พายุถล่มประจวบเรือล่ม-บ้านพังอื้อ

ประจวบอ่วม! พายุฤดูร้อนถล่ม ทำคลื่นยักษ์ซัดเรือประมงเกยหาดเสียหายยับกว่า 40 ลำ  บ้านพังจำนวนมาก

เมื่อเวลา 03.00  น.(13เมย.) ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มพื้นที่   ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์  ทำให้บ้านเรือนของประชาชนที่หมู่ 2 บ้านชายทะเล หมู่ที่ 3 บ้านคั่นกระได ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ขณะดียวกันผลจากพายุดังกล่าวทำให้เกิดคลื่นทะเลขนาดใหญ่สูงกว่า 4 เมตร พัดเข้าถล่มชายฝั่งหมู่ 2  หมู่ 3 และ หมู่ 13 บ้านทุ่งมะเม่า  ทำให้เรือประมงชายฝั่งขนาดเล็กได้รับความเสียหายหลังจากถูกคลื่นยักษ์ซัดเกยหาดกว่า 70 ลำ และเรือประมงบางส่วนได้จมในทะเล สร้างความเสียหายมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ขณะที่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ทำให้ชาวประมงที่ได้รับความเดือดร้อนต้องรวมตัวกันเพื่อลากเรือที่ถูกคลื่นซัดเกยหาดลงในทะเลเพื่อทำการซ่อมแซม

ต่อมา นายพันธุ์ศักดิ์  ใจใหญ่  นายก อบต.อ่าวน้อย กล่าวว่า พายุดังกล่าวมีความรุนแรงมากที่สุดในรอบ 50 ปี และจากการสำรวจความเสียหายพบว่ามีเรือประมงชายฝั่งได้รับความเสียอย่างหนักจำนวน 40 ลำ    ล่าสุดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจเพื่อรายงานความเสียหายให้กับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ( ปภ.)  เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันมีบ้านเรือนของชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 ถูกพายุพัดหลังคาได้รับความเสียหายกว่า  20 หลังคาเรือน รวมทั้งมีต้นไม่ขนาดใหญ่หักโค่นจำนวนมาก

นายมนัส ปานน้อย ชาวเรือประมง กล่าวว่า เมื่อประมาณ ตี3 เกิดมีพายุลมแรงพัดเข้ามาในหมู่บ้านพัดบ้านสั่นไปทั้งหลัง หลังคาบ้านถูกลมพัดปลิวว่อน เมื่อพายุลมสงบลงออกไปตรวจสอบเรือที่จอดชายทะเลพบว่ามีเรือล่มจมน้ำทะเลเป็นจำนวนมาก โดยเรือของตนถูกพัดเข้าฝังกระแทกโขดหินจนเรือแตกได้รับความเสียหาย ประมาณมูลค่าหลายหมื่นบาท อุปกรณ์ทำการประมงจมน้ำเสียหาย

นางศุภลักษณ์ โต๊ะระเด็น อายุ 45 ปี ชาวประมงอ่าวน้อย ซึ่งใช้เรือประมงกอแระจากภาคใต้ ย้ายมาทำการประมงที่บ้านอ่าวน้อย เปิดเผยว่า  ชู่วงที่เกิดพายุกลางดึกซึ่งอยู่ในบ้านพัก แต่ไม่กล้าออกมาจากบ้านเนื่องจากลมแรงมาก กลัวเป็นอันตรายขณะนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงเรือที่จอดอยู่แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จนเวลาผ่านไปกว่า 1 ชม.ลมฝนเริ่มสงบลง พากันออกมาที่ชายทะเลก็ไม่เห็นเรือ มีแต่น้ำที่ขึ้นมาจนถึงชายฝั่ง เห็นเรือหลายลำจมเห็นแต่เสากระโดงเรือ ระหว่างนั้นเองชาวบ้านเริ่มพากันออกมา ทุกคนรู้สึกเมื่อเรือจม จนกระทั่งฟ้าเริ่มสางตนเองก็พยามมองหาเรือ จนน้ำเริ่มลดลงจึงเห็นเรือถูกพายุพัดจมบ้าง บางลำถูกพายุพัดหอบขึ้นมาตั้งอยู่บนฝั่งหน้าบ้านก็มี  เรือนเองก็แตกอุปกรณ์ก็เสียหาย เหมือนกับหมดตัว และยังไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนมาซ่อมแซม

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ชาวบ้านที่เดือดร้อนต้องไปว่าจ้างให้คนขับรถไถมาช่วยกันพลิกเรือ และลากกบางลำลับเข้าฝั่ง บางส่วนก็พยามเก็บอุปกรณ์ขึ้นมา เรือบางลำใช้การไม่ได้ส่วนใหญ่ ชาวประมงที่บ้านอ่าวน้อย ที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าครั้งนี้รู้สึกรุนแรงมากในรอบหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งบางลำต้องใช้เงินซ่อมแซมตั้งแต่ 20,000-50,000 บาท บางลำไม่สามารถซ่อมแซมได้ก็มี และยังต้องใช้เวลา 1-2 เดือน แล้วแต่สภาพความเสียหาย ซึ่งชาวบ้านทุกคนยังคงเป็นห่วงว่าคืนนี้ยังจะมีพายุฤดูร้อน อีกหรือไม่เนื่องจากในช่วงบ่ายเริ่มมีฝนตกลงมาและทะเลมีคลื่นลมแรง

ด้านนายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผวจ .ประจวบฯและนายสุเทพ รื่นถวิล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ได้ออกสำรวจตามจุดต่างๆพบว่ามีเรือประมงพื้นบ้านถูกพายุพัดจนอับปางเป็นจำนวนมาก  รวมทั้งพายุฤดูร้อนได้ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างโดย ที่อำเภอหัวหิน อ.สามร้อยยอด อ.เมืองประจวบฯ อ.บางสะพาน  มีบ้านเรือนถูกพายุพัดหลังคาบ้านเสียหาย กว่า 150 หลังคาเรือน ขณะนี้กำลังเดินทางไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลือต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่หลังคาถูกพายุพัดหลุดหายไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บแต่อย่างใด  พร้อมกันนั้นได้เดินทางนำเครื่องอุปโภค บริโภคลงไปมอบให้กับชาวบ้านกว่า 120 หลังคาเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนที่อำเภอสามร้อยยอด เบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ให้อำเภอ เทศบาล อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เร่งสำรวจความเสียหายทั้งหมด เพื่อหาทางช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงาน อีกว่า นอกจากนี้ยังเกิดพายุฝนพัดกระหน่ำในตัวเมืองหัวหิน นานกว่า   1 ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และเกิดความเสียหายในหลายจุด โดยรูปปั้นช้างสามเศียร ซึ่งติดตั้งอยู่บนซุ้มเฉลิมพระเกียรติ บริเวณถนนทางเข้าตัวเมืองเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์   เกิดหักโค่นตกลงมาบนถนนฝั่งขาเข้ากรุงเทพ   อีกทั้งเวลาเดียวกัน โครงเหล็กป้ายโฆษณางาน อสม.แฟร์ ของเทศบาลเมืองหัวหิน บริเวณหน้าสำนักพระราชวังไกลกังวล ก็ถูกกระแสลมพายุพัดจนเกือบหักโค่นลงมาเช่นกัน 

ล่าสุดนายจีรวัฒน์ พราหมณี รองปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันบรรณเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองหัวหิน เข้าทำการตรวจสอบความเสียหาย และได้ทำการยึดโครงเหล็กไว้เป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของผู้ที่ขับขี่รถยนต์ผ่านเส้นทางดังกล่าว ก่อนที่จะทำการรื้อถอนออกไปในช่วงเช้าวันนี้     

นอกจากนั้นป้ายโฆษณาขนาดเล็กที่ติดตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม ยังถูกกระแสลมพัดพังเป็นจำนวนมาก  โดยเฉพาะในช่วงเกิดพายุฝนและลมกรรโชกอย่างรุนแรงนั้นยังทำให้หม้อแปลงไฟฟ้าเกิดระเบิดและส่งผลให้ไฟฟ้าดับในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ในส่วนของทิศตะวันตกนานกว่า 3 ชม. เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต้องระดมซ่อมแซม และสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้แล้วในช่วงเช้า  และยังทำให้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เกิดอุบัติเหตุลื่นจนเสียหลักตกข้างทาง และชนเสาไฟฟ้าหลายคัน  แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด  เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น  ล่าสุดพายุฝนได้สงบลงแล้ว และคาดดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเล่นสงกรานต์ของประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน