พบแล้วควายประทานสลดถูกเชือดคาโรงฆ่าสัตว์
ตำรวจตามควายพระราชทานถูกขโมยหายไปจากวัดพบถูกเชือดตายแล้ว1 อีกตัวเตรียมส่งขายชายแดน
ตำรวจตามควายพระราชทานถูกขโมยหายไปจากวัดพบถูกเชือดตายแล้ว1 อีกตัวเตรียมส่งขายชายแดน
พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ได้ติดตามเส้นทางควายเพศผู้และเพศเมียรวมจำนวน 2 ตัวที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงไถ่ชีวิตมาจากโรงฆ่าสัตว์ ใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา และประทานให้ทางวัดเลี้ยงดูเมื่อปี 2551 แต่ถูกโจรกรรมไปตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา จำนวน 2ตัวหายไปจากวัดโตนดเตี้ย อำเภออุทัย แต่เป็นน่าเสียใจ ควายเพศผู้ชื่อ คล้าว ถูกฆ่า ในโรงฆ่าสัตว์ในเขตอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
ส่วน ทองกวาว ควายเพศเมีย ถูกขายต่อ ไปยังแนวชายแดนที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ตำรวจกำลังไปตามกลับคืนสู่วัด นอกจาก คนร้ายที่ถูกจับแล้ว 2 คน เพราะไปขโมยควายในวัด ยังมีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีกหลายคน ที่อยู่ในขบวนการโจรกรรมควายเพื่อขายเข้าโรงฆ่าสัตว์ ซึ่งถือว่ามีเครือข่ายเชื่อมโยงในหลายจังหวัดทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน
พระครูเกษม พัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโตนดเตี้ย กล่าวว่า สำหรับร่างของเจ้าคล้าว ที่ถูกฆ่านั้นได้นำกลับมาที่วัดแล้ว ท่ามกลางความเสียใจของชาวบ้าน และจะมีการประกอบพิธีและฝังที่วัดโตนดเตี้ย
ต่อมา พ.ต.อ.คมกฤติ ออนตระไคร้ ผกก.สภ.เชียงของ จ.เชียงรายได้สั่งการให้ ร.ต.ท.วีรศักดิ์ ชาวริม รอง สวป.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าไปควบคุมดูแลสถานที่เป็นโรงกักขังกระบือหรือควาย ไม่มีเลขที่ตั้งอยู่ที่ทุ่งท้ายหมู่บ้านเชียงคาน ม.14 ต.สถาน อ.เชียงของ เพราะได้รับว่าภายในมีการกักขังควายที่ชื่อทองกวาวอายุ 5 ปีของวัดโตนดเตี้ย หมู่ 4 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับการประสานจากตำรวจ ภ.1 ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุว่าควายตัวดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่และได้ถูกลำเลียงไปโดยพ่อค้าชาว อ.เชียงของ และนำไปขังเอาไว้ที่บริเวณดังกล่าว
ทั้งนี้สถานที่ที่มีการนำควายทองกวาวไปขังเอาไว้มีลักษณะเป็นโรงควายไม้หลังคาสูงไม่มีฝากั้น และมีกองฟางขนาดใหญ่ให้เป็นอาหารโดยไม่มีรั้วแต่มีการมัดควายเอาไว้ภายในจำนวน 2 ตัว โดยหนึ่งในนั้นคือเจ้าทองกวาวและอีกตัวถูกซื้อมาพร้อมกัน ทั้งนี้เป็นโรงควายของนายฮ่อน ไชยสี อายุ 61 ปี เลขที่ 41/1 ม.14 ซึ่งนายฮ่อนอยู่ในอาการตื่นตกใจและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดีโดยแจ้งให้ทราบว่าไม่เคยรับทราบมาก่อนว่าควายตัวดังกล่าวเป็นเจ้าทองกวาว
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปควบคุมสถานที่จึงแจ้งว่าเมื่อวันที่ 14 ก.พ.เจ้าทองกวาวและควายอีกหลายตัวที่ทรงไถ่ชีวิตเอาไว้ได้ถูกขโมย และเมื่อสืบสวนสอบสวนจากท้องที่เกิดเหตุดังกล่าวก็ทราบว่าหนึ่งในนั้นคือเจ้าทองกวาวถูกพ่อค้าชาว อ.เชียงของ ซื้อไปโดยตรวจสอบจากการให้ปากคำ บัญชีหรือบิลเงินสดในการซื้อขายระหว่างตลาดนัดโค-กระบือแห่งหนึ่งที่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี กับนายฮั่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.1 จึงแกะรอยเรื่อยมา ขณะเดียวกันทางพระครูเกษม พัฒนากร เจ้าอาวาสวัดโตนดเตี้ยซึ่งเคยดูแลควายดังกล่าวก็ได้เดินทางไปดูตัวเจ้าทองกวาว พร้อมระบุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นตัวจริงแน่นอน
นายฮ่อน กล่าวว่าได้ออกเดินทางจาก อ.เชียงของ ไปพร้อมกับนายจำรัส แก่นดี ชาวบ้านดอนศิลา อ.เวียงชัย เพื่อไปหาซื้อควายที่ตลาดนัด องทัพทัน โดยใช้รถบรรทุกหกล้อไปโดยสามารถหาซื้อได้จำนวน 4 ตัว เฉลี่ยตัวละ 30,000 บาท สำหรับจ้าทองกวาวราคา 28,000 บาท เมื่อได้แล้วก็ได้เดินทางกลับ อ.เชียงของ ถึงเช้ามืดวันที่ 16 ก.พ.เพื่อเตรียมจะนำมาเลี้ยงต่อเพื่อเป็นแม่พันธุ์ให้ลูกหลาน แต่ยังไม่ทันได้ดำเนินการใดๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้าไปตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งตนยืนยันว่าไม่รู้เรื่องมาก่อนว่าควายดังกล่าวคือเจ้าทองกวาวถ้ารู้ก็คงจะไม่รับซื้อมาแน่นอน และเมื่อทราบว่าเป็นเช่นนี้ก็พร้อมที่คืนควายให้กับทางวัดและตกลงคืนเงินซื้อขายกับคนขายต่อไป
ทั้งนี้หลังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและพระครูเกษมตรวจสอบเรื่องราวแล้ว ก็ได้นำเจ้าทองกวาวไปยัง สภ.เชียงของ เพื่อจะได้ส่งมอบให้กับคณะของนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้เดินทางไปรับเจ้าทองกวาวที่ อ.เชียงของ


