เหยื่อถูกลวงข่มขืน-ขายยาขอความช่วยเหลือ

"ปวีณา" นำหญิงสาว 8 รายถูกลวงไปข่มขืน-ขายยาต่างประเทศ ขอความช่วยเหลือด้านการเงินและคดีจากกรมคุ้มครองสิทธิ

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี พาหญิงสาวผู้เสียหายจำนวน 8 คน อายุระหว่าง21-32 ปี เข้าพบ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้การช่วยเหลือขอรับเงินเยียวยาเนื่องจากการถูกหลอกลวงให้เดินทางไปต่างประเทศที่ประเทศบาห์เรน บราซิล ไต้หวัน แอฟริกาใต้ โดยบางรายถูกล่วงละเมิดทางเพศและบังคับให้ขนยาเสพติดเข้าประเทศไทย จนกลุ่มผู้เสียหานแจ้งขอความช่วยเหลือจาก มูลนิธิฯ

นางปวีณา กล่าวว่า ผู้เสียหายรายหนึ่งถูกนายหน้าหลอกให้ไปทำงานที่ไต้หวัน โดยอ้างว่าจะมีรายได้ 3.5 หมื่นบาทต่อเดือน แต่เมื่อไปถึงแล้วกลับได้เพียง 2,000 บาท อีกทั้งนายหน้ายังใช้บัญชีธนาคารของเหยื่อรับโอนเงินจำนวน 50 ล้านบาท ทำให้ถูกเรียกจ่ายค่าภาษีกว่า 1 แสนบาท   

"ยังมีผู้เสียหายบางคนถูกข่มขืน และบังคับให้ขนยาเสพติดจากบราซิลเข้าไทย ซึ่งเธอกล้าหาญมากที่ปฏิเสธไปไม่อย่างนั้นก็คงถูกจับแล้ว หรืออีกรายหนึ่งถูกออกหมายจับผิดตัวต้องหาเงินมาประกันตัว ซึ่งทั้ง2 รายนี้อยากขอความช่วยเหลือจากกรมคุ้มครองสิทธิทำเรื่องเข้าโครงการคุ้มครองพยานด้วย เพราะถูกขบวนการยาเสพติดตามข่มขู่โดยที่ผ่านมามีข้อมูลหญิงไทยถูกหลอกไปขนยาเสพติดถูกจับดำเนินคดีในต่างประเทศมากถึง 42 ราย"นางปวีณา กล่าว

ด้านพ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า ทางกรมคุ้มครองสิทธิฯ มีโครงการกองทุนช่วยเหลือผู้เสียหายที่ต้องตกเป็นจำเลย โดยกรณีนี้เข้าข่ายการกระทำต่อชีวิต ร่างกายและเพศ เหยื่อถูกข่มขืนหรือประทุษร้าย ซึ่งถือว่าผิดกฏหมายค้ามนุษย์ หลังสอบถามผู้เสียดายแล้วหากเข้าข่ายนี้ก็จะมีเงินช่วยเหลือ 3 หม่นบาทต่อราย หากเสียชีวิตทายาทจะได้รับเงินช่วยเหลือไม่เกิน 1 แสนบาท

ต่อจากนี้จะมีขั้นตอนสอบถามข้อมูลเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งเพื่อทราบข้อเท็จจริงให้แน่ชัดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหยื่อที่ได้รับผลกระทบทางคดีอาญาหรือไม่ จึงจะเข้าข่ายพิจารณาให้เงินเยียวยาได้ แต่หากไม่มีเรื่องถูกทำร้ายหรือล่วงละเมิดทางเพศ แต่เป็นเพียงการหลอกลวงเดินทางไปทำงานต่างประเทศก็จะกลายเป็นเรื่องคดีเกี่ยวกับทรัพย์ซึ่งจะไม่เข้าข่ายให้รับความช่วยเหลือเยียวยาแต่อย่างใด