posttoday

เผยอดีตพระมิตซูโอะไม่เคยแอบนัดเจอหญิง

29 มิถุนายน 2556

คนใกล้ชิดอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะเผยไม่เคยเห็นผู้หญิงในภาพไปไหนด้วยกันหรือแอบนัดเจอ ขณะที่ชาวบ้านถึงกับช็อก

คนใกล้ชิดอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะเผยไม่เคยเห็นผู้หญิงในภาพไปไหนด้วยกันหรือแอบนัดเจอ ขณะที่ชาวบ้านถึงกับช็อก

วันนี้ (29 มิ.ย. 56) บรรยากาศภายในวัดสุนันทวนาราม สาขาวัดหนองป่าพง ที่ 117 หมู่ 8 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีพระภิกษุ จำนวน 24 รูป สามเณร 3 รูป และ อุบาสิกา 7 คน ก็ยังคงปฏิบัติกิจวัตรประจำวันตามปกติ แต่เนื่องจากในช่วง 3 วันนี้ ไม่มีคอร์สปฏิบัติธรรม จึงทำให้วัดดูเงียบเหงาลงไป ประกอบกับวัดดังกล่าวเป็นวัดป่าก็จะมีบรรยากาศที่สงบเงียบเพื่อการปฏิบัติธรรม ไม่เหมือนวัดทั่วไป

พระอาจารย์หนูพรม สุชาโต รองเจ้าอาวาส รักษาการเจ้าอาวาส กล่าวว่า การที่จะให้คำตอบต่อกรณีที่อดีตพระมิตซูโอะออกมาประกาศยืนยันว่าจดทะเบียนสมรส ว่าจะมีผลกระทบต่อวัดหรือไม่นั้น ปัจจุบันไม่รู้ เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนประสานเข้ามาเพื่อขอยกเลิกการมาปฏิบัติธรรมตามกำหนดเดิม ซึ่งกิจกรรมคอร์สปฏิบัติธรรมก็ยังคงดำเนินไปตามปกติเช่นกัน ขณะที่พระสงฆ์ แม่ชี และคณะทำงาน ก็ไม่ได้มีการสอบถามหรือพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ เพราะมองเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องยอมรับตามนั้นไป ซึ่งยังคงปฏิบัติกิจวัตรประจำวันกันตามปกติ สำหรับเรื่องเงินบริจาคของวัด ทางคณะกรรมการวัดยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้แต่อย่างใด

ด้าน นายศุภมิตร แก้วงอก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ไทรโยค กล่าวว่า ในส่วนตัวไม่ได้ติดใจในเรื่องนี้ เพราะขณะที่ท่านอยู่ในสมณเพศก็ได้ปฏิบัติธรรม เผยแพร่พุทธศาสนา และสั่งสอนให้ทุกคนสร้างแต่คุณงามความดี นอกจากนี้ยังได้สร้างประโยชน์ให้กับชุมชนอย่างมากมาย ซึ่งขณะที่ท่านอยู่ในสมณเพศก็ไม่เคยมีเรื่องที่ทำให้เสื่อมเสียทั้งเรื่องเงินและเรื่องผู้หญิง ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงยอมรับได้กับการที่ท่านออกมาแถลง เพราะหากท่านยังอยู่ในสมณเพศแล้วแอบไปมีสีกา นั่นคือความผิดร้ายแรงอย่างมหันต์ ซึ่งชาวบ้านก็คงรับไม่ได้ และไม่ให้อภัยอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ หลังจากข่าวของท่านได้เผยแพร่ไปตามสื่อต่างๆ มากมาย ชาวบ้านส่วนหนึ่งต่างไม่เชื่อ และรู้สึกหดหู่ โดยได้สอบถามเข้ามาที่ตนมากมายถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ แต่ชาวบ้านบางคนก็รู้สึกรับไม่ได้ เนื่องจากเชื่อมั่นเลื่อมใสศรัทธาในตัวอดีตพระอาจารย์มาก จึงรู้สึกช็อก และก็สอบถามว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงกันแน่ ตนจึงต้องตอบไปว่าเป็นไปตามที่สื่อเผยแพร่ และยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น พร้อมกับปลอบไปว่า มันเป็นเรื่องของฟ้าลิขิตก็ให้เป็นไปตามนั้น แต่ชาวบ้านบางคนก็รู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้หน้าตาก็สวยดี ไม่น่ามาสึกพระอาจารย์เลย ตนจึงตอบไปว่า จะสึกไม่สึกอยู่ที่ตัวพระ ไม่ต้องไปโทษใคร ต้องโทษเวรกรรม พรหมลิขิต พระอาจารย์มีบุญอยู่ในผ้าเหลืองแค่นี้ ก็คือแค่นี้ แต่ชาวบ้านบางคนที่ไปปฏิบัติธรรมอยู่เป็นประจำ ก็ยังคงไปปฏิบัติธรรมและทำบุญใส่บาตรตามปกติ

นอกจากนี้ข่าวของอดีตพระอาจารย์ตั้งแต่วันที่ท่านลาสิกขา ได้มีผู้ใหญ่หลายท่านในจังหวัดกาญจนบุรีต่างสอบถามเข้ามามากมาย ซึ่งในวันนั้นก็ทราบแต่เพียงว่าท่านลาสิกขา เนื่องจากอาการป่วยด้วยโรคเบาหวาน และก็พยายามหาข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อให้ทุกคนได้กระจ่าง เนื่องจากหลายคนยังคงสงสัย และกังขา ไม่เชื่อว่าเกิดจากสาเหตุดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ จนกระทั่งมาเห็นภาพอดีตพระอาจารย์กับผู้หญิงตามสื่อต่างๆ ถึงได้ทราบเรื่อง

อย่างไรก็ตามหลังจากได้สอบถามกับแม่ครัว และคนขับรถผู้ใกล้ชิดกับท่าน จึงทราบว่า ผู้หญิงที่ปรากฏในภาพมานั่งวิปัสสนาที่วัดแห่งนี้เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้มีท่าทางสนิทชิดเชื้อกันเป็นพิเศษแต่อย่างใด มีการถวายน้ำปานะและถวายอาหาร ตามปกติที่ทำกัน เนื่องจากการนั่งวิปัสสนาไม่ได้นั่งกันตัวต่อตัวกับอดีตพระอาจารย์ แต่จะนั่งวิปัสสนากันนับร้อยคน ฉะนั้นผู้หญิงคนนี้จึงไม่ได้มีอะไรที่ผิดสังเกตไปจากคนอื่นๆ

คนขับรถก็ไม่ได้ระแคะระคายในเรื่องนี้ เพราะท่านไม่เคยปริปาก ที่ผ่านมาเวลาท่านไปทำกิจนิมนต์ที่ไหน ไม่เคยปรากฏผู้หญิงคนนี้นั่งรถไปด้วย หรือแอบนัดเจอกับผู้หญิงคนนี้ในสถานที่ที่ไปส่งท่านทำกิจนิมนต์เลย วันที่ท่านลาสิขาแล้วเดินทางออกนอกประเทศไปนั้น ก็ได้ขับรถไปส่งอดีตพระอาจารย์ที่กรุงเทพฯ ตามที่ท่านรับกิจนิมนต์ไว้ปกติ ซึ่งทุกครั้งท่านจะสั่งให้ขับรถกลับวัดได้เลย เพราะเนื่องจากว่าจะมีญาติโยมมารับและดูแลท่านในการเดินทางต่อไปยังสถานที่ต่างๆ เอง ซึ่งก็เป็นปกติที่ท่านเคยปฏิบัติมา จึงไม่ได้ผิดสังเกตแต่อย่างใด

“ในช่วงนี้มีกระแสของพระที่ไม่ดีออกมาเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ มากมาย ทำให้ชาวบ้านขาดความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงได้แต่ปลอบใจชาวบ้านไปว่า ขอให้นึกว่าทำบุญใส่บาตรกับผ้าเหลือง ทำบุญให้กับปู่ ย่า ตา ยาย และบรรพบุรุษของเรา เพื่อสร้างบุญสร้างกุศลให้กับตัวเอง ให้มีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ได้มีเงิน มีทองใช้ สุขสบาย ขอให้เราตั้งใจทำบุญก็พอ ทำแล้วสบายใจ นั่นก็คือความสุขแล้ว” นายศุภมิตร กล่าว

ข่าวล่าสุด

3 ชาติผนึกกำลังทลาย 'KK Park - ชเวก๊กโก' รังใหญ่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"