ทำไมชาวพุทธจึงไหว้ต้นพระสรีมหาโพธิ์
การที่ชาวพุทธกราบไหว้บูชาต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น ทำให้เกิดคำถามจากคนศาสนาอื่นไม่มากก็น้อยว่าทำไมจึงไหว้ต้นไม้
โดย...สมาน สุดโต
การที่ชาวพุทธกราบไหว้บูชาต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น ทำให้เกิดคำถามจากคนศาสนาอื่นไม่มากก็น้อยว่าทำไมจึงไหว้ต้นไม้ ในเรื่องนี้มี 2 คำตอบ คือ 1 ตอบแบบย้อนถาม ในกรณีที่ผู้ถามนับถือศาสนาอื่น ให้ถามว่า ทำไมเขาจึงเคารพบูชารูป หรือสัญลักษณ์ศาสนาที่เขานับถือ เพราะคำตอบของเขากับของเราไม่ต่างกัน (อาจารย์เสถียร โพธินันทะ ชี้แนะ)
คำตอบที่ 2 เป็นคำตอบที่อิงประวัติศาสตร์อันยาวนาน นับตั้งแต่การตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต่อมาจึงเป็นดังตัวแทนแห่งพระพุทธองค์ ดังที่พระพุทธองค์ตรัสกับพระอานนท์ที่เชตวันมหาวิหารว่า พระศรีมหาโพธิ์เป็นตัวแทนพระพุทธองค์ได้ ซึ่งพระอรรถกถาจารย์กล่าวว่า เมื่อประชาชนถือเครื่องสักการะตั้งใจมาบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ พระเชตวัน แต่พระองค์เสด็จไปที่อื่นในเวลานั้น เครื่องสักการะนี้ควรวาง ณ ที่ใด
เมื่อพระอานนท์ทูลถาม พระองค์จึงทรงอนุญาตให้นำเมล็ดจากต้นพระศรีมหาโพธิ์มาปลูกไว้ที่วัดพระเชตวัน เพื่อให้ประชาชนได้สักการบูชาแทนองค์พระพุทธองค์
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พระอานนท์ปลูกในครั้งนั้นมีชื่อว่า “อานนทโพธิ” หรือ “ต้นโพธิ์อานนท์” ซึ่งยังคงยืนต้นตระหง่านอยู่ที่วัดพระเชตวัน มาจนทุกวันนี้มีอายุกว่า 2,500 ปี ถือว่าเป็นต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่มีอายุยืนยาวที่สุด และยังได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี (ดร.วีระชัย ณ นคร เขียนบทความเรื่องพระศรีมหาโพธิ์ ในวารสารไทย ปีที่ 32 ฉบับที่ 122 เม.ย.มิ.ย. 2555)
ต้นพระศรีมหาโพธิ์มาเกี่ยวข้องกับพระพุทธองค์ตั้งแต่ยังเป็นพระโพธิสัตว์ หลังจากทรงรับข้าวมธุปายาสจากนางสุชาดา รับหญ้าคาจากโสตถิยพราหมณ์ แล้วนำมาปูลาดใต้ต้นอสัตถพฤกษ์ หรือต้นพระศรีมหาโพธิ์ ทรงตั้งสัจอธิษฐานว่า กมลสันดานแห่งอาตมะไม่พ้นอาสวกิเลสกามคุณตราบใด ถึงแม้มาตรว่าหฤทัยแลเนื้อหนังทั้งเอ็น สมอง อัฐิ จะแห้งเหือด ตลอดถึงมันข้นจนทั่วสรีระกาย อาตมะก็มิได้ทำลายซึ่งสมาธิบัลลังก์อันนี้เลย คงจะเพียรให้บรรลุเสวยพุทธาภิเษกสมบัติ บนวชิรบัลลังก์อันนี้ให้จงได้ ตั้งพระทัยหมายมั่นพระสัพพัญญุตญาณ
ในคืนเพ็ญวันวิสาขะนั้นพระองค์ทรงชนะมารและเสนามาร ตรัสรู้อริยสัจ 4 เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของชาวโลกทั้งมวล
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ในวันนั้น มีลักษณะอย่างไร หนังสือปฐมสมโพธิกถา พรรณนาว่าลำต้นพระศรีมหาโพธิ์อันมีประมาณสูงได้ 50 ศอกถึงคาคบนั้น ก็งามปานประหนึ่งรัชดาขันธ์อันปราศจากราคี มีสาขาเป็นพุ่มตลอดถึงยอดก็สูงได้ 50 ศอกเท่ากัน ครุวนาดุจฉัตรมณีกางกั้นองค์พระมหาบุรุษราช เบื้องบนทิศอากาศ ควรจะปีติโสมนัสแก่ผู้ได้ทัศนาการ แลหน่อแห่งพระศรีมหาโพธิ์นั้นมีพรรณแดงดุจแก้วประพาฬโอภาส แลพิลาสสลับกับระเบียบแห่งไพโรจน์อร่ามงาม ดุจสีสุวรรณพิจิตเจริญนัยนา
ความสำคัญของต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น ดร.วีระชัย ณ นคร เขียนว่า ในรัชสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช หลังจากพระบรมศาสดาปรินิพพานประมาณ. 300 ปี ได้ส่งพระนางสังฆมิตตาเถรี ซึ่งเป็นพระราชธิดาไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังสิงหลประเทศ (ศรีลังกา) พระองค์โปรดให้พระราชธิดานำกิ่งทางด้านตะวันออกของพระศรีมหาโพธิ์ต้นแรก ณ พุทธคยา ไปถวายแด่พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ และพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะโปรดให้ปลูกไว้ที่มหาเมฆวันอุทยาน เมืองอนุราธปุระ บัดนี้ยังมีชีวิตอยู่ ถือเป็นต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกต้นหนึ่ง มีอายุประมาณ 2,300 ปี มีประวัติบันทึกการปลูกไว้ชัดเจน เป็นสมบัติที่สำคัญของประเทศศรีลังกา ทางราชการศรีลังกาล้อมรั้วไว้หลายชั้น มียามเฝ้าดูแล ห้ามคนไม่ให้เข้าไปใกล้ต้นโพธิ์นี้โดยเด็ดขาด มีการอนุบาลและดูแลอย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม ต้นศรีมหาโพธิ์ต้นแรก ณ พุทธคยานี้ ได้ถูกพระนางมหิสุนทรี มเหสีองค์ที่ 4 ของพระเจ้าอโศกมหาราช ทำให้ตายด้วยการนำน้ำร้อนและยาพิษมาราด เพราะอิจฉาที่พระเจ้าอโศกมหาราชให้ความสำคัญมากกว่าตน พระเจ้าอโศกมหาราชทรงเสียพระทัยมาก จึงโปรดเกล้าฯ นำนมโคจากแม่โคถึงร้อยตัวมารดแทนน้ำ และเฝ้าอธิษ…ฐานให้ต้นโพธิ์นั้นฟื้นคืนมา ต่อมาไม่นานต้นศรีมหาโพธิ์ก็มีหน่อขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง (สิริอายุได้ 352 ปี) นับเป็นพระศรีมหาโพธิ์รุ่นที่ 2
โดยพระเจ้าอโศกมหาราชเป็นผู้ปลูก เมื่อสิ้นพระเจ้าอโศก ก็ถูกกษัตริย์ฮินดู ชื่อพระเจ้าศศังกะ ที่มีอำนาจปกครองในแคว้นเบงกอล สั่งให้ทหารเผาทำลายพระศรีมหาโพธิ์ต้นนั้นจนสิ้น เพราะต้องการทำลายพุทธศาสนา แต่พระศรีมหาโพธิ์ต้นที่ 3 ก็เกิดขึ้นมาอีก จากความพยายามและแรงอธิษฐานของพระเจ้าปูรณวรมา แห่งแคว้นมคธ
เมื่อหลวงจีนหยวนฉ่าง ได้เดินทางจากประเทศจีนมายังอินเดีย และใน พ.ศ. 1143 ไปที่พุทธคยา หรือโพธิคยาแห่งนี้ ได้กล่าวถึงต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ปลูกโดยพระเจ้าปูรณวรมาต้นนี้ไว้ด้วย
ครั้นเวลาล่วงถึง พ.ศ. 2419 เซอร์อเล็กซานเดอร์ คันนิงแฮม นักโบราณคดีของอินเดีย(Archaeological Survey of India) ได้เดินทางมาพุทธคยา เห็นต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่มีอายุมาก ถูกพายุพัดหักโค่น จึงนำเมล็ดไปเพาะใหม่ และได้หน่อมา 2 หน่อ จึงปลูกขึ้นใหม่ในที่เดิม (สิริอายุได้ 1,2561,276 ปี) ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่เซอร์อเล็กซานเดอร์ คันนิงแฮม ปลูกจัดว่าเป็นรุ่นที่ 4 ที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่นำมาปลูกในเมืองไทยนั้น 2 ครั้ง ครั้งแรกมาจากเกาะลังกา ใน พ.ศ. 2357 สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ตามพงศาวดารว่า พระสมณทูตไทยไปเกาะลังกาเพื่อเชื่อมศาสนสัมพันธ์ของสองประเทศ เมื่อเดินทางกลับ
คณะสงฆ์เกาะลังกาถวายหน่อพระศรีมหาโพธิ์มา 6 ต้น โปรดเกล้าฯ ให้ปลูกไว้ที่เมืองนครศรีธรรมราช 2 ต้น นอกนั้นปลูกไว้ที่วัดมหาธาตุ วัดสุทัศน์ วัดสระเกศ และที่เมืองกลันตัน แห่งละ 1 ต้น
อีกครั้งหนึ่งมาจากพุทธคยาโดยตรง ในสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้ปลูกไว้ที่วัดเบญจมบพิตร วัดอัษฎางคนิมิตร และวัดอุภัยราชบำรุง หรือวัดญวน ตลาดน้อย ต้นพระศรีมหาโพธิ์ยังงอกงามในวัดดังกล่าวถึงทุกวันนี้
นี่คือคำตอบว่าทำไมจึงไหว้ต้นพระศรีมหาโพธิ์


