ชักเย่อ : กีฬาสากลสร้างชาติ

ผู้เขียนจำได้ว่าเคยเขียนบทความเกี่ยวกับกีฬาชักเย่อซึ่งเป็นกีฬาพื้นบ้านของไทยมาแต่โบราณกาล ซึ่งขณะนี้กีฬาชักเย่อได้กลายเป็นหนึ่งในกีฬายอดฮิตในต่างประเทศไปแล้ว โดยการแข่งขันกีฬาชักเย่อปัจจุบันมีทั้งการแข่งขันในระดับชิงแชมป์เอเชีย ยุโรป และระดับโลก รวมทั้งมีความพยายามจากคณะกรรมการบริหารของสหพันธ์กีฬาชักเย่อสากล (องค์กรระดับโลก) ที่จะให้กีฬาชักเย่อกลับมาเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเหมือนช่วงระหว่างปี 1900-1920

ถามว่าทำไมผู้เขียนถึงสนใจกีฬาชักเย่อ คำตอบก็คือ 1) เป็นกีฬาที่เล่นง่าย อุปกรณ์ในการแข่งขันสามารถจัดหาได้ง่าย 2) กีฬาชักเย่อสามารถใช้เงินสนับสนุนในจำนวนที่ไม่มาก 3) กีฬาชักเย่อเป็นที่รู้จักกันในไทยมาเป็นเวลานานแล้ว และเท่าที่ปรากฏเป็นหลักฐานพบว่ามีการเล่นกันมาในไทยนับตั้งแต่สมัยสุโขทัย

4) ชักเย่อเป็นกีฬาที่ต้องการความสามัคคีไม่ต้องการพึ่งพาซูเปอร์สตาร์เหมือนกีฬาชนิดอื่นๆ การฝึกและการแข่งขันจะทำให้คนไทยรู้จักการทำงานเป็นทีม 5) กีฬาชักเย่อเน้นน้ำหนักรวมในแต่ละรุ่น เพราะฉะนั้นความใหญ่โตของร่างกายจึงไม่ใช่สิ่งจำเป็น คนไทยสู้ได้กับนักกีฬาชาติอื่นๆ 6) กีฬาชักเย่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ เนื่องจากขณะนี้มีประเทศสมาชิกสหพันธ์ชักเย่อสากลทั่วโลกราว 67 ประเทศ และจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การแข่งขันระดับภูมิภาคแต่ละครั้งได้รับความสนใจจากหลายประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ในทีมเป็นไปด้วยดี สามารถขยายผลไปสู่วงการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งการสร้างสันติภาพระดับโลกได้

สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดว่าแต่ละชาติจะเก่งกว่ากันแค่ไหนในการแข่งขันชักเย่อก็คือ การมีแท็กติกที่สมบูรณ์ ความพร้อมเพรียง การมีระเบียบวินัย และความตั้งใจในการฝึกซ้อม โดยจะต้องเล่นบนพื้นฐานของกติกาสากล ถ้ากีฬาชักเย่อได้รับความสนใจจากคนไทยมากขึ้น หรือมีโอกาสก้าวไปถึงการเป็นแชมป์เอเชียหรือแชมป์โลกก็จะทำให้ไทยประกาศศักดาได้ว่า “ไทยเล่นกีฬาแบบทีมประสบผลสำเร็จแล้ว” ไม่ใช่เก่งเฉพาะกีฬาตัวต่อตัว

เมื่อช่วงระหว่างวันที่ 3-4 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้เขียนในฐานะที่เป็นประธานสหพันธ์กีฬาชักเย่อแห่งเอเชีย ได้ถูกรับเชิญไปเป็นเกียรติในพิธีเปิดและปิดการฝึกอบรมและสัมมนาผู้ฝึกสอนและผู้ตัดสินกีฬาชักเย่อระดับเอเชียที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย โดยมีสมาคมกีฬาชักเย่อแห่งประเทศไทยและการกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ณ การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมทั้งชาวไทยจากหลากหลายหน่วยงานอีกประมาณ 10 ประเทศ รวมทั้งหมดประมาณ 200 คน

ที่สำคัญมากที่สุดและถือได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการกีฬาชักเย่อในไทยและในเอเชีย ได้แก่ การที่ประธานสหพันธ์กีฬาชักเย่อสากล (ประธานโลก) และหัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวอังกฤษเดินทางมาเป็นวิทยากรอบรมให้ผู้เข้าร่วมอบรมและสัมมนาด้วยตัวของท่านเอง ซึ่งนับได้ว่าเป็นเกียรติต่อไทย

จากการสังเกตอย่างใกล้ชิดของข้าพเจ้าตลอดระยะเวลา 2 วัน พบว่า 1) ผู้เข้าร่วมสัมมนาให้ความสนใจเกินคาดทั้งๆ ที่การอบรมเป็นภาษาอังกฤษ 2) วิทยากรทั้งสองท่านจากต่างชาติมีความสุขมากตลอดการบรรยาย 3) ผู้เข้าร่วมอบรมไม่มีใครหนีกลับบ้านก่อนการอบรมเสร็จสิ้น และ 4) คนไทยผู้เข้าร่วมอบรมต่างเห็นตรงกันว่า ถ้าคนไทยได้รับการฝึกสอนดีๆ คนไทยจะเป็นแชมป์อะไรก็ได้ในโลกนี้

สิ่งที่วิทยากรต่างชาติทั้งสองท่านซึ่งเพิ่งมีโอกาสเดินทางมาไทยเป็นครั้งแรกกล่าวตรงกัน ได้แก่ 1) การให้การต้อนรับขับสู้สำหรับพวกเขาทั้งสองเป็นไปอย่างน่าประทับใจ 2) วิทยากรทั้งสองท่านยังไม่เคยเห็นการได้รับความสนใจในกีฬาชักเย่อมากมายเหมือนอย่างการอบรมในครั้งนี้จากคนไทย 3) ทุกๆ สถานที่ที่วิทยากรเดินทางไปในกรุงเทพฯ พวกเขาสังเกตเห็นได้ชัดว่า “คนไทยมีความเป็นมิตรและเป็นกันเองกับชาวต่างชาติ” และที่สำคัญก็คือ 4) วิทยากรจะกลับไปช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประเทศสมาชิกกีฬาชักเย่อทั้ง 67 ประเทศเดินทางมาเที่ยวไทย และมาแข่งขันกีฬาชักเย่อในไทยในอนาคตอันใกล้

ขณะนี้ไทยได้รับการคัดเลือกจากประเทศสมาชิกกีฬาชักเย่อแห่งสหพันธ์เอเชียจำนวน 21 ประเทศ ให้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาชักเย่อชิงแชมป์เอเชียประเภทในร่มช่วง ระหว่างวันที่ 15 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ ณ อาคารอินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก กรุงเทพฯ ของเรา จึงขอเชิญคนไทยมาให้กำลังใจทีมชาติไทยและมีอะไรที่จะสามารถให้การสนับสนุนกีฬาชักเย่อไทย กรุณาติดต่อได้ที่สมาคมกีฬาชักเย่อแห่งประเทศไทย ชั้นที่ 21 อาคารกีฬาเฉลิมพระเกียรติ การกีฬาแห่งประเทศไทย

อย่าลืมนะครับ ว่าอีกไม่นานเราจะเห็นกีฬาชักเย่อสร้างประเทศไทยให้โด่งดังในสังคมโลก....