posttoday

เสียงครวญจากเสม็ด คราบน้ำมันสะเทือนทั้งเกาะ

30 กรกฎาคม 2556

วิกฤตคราบน้ำมันที่รั่วไหลถึงเกาะเสม็ด ไม่เพียงกระทบธรรมชาติ แต่ยังสะเทือนการท่องเที่ยวทั้งเกาะ

โดย...วิทยา ปะระมะ

พลันที่กระแสน้ำพัดพาคราบน้ำมันดิบลอยมาถึงอ่าวพร้าว ณ เกาะเสม็ด ทะเลที่เคยสวยใส หาดทรายที่เคยขาวสะอาดก็ถูกระบายด้วยสีดำทะมึน ราวจิตรกรผู้ซุ่มซ่ามเตะเท้าสะดุดถังสีเปรอะเปื้อนกระจายเต็มแผ่นเฟรม

ไม่ต่างจากจิตใจของ "โต้ง" สุพิชยะ ฉายเหมือนวงศ์ เจ้าของ "ลิม่าโคโค่รีสอร์ท" รีสอร์ทหรูหน้าอ่าวพร้าว ที่ปกคลุมไปด้วยความตกใจ

"ตอนลูกน้องส่งรูปอ่าวที่เต็มไปด้วยน้ำมันให้ดู น้ำตาร่วงเลย" สุพิชยะ บรรยายความรู้สึกแรกที่รับรู้ว่าธรรมชาติอันบริสุทธิ์ จุดขายของรีสอร์ท กำลังถูกหายนะกระหน่ำเข้ามาตามเปลวคลื่น ระลอกแล้วระรอกเล่า...

"เห็นแบบนี้แล้วมันเซ็ง คุณเคยมาอ่าวพร้าวไหม มันสวยมาก หาดทรายขาวละเอียด ผมอยู่ที่นี่มา 10 ปี ปกติว่างๆก็ออกไปดำน้ำดูปะการัง แต่ตอนนี้มันไม่เหลือแล้ว"

ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจปิดรีสอร์ททันทีเป็นเวลา 2 อาทิตย์ โดยโยกย้ายลูกค้าไปพักรีสอร์ทในเครือแห่งอื่นๆบนเกาะ หรือใครอยากกลับก็จะเลื่อนเวลากลับมาใช้บริการครั้งใหม่ให้

"ลูกน้องผมก็ให้หยุด กลิ่นมันแรงมาก บางคนถึงขั้นมีอาการปวดหัว เจ็บตา"

ส่วนหลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อไปนั้น สุพิชยะ ยอมรับว่าตอนนี้ก็ยังรู้สึกช็อกอยู่ แต่ขอดูท่าทีของ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล ก่อนว่าจะรับผิดชอบในการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมอย่างไร

"เรื่องค่าเสียหายจากการปิดรีสอร์ทประมาณ 1 ล้านบาท แต่ผมไม่มายด์เลย ที่กังวลกว่าคือผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในอ่าวพร้าวว่าจะกลับคืนสู่สภาพเดิมได้อย่างไร ผมอยากเห็นบริษัทส่งนักวิชาการมาตรวจเช็คสภาพน้ำ ทราย และสิ่งแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน ส่วนเรื่องการหาลูกค้า ทางรีสอร์ทจะแก้ไขหาทางทำตลาดเอง"

เสียงครวญจากเสม็ด คราบน้ำมันสะเทือนทั้งเกาะ ทะเลฝั่งอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด

เช่นเดียวกับ ปริย ตันฑเกษม เจ้าของ "เสม็ด คาบาน่า รีสอร์ท" ซึ่งตั้งอยู่หน้าอ่าววงเดือน คนละฟากของเกาะกับอ่าวพร้าว แม้จะไม่โดนผลกระทบจาก "คราบน้ำมัน" แต่ก็โดนผลกระทบจาก "ภาพถ่ายคราบน้ำมัน" ไปเต็มๆ

"พอสื่อลงภาพข่าวหาดที่เต็มไปด้วยคราบน้ำมันเท่านั้นแหละ เอเย่นต์ก็โทรมาสอบถาม อีเมล์มาถามกันใหญ่ ผมถึงกับต้องถ่ายรูปหาดวงเดือนส่งไลน์ไปให้ดูว่าเราไม่โดนอะไร ยิ่งช่วง ก.ค.-ส.ค. เป็นช่วงวีคเอนด์ของยุโรป พอภาพข่าวแพร่ออก ก็ทำให้เริ่มมีการยกเลิกจองห้องพักแล้ว จะมากแค่ไหนยังสรุปไม่ได้ ต้องรอดูสถานการณ์อีก 2-3 วัน แต่ที่แน่ๆลูกค้าใหม่ที่เข้ามาคงไม่มี"

ปริย ฝากประเด็นให้สื่อมวลชนรอบคอบในการนำเสนอ เพราะข่าวสารเหตุการณ์ในวันแรกที่ถูกสื่อนำเสนอออกสู่สาธารณชนนั้น ประหนึ่งว่าเกาะเสม็ดโดนคราบน้ำมันดิบถล่มไปแล้วทั้งเกาะ ทั้งๆที่จุดที่ได้รับผลกระทบมีเพียง 5-6% เท่านั้น อีก 90% กว่า ยังอยู่ในสภาพพร้อมให้บริการนักท่องเที่ยว

"ถ้าภาพข่าวยังออกแบบนี้ ยังไม่รีบแก้ข่าว แย่แน่ ผมอยากให้สื่อมวลชนมาสำรวจพื้นที่อื่น มาพักที่รีสอร์ทผมก็ได้ จะได้เห็นว่าไม่มีคราบน้ำมันเลย อ่าววงเดือนยังสวยเหมือนเดิม"

ไม่ต่างกับที่แห่งนี้ "บ้านไทย แสงเทียน รีสอร์ท" ซึ่งตั้งอยู่บริเวณอ่าวเทียน ถัดมาจากอ่าววงเดือนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

"ปกติอ่าวแสงเทียนไม่ค่อยมีคนอยู่แล้ว ลูกค้าที่มาเค้าต้องการพักผ่อนเงียบๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าประจำที่มาทุกปี แต่พอมีข่าวออกไป รีสอร์ทพี่ถูกโทรแคนเซิลหมดเลย" ปรวิศา เขมทอง ผู้จัดการของบ้านไทยแสงเทียนรีสอร์ท กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุด

"คราบน้ำมันเข้าแค่อ่าวพร้าวที่เดียวแต่โดนไปทั้งเกาะ รีสอร์ทอื่นๆโดนผลกระทบจากข่าวไปด้วย โดยเฉพาะพวกที่ขึ้นฮอบินวนเกาะรอบเดียวแล้วรายงานสด แล้วปัญหามันจะลามเป็นลูกโซ่ ทั้งธุรกิจที่พัก อาหาร หรือบริการอื่นๆไปด้วย"

ปรวิศา ชี้ว่า ช่วงนี้อยู่ในช่วงโลว์ซีซั่นอยู่แล้ว ค่าห้องพักก็ต้องปรับราคาลง รายได้ในช่วงนี้ถือว่าพอประทังจ่ายเงินเดือนพนักงานให้พออยู่ไปถึงช่วงไฮซีซั่นเท่านั้น

"พอมาเจอเรื่องแบบนี้ มันก็สร้างความไม่มั่นใจให้กับชาวต่างชาติ แล้วความสูญเสียนี้ใครจะแบกรับ ที่เราพอทำได้ก็คืออธิบายกับเอเย่นต์ว่าหาดแสงเทียนไม่มีแม้แต่คราบฟิล์มน้ำมันให้เห็น"

อย่างไรก็ตาม อีกมุมหนึ่ง รีสอร์ทที่ไม่ได้เน้นลูกค้ายุโรปหรือใช้ระบบจองที่พักล่วง กลับได้รับผลกระทบน้อยกว่า

"ปราณี สังข์สุวรรณ" เจ้าของ "ไวท์แซนรีสอร์ท" บริเวณหาดทรายแก้ว บอกว่าไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย ไม่มีลูกค้าเช็คเอาท์หนี ไม่มีโทรแคนเซิล มีแค่โทรมาสอบถามก่อน พออธิบายว่าไม่มีผลกระทบ ลูกค้าก็เดินทางมาพักตามปกติ

"ส่วนใหญ่ลูกค้าเราเป็นชาวจีน ก็ไม่เห็นใครตกใจนะ เล่นน้ำกันตามปกติ"

อย่างไรก็ตาม จะกล่าวว่าไม่ได้รับผลกระทบเลยคงไม่ใช่ ปราณีชี้ว่าปกติแล้วจะมีชาวประมงจับสัตว์ทะเลจำพวกปลาหมึก กุ้ง ปลา โดยรอบเกาะ ส่วนหนึ่งก็จะเอามาซื้อขายกันในเกาะด้วย

ดังนั้นก็น่าเป็นห่วงว่าคราบน้ำมันที่อ่าวพร้าวจะส่งผลกระทบต่อสัตว์ที่นำมาเป็นอาหารหรือไม่?

"รีสอร์ทกับร้านอาหารพี่ วันๆนึงขายปูประมาณ 300 ตัว ปลา 300 ตัว กุ้งอีก 600 ตัว ต่อไปนี้จะซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารให้ลูกค้าก็คงต้องละเอียดรอบคอบ ตัวไหนมีกลิ่นน้ำมันก็จะไม่เอามาขาย เราไม่รู้ว่ามันมีอะไรสะสมในร่างกายหรือเปล่า เกิดลูกค้าทานไปแล้วโวยวายท้องเสียเราจะแย่เอา"

เช่นเดียวกับ "เกรียงศักดิ์ ปิยะตาตัง" ผู้จัดการ "ซีบีช" ร้านอาหารและบังกาโลว์ บริเวณอ่าวไผ่ ก็บอกว่าไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก แต่รีสอร์ทไฮโซที่อยู่ติดๆกันและใช้ระบบจองห้องพักล่วงหน้าก็เริ่มมีการโทรแคนเซิลกันแล้ว

"ลูกค้าเดิมไม่ตกใจกลัวอะไรนะ ยังเล่นน้ำกันสนุก แต่ก็คงมีบ้างในเรื่องความเชื่อมั่น คนที่ยังไม่เข้ามาก็จะกลัวเรื่องคราบน้ำมัน"

แต่กระนั้น เกรียงศักดิ์ยังมองในแง่ดีว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น เพราะปัญหาจำกัดอยู่แค่อ่าวๆเดียว อีก 3 เดือนจะเข้าช่วงไฮซีซั่น ถึงตอนนั้นคนอาจจะลืมหรือหายกลัวไปแล้วก็ได้

ข่าวล่าสุด

ALATi “สยาม เคมปินสกี้” เมดิเตอร์เรเนียนโมเมนต์ สำหรับวันธรรมดาที่สุดพิเศษ