posttoday

เผยโฉม "เฮลาคลีออน" เมืองอียิปต์โบราณในตำนาน

19 พฤษภาคม 2556

เป็นเวลาหลายร้อยปีเมืองที่มีชื่อว่า “เฮลาคลีออน” ถูกเชื่อว่าเป็นเมืองที่อยู่ในตำนาน เป็นเมืองที่ครั้งหนึ่งเฮเลนแห่งกรุงทรอยและปารีสเคยเดินทางมาที่แห่งนี้ และเป็นเมืองที่เฮอรอโดทัส นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกกล่าวไว้ว่า ที่แห่งนี้เป็นเมืองอุดมไปด้วยความมั่งคั่ง

โดย...ณัฏฐญา เมฆสมณะศักดิ์

เมืองในตำนาน

เป็นเวลาหลายร้อยปีเมืองที่มีชื่อว่า “เฮลาคลีออน” ถูกเชื่อว่าเป็นเมืองที่อยู่ในตำนาน เป็นเมืองที่ครั้งหนึ่งเฮเลนแห่งกรุงทรอยและปารีสเคยเดินทางมาที่แห่งนี้ และเป็นเมืองที่เฮอรอโดทัส นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกกล่าวไว้ว่า ที่แห่งนี้เป็นเมืองอุดมไปด้วยความมั่งคั่ง

...แต่ทว่า ไม่มีใครล่วงรู้ว่าดินแดนแห่งนี้มีจริง

จนกระทั่งในปี 2543 ดร.ฟรองค์ ก็อดดิโอนักโบราณคดีใต้น้ำชาวฝรั่งเศสเดินทางมาพบเมืองในตำนานแห่งนี้ด้วยความบังเอิญ หลังจากทีมสำรวจต้องการไปสำรวจเรือรบฝรั่งเศสที่จมบริเวณนั้นในการรบแม่น้ำไนล์ช่วงศตวรรษที่ 18 ระหว่างฝรั่งเศสและอังกฤษ ทำให้นักโบราณคดี นักวิจัย รวมทั้งนักวิทยาศาสตร์ให้ความสนใจที่จะศึกษาดินแดนแห่งนี้เป็นอย่างมาก

รู้จักเฮลาคลีออน

เมืองเฮลาคลีออน ซึ่งเป็นชื่อตามภาษากรีก มีอีกชื่อหนึ่งว่าโทนิส ซึ่งเป็นชื่อในภาษาอียิปต์ ถูกพบอยู่ลึกไปใต้ท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ความลึกราว 150 ฟุต อยู่ห่างจากชายฝั่งอียิปต์ 6.5 กิโลเมตร ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของอ่าวอาบูเกียในปัจจุบัน เมืองนี้ถูกฝังอยู่ใต้ฝุ่นและทรายหนาเป็นเวลากว่า 1,200 ปี ทำให้ความสมบูรณ์ของวัตถุต่างๆ ที่ค้นพบยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก

เฮลาคลีออนเป็นเมืองอียิปต์โบราณ ที่อยู่ใกล้เมืองอเล็กซานเดรียของอียิปต์ เมืองแห่งนี้เป็นที่รู้จักตั้งแต่ 12 ศตวรรษก่อนคริสต์ศักราช แต่มามีบทบาทที่สำคัญและเจริญรุ่งเรืองในช่วงของฟาโรห์ ยุคปลาย คือช่วง 715-332 ปีก่อนคริสต์ศักราช หรือก่อนยุคก่อนการค้นพบอเล็กซานเดรีย

ล่าสุด จากการศึกษาของนักโบราณคดีมาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี ทีมสำรวจจึงได้เปิดเผยภาพสามมิติของเมืองแห่งนี้ให้ได้เห็นเป็นครั้งแรก โดยที่มีวิหารขนาดใหญ่ของอามุน ซึ่งเป็นเทพเจ้าของอียิปต์ในสมัยนั้นตั้งอยู่ใจกลางเมือง

ด้วยความสมบูรณ์ของวัตถุต่างๆ ที่พบ เป็นหลักฐานชั้นดีว่า เฮลาคลีออนเคยเป็นท่าเรือที่สำคัญของอียิปต์ เนื่องจากพบว่าเป็นเมืองที่มีคลองติดต่อกันเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่การส่งออกและนำเข้าสินค้าของอียิปต์

นอกจากนี้ ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางด้านศาสนา เนื่องจากมีวิหารอามุนตั้งอยู่ใจกลางก่อนที่เมืองแห่งนี้จะหายไปจากแผนที่โลก ในศตวรรษที่ 8 ซึ่งนักวิจัยคาดว่าเมืองจมอยู่ใต้น้ำ เพราะภัยธรรมชาติ

หลักฐานที่พบใต้ท้องทะเล

สิ่งที่ทีมนักวิจัยค้นพบได้แสดงให้เห็นว่า ดินแดนแห่งนี้เคยเป็นเมืองที่มีความมั่งคั่งและรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก

โดยทีมวิจัยได้พบเรือจำนวน 64 ลำ ที่นอนอยู่ใต้ชั้นทรายและฝุ่นของทะเล สมอเรือโบราณมากกว่า 700 ชิ้น เหรียญทองและวัตถุที่ทำจากทองแดง และหิน ซึ่งเป็นสิ่งที่บอกว่า เมืองแห่งนี้เป็นพื้นที่ค้าขายมาก่อน รูปปั้นขนาด 16 ฟุตมากมาย ซึ่งทีมวิจัยได้นำขึ้นมาบนผิวน้ำ นอกจากนี้ยังพบรูปปั้นขนาดเล็กของเทพเจ้าต่างๆ หลายร้อยรูปปั้น แผ่นหินขนาดใหญ่ ซึ่งถูกสลักภาษาอียิปต์โบราณและกรีกโบราณเอาไว้ โลงศพหินปูนขนาดเล็ก ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าครั้งหนึ่งเคยบรรจุสัตว์ที่ถูกมัมมี่เอาไว้เพื่อบวงสรวงเทพเจ้า นอกจากนี้ยังมีวัตถุอื่นๆที่นักวิจัยได้พบและอยู่ในขั้นตอนการศึกษาอีกมากมาย

ปริศนาที่ยังต้องแก้

แม้นักโบราณคดีจะค่อยๆ ไขปริศนาเมืองแห่งนี้ จากเคยคิดว่าเป็นเมืองที่ไม่มีจริงจนกระทั่งเมืองมาปรากฏแก่สายตา ทว่า สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่ในความสงสัยของนักโบราณคดีให้ต้องตามค้นหากันต่อไปก็คือ เฮลาคลีออนจมอยู่ใต้ทะเลได้อย่างไร เพราะตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลใดที่ยืนยันได้

สิ่งนี้ยังเป็นสิ่งที่ทีมนักวิจัยต้องศึกษากันต่อไป โดยทีมนักวิจัยก็กล่าวว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการทำความรู้จักกับเฮลาคลีออนที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์แห่งนี้เท่านั้น

“พวกเราอาจจะต้องใช้เวลาอีกกว่า 200 ปีที่จะเข้าใจดินแดนแห่งนี้ทั้งหมด” ดร.ก็อดดิโอ ผู้ค้นพบเฮลาคลีออน กล่าว

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"