พระราชชายา เจ้าดารารัศมี (3)
เมื่อพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าดิลกนพรัตน์ กรมหมื่นสรรควิสัยนรบดี ไปทูลลาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชชนก เพื่อไปส่งพระราชชายา
โดย...วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย
เมื่อพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าดิลกนพรัตน์ กรมหมื่นสรรควิสัยนรบดี ไปทูลลาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชชนก เพื่อไปส่งพระราชชายา เจ้าดารารัศมีที่นครสวรรค์นั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็มีพระราชหัตถเลขาถึงพระราชชายา เจ้าดารารัศมี ดังนี้
วันที่ ๑๖ ก.พ. รัตนโกสินทรศก ๑๒๗
ดารา
ด้วยวันนี้ดิลกฯ ลาว่าจะขึ้นไปส่ง เผอิญพอฝรั่งให้เอารูปถ้ำมองมาขาย จึงนึกไปว่าตามทางจะเปล่าเต็มที อ่านหนังสือตาลายเพื่อจะหยุดดูรูปเล่นให้เป็นการแก้รำคาญ
แต่เสียดายเวลาไม่พอที่จะได้จดชื่อตำบลลงเป็นหนังสือไทยนอกจากเมืองจีนและญี่ปุ่นเป็นที่ซึ่งเคยไปเที่ยวแล้วโดยมาก ที่เล่าถึงหนังสือไกลบ้านก็มีหลายตำบล ยังมีสวิซเซอร์แลนด์ เบลเยี่ยมและฮอลแลนด์ที่ได้ไป แต่เห็นว่าที่ส่งมาถึง ๗๙๘ มากเต็มที่อยู่แล้วจะไม่มีที่เอาไป แต่เท่านี้ก็หนักพออยู่แล้วไม่แน่ใจว่าจะชอบฤๅไม่เพราะมันหนักเรือกีดที่เต็มที แต่ถ้าเป็นเรือมีขั้วสมุดจะเรียงแทนสมุดก็ได้ดุ๊ก และเจ้าชาย ว่าคงชอบจึงได้ส่งขึ้นมาแต่ถ้าพะรุงพะรังนักส่งให้ดิลกฯ คืนมาเสียก็ได้ มันยังมีช่องที่จะส่งถึงได้ ก็ส่งด้วยความคิดถึงเท่านั้น
ขออำนวยพรอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับความรัก
(พระปรมาภิไธย) จุฬาลงกรณ์ ป.ร.
เมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รื้อตำหนักเก่าลงเพื่อจะสร้างตำหนักใหม่ก็ได้มีพระราชโทรเลขไปดังนี้
ที่ กรุงเทพฯ
วันที่ ๒๗ ก.พ.รัตนโกสินทรศก ๑๒๗เจ้าดารารัศมี เมืองกำแพง
รับโทรเลขแล้ว มีความยินดีที่ได้ทราบว่าสบาย ได้รับหนังสือจากขาณุวันที่ ๒๒ แล้ว คิดถึงอยู่เสมอ เรือนลงมือรื้อแล้ว
สยามินทร์
เมื่อพระราชชายา เจ้าดารารัศมี มีอายุครบ 36 ปี ระหว่างการเดินทางไปเชียงใหม่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ได้ทรงแสดงความรัก ความผูกพัน ต่อพระราชชายาด้วยการส่งของขวัญซึ่งเป็นหีบบรรจุคำอำนวยพรและความคิดถึงไปดักรอที่เชียงใหม่ ดังลายพระราชหัตถเลขา ลงวันที่ 6 มี.ค.รัตนโกสินทรศก 127 ความว่า
ดารา
ด้วยนึกถึงเจ้าอายุเต็มสามรอบ ได้คิดไว้แล้วว่าจะให้ของขวัญเผอิญประจวบเวลาไม่อยู่ จะให้ก่อนขนไปทำไม่ทัน จึงได้จัดส่งขึ้นมาด้วยหวังว่าจะได้รับที่เชียงใหม่ ไม่ช้ากว่าวันไปถึงเท่าใด ขออำนวยพรให้มีอายุยืนยาวหายเจ็บไข้กลับลงมาโดยความสุขสบายทุกประการ ขอให้ดูหนังสือที่เขียนไว้ข้างในหลังหีบหน่อย เผลอไปจะไม่ได้อ่าน ขอบอกความคิดถึงอยู่เสมอไม่ขาด ตัวไปเที่ยวเองทิ้งอยู่ข้างหลังไม่ห่วง ครั้นเวลาเจ้าจากไป รู้สึกเป็นห่วงมากจริงๆ
(พระปรมาภิโธย) จุฬาลงกรณ์ ป.ร.
หีบบรรจุคำอำนวยพร
และความคิดถึง
ของ
จุฬาลงกรณ์ ป.ร.
ส่งไปให้ดารารัศมีผู้เป็นที่รัก
เมื่ออายุครบสามรอบบริบูรณ์
ในสมัยเมื่อกลับไปเยี่ยมนครเชียงใหม่
รัตนโกสินทรศก ๑๒๗
หลังตำหนักใหม่ของพระราชชายา เจ้าดารารัศมี เริ่มปลูกสร้างเป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็มีพระราชหัตถเลขาไปเล่ารายละเอียดของตำหนักใหม่ว่ามีลักษณะอย่างไร มีรายละเอียดต่างอย่างไรดังนี้
วันที่ ๖ มี.ค. รัตนโกสินทรศก ๑๒๗
ดารา
ได้รับโทรเลข จะต้องการรูป เข้ากรอบแล้วไปติดบ้าน เจ้าอุปราชนั้นได้ส่งมากับหนังสือนี้ รูปนี้เป็นรูปถ่ายใหม่ เขาว่ากันว่าเหมือน
เรื่องเรือนทำเป็นรูปกงฉานทำนองนี้ห้องนอนอยู่ตะวันออกไม่ถูกแดดบ่าย รูปร่างพอใช้ได้ ถ้านับขื่อเป็น ๙ ห้อง ถ้านับฝากั้นห้องเป็นข้างบน ๕ ห้อง ข้างบนคือห้องนอน ห้องนั่ง ห้องเก็บของ ห้องกระได ห้องรับแขก ข้างล่างห้องเหมือนกันตามแต่จะจัดอย่างไร มีศาลากลางสวนตะพานเดินไปถึงด้วย มีเฉลียงด้านตะวันออกและด้านเหนือตลอด แต่ตะวันตกไม่มี มีแต่มุก นึกว่าคงสบายดีกลัวแต่จะต้องเร่งกันตาลาย ถ้านิ่งเข้าก็จะโอ้เอ้
นึกว่าจะรอปีใหม่จึงจะส่งหนังสือก็กลัวจะถึงช้า จึงรีบส่งเสียก่อน หนังสือทวนน้ำไม่ทันใจเลย
(พระปรมาธิไธย) จุฬาลงกรณ์ ป.ร.
ครั้นถึงเชียงใหม่ ได้ทรงสำราญอยู่กับพระประยูรญาติแล้ว พระราชชายา เจ้าดารารัศมี ก็ได้เสด็จไปนมัสการพระธาตุและปูชนียสถานสำคัญหลายแห่ง ทรงมีพระประสงค์ที่จะสร้างเจดีย์หรือที่ทางเหนือเรียกว่า กู่ และจะต้องการศิลาจารึกติดกับกู่ที่ทรงสร้างขึ้น จึงมีโทรเลขไปกราบบังคมทูลขอพระราชกรุณาต่อ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้รับพระราชหัตถเลขาตอบมาว่า
วันที่ ๒๔ เม.ย. รัตนโกสินทรศก ๑๒๗
ดารา
ด้วยได้รับโทรเลขว่า จะต้องการศิลาจารึกติดที่กู่ สอบถามกว้างยาวได้ความว่า กว้าง ๑๖ นิ้ว ยาว ๓ ฟุตนั้น ได้ศิลามาโตไปหน่อยจึงให้เลื่อยได้ขนาดแล้ววันนี้ได้มอบให้กรมหลวงดำรงฯ ขอให้ส่งขึ้นไป แต่เป็นของหนักจะเดินบกลำบาก จึงคิดจะส่งขึ้นไปทางเรือแต่จะให้เร็วกว่าปกติ
ข้างบางกอกเวลานี้สนุกอยู่ ไม่มีเหตุการณ์อะไร อากาศร้อนแต่มีลมมากดูเหมือนว่าจะเย็นกว่าทุกปี กำลังคิดทำนาที่ปลายถนนซางฮี้ ในทุ่ง ได้ลงมือซื้อควายเสร็จแล้ว แต่แรกนาของเราต้องเป็นเดือน ๗ แต่แรกนาสำหรับเมืองพรุ่งนี้ ในการเล่นละครขึ้นเรือนองค์สร้อย และคุณโหมด กรมนราฯ ส่งบทมาให้แล้วได้เอาส่งมาให้อ่านในซองนี้ด้วยเรื่องขวดแก้วเจียรนัย เป็นเรื่องที่แกเคยเล่นที่วิมานนฤมิตร วัดสระเกษแต่ก่อนแล้ว แต่เรื่องเครือฟ้าเป็นเรื่องมาตามบัตเตอไฟล ซึ่งเขียนไว้ในหนังสือไกลบ้าน ตอนเมืองปารีส เปลี่ยนญี่ปุ่นเป็นลาว ฝรั่งเป็นไทยเท่านั้น ที่แกทำคำร้องเช่นนี้เอาอย่างออปราฝรั่ง เพราะเคยได้ชมเจ้าเมืองเขมรร้องละคร กรมนราฯ ดูค่อยเฟื่องฟูขึ้น แต่กระนั้นคนยังดูน้อยจนผู้ดีก็ไม่ใคร่ดูเพราะเป็นเรื่องใหม่ ไม่เข้าอกเข้าใจแต่ต้องฟังมากดูมาก และไปอื่นไม่ได้ต่อไม่ติด ด้วยธรรมดาคนเราไปดูละครชอบไปนั่งพูดกันพอได้เห็นตัวละครเตะตาไปเตะตามา เสียงร้องเสียงพิณพาทย์เตะหูแล้วก็พอเท่านั้น ต้องการแต่จะพูดอย่างเดียวจึงไม่ค่อยชอบ
รู้สึกคิดถึงมาก เมื่อมีงานครั้งใด ใครก็บ่นถึงอยู่ทุกคราว
(พระปรมาภิไธย) จุฬาลงกรณ์ ป.ร.
และอีกฉบับหนึ่งมีความว่า
ที่ ๑๘ จากกรุงเทพฯ
วันที่ ๒๙ มิ.ย. รัตนโกสินทรศก ๑๒๘
เจ้าดารารัศมี เชียงใหม่
ดาวกาไหล่ทองที่จะประดับพระธาตุดอยสุเทพเขียนอย่างแล้วงามดี แต่ตามขนาดที่บอกมาโตมาก อยากทราบว่าที่ซึ่งจะติดนั้นแบบหรือรูปโก่งกลม จะติดกับปูนหรือจะได้ให้มีแกน คำจารึกนั้นดังนี้ ‘เจ้าดารารัศมีอันเป็นพระธิดาพระเจ้าอินทวิชยานนท์และเจ้าทิพย์ไกรสร ซึ่งได้ครองนครเชียงใหม่ อันได้ลงไปเป็นพระราชชายาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ กรุงเทพมหานครศรีอยุธยา ถ้วน ๒๒ พรรษา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กลับมาเยี่ยมนคร เมื่อจุลศักราช ๑๒๗๑ ได้เสด็จมานมัสการพระธาตุเจ้าดาวสุเทพนี้ ทรงศรัทธาแผ่หิรัญจำหลักรูปดาราทาสุวรรณอันวิจิตร์แผ่นนี้ประดับบูชาพระมหาธาตุเจ้าไว้เป็นที่ตั้งแห่งกุศลสมภาร’ จบเท่านี้ จะเอาตามนี้หรือจะขอแก้ไขเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง จะรีบส่งขึ้นไปให้ทันกับฉลองกู่ n
(พระปรมาภิไธย) สยามินทร์


