคิดวันนี้มา ผมคิดถึงวันไปเลย อันนี้เรื่องจริงนะ ผมก็เฉยๆ นะว่ามาแล้วต้องไป”
วิเชษฐ์ บอกว่า คราวนี้จะไปเมื่อไหร่ 3 หรือ 6 เดือน หรือ 1 ปีล่ะ เวลาคุณคิดมาแล้วต้องไปทำให้ไม่ยึดติด ชีวิตเราผ่านมาหลายอย่าง เคยทำธุรกิจ เป็นนักการเมืองอยู่ในตำแหน่งเลขานุการ รมต. ที่ปรึกษา รมต. จนถึง รมต. เคยถูกปฏิวัติถูกยุบพรรค ประสบการณ์ครบถ้วน ในอนาคตเกิดอะไร คิดว่าเรามีสิ่งที่เราเคยแย่มาแล้วจึงรับได้ในการปรับเปลี่ยน
“ผมไม่ทราบมาก่อนด้วยซ้ำต้องมาที่นี่แต่ไม่ว่าอยู่ที่ไหนขอวางระบบทำให้ดีที่สุดก่อนที่เราจะไป” นักการเมืองผู้เข้าถึงสัจธรรม ตบท้ายอย่างอารมณ์ดี


