ในหลวง-พระราชินีเสด็จฯจากศิริราชไปประทับหัวหินแล้ว

ในหลวง-พระราชินีเสด็จฯออกจากโรงพยาบาลศิริราชไปประทับวังไกลกังวลหัวหินแล้วพสกนิกรเฝ้าฯล้น

เมื่อเวลาประมาณ 16.25 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จฯลงจากชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อแปรพระราชญานยัง วังไกลกังวล อ. หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์ผ้าไหมสีส้ม และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ฉลองพระองค์ผ้าไหมสีฟ้า ทรงเสด็จฯโดยรถยนต์พระที่นั่งออกจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ

ทันทีที่รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนออกมาช้าๆ จากชั้นใต้ดินของอาคารเฉลิมพระเกียรติ เสียงถวายพระพร "ทรงพระเจริญ" ก็ดังกึกก้องทั่วโรงพยาบาลศิริราช พสกนิกรที่เฝ้าฯรับเสด็จฯหลายคนหลั่งน้ำตาด้วยความปีติที่ได้เห็นทั้งสองพระองค์มีพระพักตร์แจ่มใส โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทรงโบกพระหัตถ์ และแย้มพระสรวลให้กับพสกนิกรที่มาเฝ้าฯรับเสด็จฯ

พญ.ญาณนันท์ รัตนธิรวิเชียร พยาบาลประจำตึกสยามินทร์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ส่วนตัวมีความรู้สึกอุ่นใจ และเป็นมิ่งขวัญกำลังใจให้ เพราะเมื่อไหร่ที่รู้สึกเหนื่อย จะนึกเสมอว่าพระองค์ท่านเหนื่อยกว่า

“แพทย์ พยาบาล ที่นี่ทุกคนจะมองไปที่พระองค์ท่านเวลาทรงงาน เพราะทำให้เราทุกคนรู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เชื่อไหมว่าพวกเราทำงานอยู่ตึกติดกับที่พระองค์ประทับ เวลาท่านเสด็จทีไรก็จะเห็นว่ามีแต่คนภายนอกเข้ามารับเสด็จมากมาย แต่สำหรับพวกเราพยาบาลที่ตึกสยามินทร์ไม่เคยได้รับเสด็จเลย เพราะก็ต้องทำงานเหมือนกัน การที่พระองค์ท่านเสด็จไปยังพระราชวังไกลกังวล พระองค์จะอยู่ในใจของพวกเราเสมอ”พญ.ญาณนันท์ กล่าว

ทั้งนี้ หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชวังไกลกังวลแล้ว เจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวังได้ทำการเก็บสถานที่ ซึ่งเตรียมไว้ให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ลงนามถวายพระพร บริเวณห้องโถงชั้นล่างศาลา 100 ปี พร้อมระบุว่าหากมีการแจ้งกลับมาว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับเมื่อไหร่ ก็จะมีการจัดสถานที่ถวายพระพรกลับมาตามเดิม

ขณะที่ประชาชนที่ไปเฝ้าส่งเสด็จไปแปรพระราชฐาน ณ พระราชวังไกลกังวลในวันนี้ มีเหล่าคนดังในแวดวงสังคมไปเฝ้าอยู่ด้านหน้า ๆ  อาทิ สามสรา เอี่ยมเอกดุลย์ กล่าวถึงความรู้สึก หลังจากได้ชื่นชมพระบารมีของทั้งสองพระองค์ รู้สึกปลาบปลื้มที่ได้เห็นทั้งสองพระองค์มีสีพระพัตกร์สดใสแม้ไม่ได้เห็นชัด ๆ เพราะประทับอยู่ในรถ แม้พระองค์ไม่ได้โบกพระหัตถ์ให้ แต่เพียงได้เห็นสายพระเนตรของพระองค์ที่ทรงทอดมองประชาชนที่มารอเฝ้าทั่วถึงกันหมด ก็รู้สึกปลื้มใจ  ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่ได้เฝ้ารับเสด็จ แม้ไม่ได้เห็นพระพักตร์ชัด ๆ  เห็นแค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว ในฐานประชาชนก็รู้สึกดีใจที่ทั้งสองพระงอค์หายจากอาการประชวรทั้งคู่ และได้ออกจาก รพ.ศิริราช แม้เป็นการชั่วคราว และเป็นการดีที่พระองค์จะได้เปลี่ยนอิริยาบถที่หัวหิน

“ดิฉันคิดมาตั้งแต่เกิดว่า อยากจะเห็นพระพักตร์ของพระองค์ก่อนตาย ตอนนี้นอนตายตาหลับแล้ว  เพราะดิฉันก็เป็นหนึ่งในคนไทยที่รักในหลวง เพราะทรงมีพระกรณียกิจมากมาย”

ด้าน รัตนาภา เทวกุล ณ อยุธยา เผยความรู้สึกว่า ดีใจที่ได้เห็นพระองค์มีพระพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ และทรงหายจากอาการประชวร  การที่ได้แปรพระราชฐานน่าจะเป็นสถานที่ที่พระองค์จะทรงพระเกษมสำราญ ตอนแรกไม่รู้เลยว่าท่านจะเสด็จวันนี้ แต่ลูกสาวได้รับพระราชทานปริญญาบัตรที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังจากออกธรรมศาสตร์เลยรีบมาเฝ้าเลย

"ดีใจที่ได้เห็นทั้งสองพระองค์พร้อม ๆ กัน และทรงหายจากพระอาการประชวรทั้งคู่ แม้ดิฉันทำงานในวังแต่ไม่ได้ถวายงานนานแล้ว แต่ครั้งนี้ได้มาเฝ้าพระองค์ ดิฉันมองพระองค์จนสุดสายตา วันนี้จึงถือเป็นมงคลทั้งลูกได้รับพระราชทานปริญญาบัตรและได้มาเฝ้าพระออค์ถือเป็นบุญตาที่สุดแล้ว"

จินดาภา เทวกุล ณ อยุธยา บุตรสาวของรัตนาภา กล่าวว่า วันนี้ถือว่าโชคดีมาก ๆ  เพราะตอนรับปริญญาบัตรได้เห็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ และพระชายา หลังจากออกจากหอประชุมก็รีบมาเฝ้าเลย แม้เหน็ดเหนื่อยเพราะยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้า วันนี้ถือเป็นโชคสองชั้น จินดาภายังไม่เคยมีโอกาสมาเฝ้าที่ศิริราช ครั้งนี้จึงถือเป็นครั้งแรก เห็นพระพักตร์สดใส ก็รู้สึกดีใจ

อนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2552 จนกระทั่งถึงวันที่ 1 ส.ค. ที่จะเสด็จฯกลับไปประทับ ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมระยะเวลาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราชของทั้งสองพระองค์ ประมาณ 3 ปี 10 เดือน โดยมีแถลงการณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งหมด 65 ฉบับ และแถลงการณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระประชวรขณะประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งหมด 14 ฉบับ

***ภาพโดยทีมภาพโพสต์***