ชาวพิษณุโลกเฮจับอึ่งขายรายได้ดีกก.ละ150บ.
ชาวบ้านเมืองสองแคว อาศัยช่วงฝนตกหนัก ออกจับ "อึ่งโกก"ส่งขายแม่ค้าในตลาดสด นำมาขายสร้างรายได้ ราคากิโลกรัมละ 150 บาท
ชาวบ้านเมืองสองแคว อาศัยช่วงฝนตกหนัก ออกจับ "อึ่งโกก"ส่งขายแม่ค้าในตลาดสด นำมาขายสร้างรายได้ ราคากิโลกรัมละ 150 บาท
ที่ตลาดใต้ หรือ ตลาดเทศบาล 1 เทศบาลนครพิษณุโลก อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีชาวบ้านจากต่างอำเภอได้จับอึ่งโกก มาวางขายให้กับประชาชนทั่วไปผู้นิยมบริโภคอาหารจากทุ่งนา โดยตั้งราคาขาย กิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูง เมื่อเทียบกับกบที่เลี้ยงจากฟาร์ม ที่ขายในราคากิโลกรัมละ 120 บาท ด้วยผู้บริโภคนิยมในรสชาติของอึ่งโกก และกบนา ที่จับมาจากท้องนาธรรมชาติว่ารสชาติดีกว่ากบฟาร์ม ไม่มีกลิ่นสาบมากเหมือนกบที่เพาะเลี้ยงในฟาร์ม
แม่ค้าที่จำหน่ายอึ่งโกก เปิดเผยว่า มีชาวบ้านจากอำเภอต่าง ๆ ออกจับอึ่งโกกและกบนาในช่วงกลางคืน และนำมาส่งให้แม่ค้าตลาดวางขายในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ช่วงนี้เริ่มจับได้ในปริมาณมาก เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูฝน พิษณุโลกมีฝนตกชุกสองสามวันที่ผ่านมา ทำให้อึ่งโกกออกมาจากที่ซ่อน จึงจับได้ในปริมาณมาก ผู้ซื้อนิยมนำไปประกอบอาหารหลากหลาย ทั้งแกง ผัดเผ็ด ต้มยำ
อึ่งโกก มีชื่อเรียกหลายชนิดตามแต่พื้นที่ อาทิ อึ่งเผ้า , อึ่งดำ , อึ่งปากขวด , อึ่งโกก , อึ่งกระโดน กระจายพันธุ์ทั่วประเทศไทย ลักษณะ มีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ ลำตัวป้อม ปากเล็ก ขาสั้น ความยาวประมาณ 75 มม. ชอบขุดโพรงอยู่ตามพื้นล่างของป่าหรืออ่างเก็บน้ำ พื้นดินที่มีความร่วน โดยเฉพาะฤดูแล้งจะอาศัยในโพรงดินตลอดเวลา แต่ระหว่างฤดูฝนจะขึ้นมาหากินบนพื้นดินในเวลากลางคืน ผสมพันธุ์และวางไข่ในคืนที่ฝนตกหนักมากในช่วงแรกของฤดูฝน ซึ่งอึ่งโกก ไม่ได้เป็นสัตว์ป่าตาม พรบ.คุ้มครองและสงวนสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ถูกชาวบ้านจับบริโภคและเพื่อขายจำนวนมากในแต่ละปี


