ปมขัดแย้งเขาพระวิหารคดีตัวอย่างเออีซี
องคมนตรีระบุข้อขัดแย้งปมเขาพระวิหาร ตัวอย่างข้อพิพาทชายแดนชาติเออีซี
องคมนตรีระบุข้อขัดแย้งปมเขาพระวิหาร ตัวอย่างข้อพิพาทชายแดนชาติเออีซี
นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี และประธานกรรมการบริหารคณะกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวเปิดการประชุมนิติศาสตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 9 หัวข้อ “คดีปราสาทพระวิหาร : เบื้องลึกเบื้องหลัง และแนวโน้มของข้อยุติ” ที่ โรงแรมเดอะสุโกศล ตอนหนึ่งว่า ความขัดแย้งกรณีปราสาทพระวิหาร จะเป็นคดีตัวอย่างกรณีพิพาทชายแดนของอีก 8 ชาติอาเซียน ก่อนรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนในอีก 2 ปีข้างหน้า ว่าจะยุติความขัดแย้งหรือจะเดินหน้าต่อไปอย่างไรหลังคำพิพากษาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ มี 3 ประการที่สำคัญคือ 1.ทั่วโลกกำลังมองว่าทั้งสองประเทศมีวุฒิภาวะเพียงใด 2.มีผู้ที่นำคดีนี้มาเป็นประเด็นทางการเมืองทั้งในประเทศและระหว่างประเทศจำนวนมากซึ่งเป็นเรื่องไม่ดี เพราะจะทำให้ความเข้าใจในเนื้อหาของคดีถูกบิดเบือนไป และ 3.สิ่งที่ประชาชนทั่วไปล้วนรู้ต่อกันมา และรับทราบผ่านสื่อเท่านั้น ทำให้หลายครั้งข้อมูลสำคัญในคดีถูกทำให้กลายเป็นเรื่องของความรู้สึก
ขณะที่นายวิสูตร ตุวยานนท์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และอดีตเอกอัครราชทูตไทย กล่าวว่า เชื่อว่าศาลโลกจะเชื่อในสนธิสัญญา ที่ระบุให้มีการเดินสำรวจเขตแดนตลอดแนวชายแดน เพราะสนธิสัญญามีลำดับศักดิ์ศรีสูงกว่าแผนที่ที่กัมพูชานำมาใช้สู้คดี ซึ่งจะทำให้ไทยชนะในคดีนี้ และไทยจะไม่เสียอะไรไปมากกว่าคำตัดสินเมื่อปี 2505
ด้าน นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ หัวหน้าคณะต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร กล่าวว่า ขณะนี้ศาลโลกยังไม่ได้ระบุว่าจะตัดสินคดีนี้ในวันใด ซึ่งไทยยืนยันเสมอว่าข้อพิพาทเรื่องพื้นที่ 4.6 ตร.กม. เป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 10-20 ปีที่ผ่านมา ไม่เกี่ยวกับคำตัดสินเมื่อปี 2505


