โรงงาน-ชาวนาเปิดศึกชิงน้ำ

แล้งหนัก3นิคมอุตสาหกรรมขอแบ่งชาวนากรุงเก่าฮือต้านแย่งปลูกข้าว

แล้งจัด ชาวนาโรงงาน จ่อเปิดศึกแย่งน้ำ ค้านนิคมฯ โรจนะขอซื้อน้ำจากกรมชลฯ

สถานการณ์ภัยแล้งส่งผลกระทบอย่างหนักกับทุกภาคการผลิต ไม่เพียงแต่ภาคเกษตรกรรมเท่านั้น ล่าสุดนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เสนอโครงการซื้อน้ำจากกรมชลประทาน โดยวางท่อส่งน้ำจากคลองระพีพัฒน์เข้านิคมฯ วันละ 1.5 แสนลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ซึ่งอาจจะกลายเป็นศึกชิงน้ำระหว่างชาวนาและโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากแล้งหนัก กรมชลฯ ประกาศงดทำนาปรัง

นายไมตรี ปิตินานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า หลังจากนิคมอุตสาหกรรมโรจนะติดต่อมา ก็ได้ศึกษาวางแนวทางร่วมกับชาวนา ซึ่งพบว่ามีกระแสต่อต้านสูง จึงมีการประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางใหม่ โดยนิคมอุตสาหกรรมโรจนะได้เสนอจะไปดึงน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาหรือแม่น้ำป่าสักมาที่นิคมฯ แทน

นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่นิคมฯ โรจนะขอซื้อน้ำจากคลองระพีพัฒน์ แต่โดยหลักการแล้วทำไม่ได้ เพราะต้องจัดสรรให้กับภาคเกษตรกรรม ซึ่งขณะนี้แล้งหนัก น้ำไม่เพียงพอ

รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีเพียงนิคมอุตสาหกรรม 304 ทำเรื่องขอใช้น้ำปีละ 18 ล้าน ลบ.ม. และบริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร เอเชีย จ.ฉะเชิงเทรา ขอใช้น้ำปีละ 1.14 ล้าน ลบ.ม. จากอ่างเก็บน้ำคลองสียัด จึงสั่งให้ฝ่ายวิชาการของกรมชลประทานพิจารณา หากไม่กระทบต่อการอุปโภคบริโภค การรักษาระบบนิเวศและการเกษตร จึงจะพิจารณาจัดสรรให้

ด้านนายวิมล ประไพ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.บ้านหีบ อ.อุทัย แกนนำต่อต้านโครงการจัดสรรน้ำของนิคมฯ โรจนะ กล่าวว่า ปัจจุบันนี้พบว่ากรมชลประทานไม่สามารถบริหารจัดการน้ำได้เลย ฝนตกน้ำท่วม ฝนไม่ตกน้ำแล้ง ในอดีตทำนาปรังได้ปีละ 3 ครั้ง กรมชลฯ ก็ประกาศลดการส่งน้ำเพื่อทำนาปรังเหลือ 2 ครั้ง และปีนี้เหลือเพียงครั้งเดียว เมื่อน้ำมีน้อยจะเอาน้ำไปส่งให้โรงงานอุตสาหกรรมอีก แบบนี้ไม่ถูก

“ที่สำคัญต้องทำประชาคมหรือประชาพิจารณ์ก่อนจะดำเนินการใดๆ หากเดินหน้าโครงการเกิดศึกแย่งชิงน้ำแน่นอน กลุ่มทุนจะมาอ้างว่าหากไม่ส่งน้ำเข้าพื้นที่นิคมฯ จะเกิดความเสียหายหลายแสนล้านบาท และเสียหายมากกว่าที่นาหลายแสนไร่นั้น อยากให้มองว่ารวยจนก็คนเหมือนกัน จะเสียหายคิดเป็นมูลค่าเท่าไร แต่ก็เสียหายเหมือนกัน”นายวิมล กล่าว