ดาวเสาร์
หากสภาพท้องฟ้าเอื้ออำนวย สัปดาห์นี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด
โดย...วรเชษฐ์ บุญปลอด
หากสภาพท้องฟ้าเอื้ออำนวย สัปดาห์นี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการสังเกตดาวเสาร์ ซึ่งในยุคอดีตจนถึงเมื่อ 200 กว่าปีก่อน เคยได้ชื่อว่าเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลดวงอาทิตย์ที่สุด ปลายเดือน เม.ย. 2556 ดาวเสาร์จะอยู่ที่ตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์เมื่อมองจากโลก ทำให้สว่างที่สุด และใกล้โลกที่สุดในรอบปี
ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์ที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่นเดียวกับดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร และดาวพฤหัสบดี วันที่ 28 เม.ย. 2556 โลกโคจรมาอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์กับดาวเสาร์ ผู้สังเกตบนโลกจึงเห็นดาวเสาร์ทำมุม 180 องศา กับดวงอาทิตย์ วันนี้ดวงอาทิตย์อยู่ในกลุ่มดาวแกะ หรือราศีเมษ ดาวเสาร์จึงอยู่ในกลุ่มดาวที่อยู่ตรงกันข้าม หรือนับไปอีก 6 ราศี นั่นคือกลุ่มดาวคันชั่ง หรือราศีตุล
การสังเกตดาวเสาร์ทำได้ง่ายมาก เวลาหัวค่ำ มองไปในทิศที่ดวงอาทิตย์ตก เราจะเห็นดาวพฤหัสบดีโดดเด่นอยู่บนท้องฟ้า เมื่อกลับหลังหัน ดาวเสาร์จะปรากฏอยู่เหนือขอบฟ้าด้วยมุมเงยใกล้เคียงกับมุมที่ดวงอาทิตย์อยู่ใต้ขอบฟ้า ณ เวลาที่สังเกตการณ์
กลุ่มดาวคันชั่งไม่มีดาวสว่างให้สังเกตได้ง่าย แต่ถูกขนาบข้างด้วยกลุ่มดาวเด่น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มดาวหญิงสาว ซึ่งมีดาวสไปกา (Spica) หรือดาวรวงข้าว เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุด กับกลุ่มดาวแมงป่อง ซึ่งมีดาวแอนทาเรส (Antares) หรือดาวปาริชาต ดาวฤกษ์สีแดงเป็นดาวสว่างที่สุด เราจึงพบว่าดาวเสาร์อยู่ระหว่างดาวสว่าง 2 ดวงนี้ หากลากเส้นระหว่างดาวพฤหัสบดี ผ่านดาวหัวใจสิงห์ในกลุ่มดาวสิงโต และผ่านดาวรวงข้าว ก็จะเป็นแนวเส้นอย่างคร่าวๆ ของสุริยวิถี อันเป็นเส้นทางที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านไปบนท้องฟ้าในแต่ละปี
ซ้ายมือของดาวเสาร์มีดาวฤกษ์สว่างอีกดวงหนึ่ง ชื่อดาวดวงแก้ว อยู่ในกลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ บางคนอาจสับสนว่าดาวเสาร์อาจเป็นดาวดวงนี้ เนื่องจากมีความสว่างและเปล่งแสงสีทองคล้ายกัน แต่สามารถแยกแยะได้โดยดาวเสาร์จะไม่กะพริบ หรือกะพริบน้อย ต่างจากดาวดวงแก้วที่กะพริบถี่ๆ เราอาจสังเกตได้อีกอย่างว่าหางของดาวจระเข้ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือในเวลาหัวค่ำ จะชี้ไปที่ดาวดวงแก้ว และสามารถลากเส้นสมมติต่อไปหาดาวเสาร์และดาวรวงข้าว ดาวดวงแก้วจึงอยู่ตรงกลางระหว่างดาวจระเข้กับดาวเสาร์
ดาวเสาร์โคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยคาบประมาณ 30 ปี แต่ละปีเราจึงเห็นดาวเสาร์เคลื่อนที่เปลี่ยนตำแหน่งไปตามกลุ่มดาวจักรราศี และทำให้วันที่ดาวเสาร์อยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ขยับช้าลงปีละประมาณ 2 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เช่น ปีที่แล้ว ดาวเสาร์อยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ในวันที่ 16 เม.ย. 2555 ปีนี้ขยับมาเป็นวันที่ 28 เม.ย. ปีถัดไปจะขยับไปเป็นวันที่ 11 พ.ค. 2557 23 พ.ค. 2558 3 มิ.ย. 2559 15 มิ.ย. 2560 ...
ดาวเคราะห์ไม่เพียงแต่เคลื่อนที่ไปข้างหน้าเท่านั้น การโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ด้วยความเร็วที่สูงกว่าดาวเสาร์ ก็ทำให้ในช่วงเวลาหนึ่งเราจะเห็นดาวเคราะห์เคลื่อนที่ถอยหลังไปทางทิศตะวันตกเมื่อเทียบกับดาวฤกษ์ ปีนี้ดาวเสาร์เคลื่อนที่ถอยหลังในช่วงวันที่ 19 ก.พ.9 ก.ค. 2556 ทำให้ดาวเสาร์ถอยจากกลุ่มดาวคันชั่งเข้าสู่กลุ่มดาวหญิงสาวในกลางเดือน พ.ค. จากนั้นจึงกลับเข้าสู่กลุ่มดาวคันชั่งอีกครั้งในต้นเดือน ก.ย. 2556
หลังจากผ่านช่วงนี้ไปแล้ว เราจะเห็นดาวเสาร์เคลื่อนสูงมากขึ้น เมื่อเทียบตำแหน่งในเวลาหัวค่ำของทุกวัน ระยะห่างระหว่างโลกกับดาวเสาร์จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นด้วย ดาวเสาร์จึงจางลงเล็กน้อยอย่างช้าๆ ปลายเดือน ก.ค. ดาวเสาร์จะทำมุม 90 องศา กับดวงอาทิตย์ จึงเห็นอยู่สูงทางทิศใต้ในเวลาหัวค่ำ
เดือน ก.ย. ดาวเสาร์จะปรากฏอยู่เคียงข้างดาวศุกร์ ใกล้กันที่สุดในค่ำวันที่ 18 ก.ย. ที่ระยะห่างเพียง 3.5 องศา จากนั้นเมื่อถึงต้นเดือน ต.ค. ดาวเสาร์จะอยู่ต่ำใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันตก แล้วหายเข้าไปในแสงจ้าของดวงอาทิตย์ในช่วงปลายเดือน ต.ค. 2556
ความสว่างของดาวเคราะห์มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทั้งระยะห่างจากดวงอาทิตย์ ระยะห่างจากโลก มุมที่แสงตกกระทบ ซึ่งทำให้ดาวพุธและดาวศุกร์มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างเป็นเสี้ยว ครึ่งดวง เต็มดวง คล้ายดิถีของดวงจันทร์ แต่เมื่อเทียบความสว่างระหว่างดาวเคราะห์ทั้งห้าในขณะสว่างที่สุด ดาวเสาร์มีความสว่างน้อยที่สุด นอกจากปัจจัยในแง่ของระยะทาง วงแหวนของดาวเสาร์ที่มีการหันเหตามมุมมองจากโลก และทิศทางของแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบวงแหวน ก็ส่งผลต่อความสว่างของดาวเสาร์ด้วย
แคสซีนี (Cassini) เป็นยานอวกาศที่กำลังปฏิบัติงานอยู่ในวงโคจรรอบดาวเสาร์ ภารกิจของยานแคสซีนีมีกำหนดสิ้นสุดในกลางเดือน ก.ย. 2560 เมื่อถึงเวลานั้น คาดว่านาซาจะบังคับให้ยานพุ่งชนดาวเสาร์ จบภารกิจที่ยาวนานถึงเกือบ 20 ปี นับตั้งแต่ออกเดินทางจากโลกเมื่อเดือน ต.ค. 2540


