เปิดเบื้องหลังปฏิบัติการจับ"กำนันเป๊าะ"
เปิดเบื้องหลังการรวบตัว "กำนันเป๊าะ" ที่เต็มไปด้วยปฏิบัติการลับ ลวง พราง แม้ในนาทีสุดท้ายของการจับกุม
โดย...วัสยศ งามขำ
ปฏิบัติการรวบกำนันเป๊าะ หรือ นายสมชาย คุณปลื้ม ไม่ได้เกิดขึ้นจนแล้วเสร็จภายในวันเดียว แต่มันถูกวางแผนจับกุมอย่างแนบเนียน และเงียบสนิทมานานกว่า 2 เดือน แม้แต่ตัวผู้บังคับการกองปราบปรามเองก็ไม่ได้รับรู้ จนกระทั่งวันที่ชุดจับกุมจู่โจมบุกเข้าจับกุมตัวแบบไร้การขัดขืน
ปฏิบัติการนี้เริ่มเปิดฉากขึ้นราวต้นเดือนธันวาคม 2555 เมื่อ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ได้รับจดหมายร้องเรียนจากชาวบ้าน ที่แจ้งมาว่าพบเบาะแสการเคลื่อนไหวของ นายสมชาย ในจังหวัดชลบุรี และคาดว่าจะพักอยู่ภายในบ้าน ในจดหมายยังถากถางถึงตำรวจท้องที่ จ.ชลบุรี ด้วยว่า ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปจับกุม แม้ว่าการเคลื่อนไหวบางครั้งเป็นไปอย่างเปิดเผย
พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ได้สั่งการแบบลับๆ ไปยัง พ.ต.อ.อธิป แท่นนิล ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองปราบปราม ให้เข้าจับงานนี้ด้วยชั้นความลับระดับสูงสุด หลังรับคำสั่ง พ.ต.อ.อธิป เริ่มตั้งทีมทำงานขึ้นมาทั้งหมด 30 คน ทุกคนจะได้รับข้อมูลไม่เท่ากันในการทำคดี เพื่อไม่ให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปยังหูของบุคคลอื่นๆ
ขณะเดียวกันการหาข้อมูลเพิ่มเติมในระบบอินเทอร์เน็ตก็เริ่มทำงาน จนในที่สุดก็พบว่ามีนักท่องเน็ตจำนวนมาก ให้เบาะแสเข้ามาตามกระทู้ต่างๆ ส่วนมากยืนยันตรงกันว่าตัว นายสมชาย ไม่ได้หนีไปไหนแต่ซุกตัวอยู่ในบ้านหลังใหญ่ของเขาเองใน จ.ชลบุรี
ล่วงเข้าปลายเดือนธันวาคมข้อมูลจากชุดสืบสวน เริ่มแน่ชัดว่า นายสมชาย ไม่ได้หลบหนีไปไหนหรือเดินทางออกนอกประเทศ พ.ต.อ.อธิป พร้อมด้วย พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี สารวัตรกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.ท.วัฒนา ผลงานดี สารวัตรกองกำกับการ 3 กองปราบปราม จึงลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนอย่างจริงจัง โดยแบ่งกำลังออกเป็นทั้งหมด 10 ชุดปฏิบัติการ ส่วนใหญ่กระจายอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และบางส่วนออกหาข่าวตามชายแดนทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตามระหว่างการสืบสวนข่าวนี้ เรื่องราวของปฏิบัติการลับไม่ได้ล่วงรู้เข้าหูตำรวจคนไหนเลย เพียงแต่หลายคนรู้สึกสงสัยว่า ทำไมบรรยากาศที่กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษจึงเงียบสนิทผิดสังเกตนานนับเดือน
การสืบสวนด้วยการวางจุดดูความเคลื่อนไหวทำให้รู้ว่าตัวของ นายสมชาย อยู่ในบ้านจริงตามที่ได้รับเบาะแส และเมื่อสืบสวนในเชิงลึกแล้วรู้ว่าในวันนี้ นายสมชาย จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมารักษาโรคประจำตัว เมื่อรถเลกซัสสีดำสนิทเคลื่อนที่ออกจากบ้านพัก ชุดสะกดรอยก็ออกติดตามทันที ขณะนี้ชุดทำงานชุดต่างๆ ถูกวางจุดให้อยู่ตามถนนหลวงทั้งสายสุขุมวิท และสายมอเตอร์เวย์ ซึ่งทั้งสองเส้นทางเป็นเส้นทางที่จะมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ
แน่นอนว่าการเข้าจับกุมเจ้าพ่อที่มีลูกชายเป็นถึงรัฐมนตรีนั้นย่อมเสี่ยงต่อการปะทะหรือต่อสู้ พ.ต.อ.อธิป เน้นย้ำให้กำลังชุดที่จะเข้าจับกุมอย่าเพิ่งผลีผลาม แต่ให้ยืนยันให้ชัดเจนว่าในรถนั้นมี นายสมชาย อยู่จริง กระทั่งมาถึงโรงพยาบาลชุดสะกดรอยยืนยันว่าเป้าหมายไม่คลาดเคลื่อน แต่ก็ยังไม่มีคำสั่งให้เข้าจับกุม เนื่องจาก พ.ต.อ.อธิป ประเมินว่าเป็นไปได้ที่ นายสมชาย อาจจะนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งการจับกุมจะง่ายขึ้นเพราะย่อมไม่มีทางต่อสู้หรือหลบหนี
กระทั่งราว 10.00น. นายสมชาย ก็เดินทางออกจากโรงพยาบาลด้วยรถคันเดิม ชุดสะกดรอยจึงดำเนินการต่อ ขณะนั้นเองที่ พ.ต.อ.อธิป กรอกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมราว 10 นาย ไปดักรอรถเป้าหมายที่บริเวณด่านเก็บเงินลาดกระบังขาออกตามเส้นทางที่รถเป้าหมายใช้ เพราะจุดนั้นจะเป็นจุดที่รถต้องจอดเพิ่มจ่ายเงิน
เมื่อรถดังกล่าวมาถึง และยื่นมือจ่ายเงินค่าผ่านทาง โดยมีคนขับร่างท้วมเป็นโชเฟอร์ ชุดจับกุมก็เข้าชาร์จทันที โดยดึงตัวคนขับออกนอกรถ และขึ้นไปขับรถแทน ขณะที่ประตูหลังถูกปลดล็อค และเปิดออกพบว่า นายสมชายอยู่เบาะหลังซ้าย ตำรวจจึงโดดขึ้นรถประกบ โดยไม่ได้ล็อคตัวลงมาจากรถ ทั้งหมดถูกประกบโดยชุดจับกุม และขับรถมายังหน่วยคอมมานโด ซอยโชคชัย 4 ทันที โดยโทรศัพท์มือถือของคนในรถทั้งหมดถูกยึด เพื่อป้องกันการติดต่อสื่อสารกับคนภายนอก
แม้ว่าจะจับกุมตัวได้แล้ว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ รู้ดีว่าหากคดีนี้แพร่ออกไป อาจจะถูกต่อรองจากฝ่ายการเมือง และผู้บังคับบัญชา เขาจึงปิดเรื่องนี้อย่างเงียบสนิท เพียงแต่เรียกผู้สื่อข่าวไปรอที่หน่วยคอมมานโด พร้อมกับตัวเขาเท่านั้น และบอกในเบื้องต้นเพียงว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ต้องหาระดับประเทศ เขาบอกด้วยว่ายังไม่สามารถบอกได้แม้แต่ผู้บังคับบัญชาที่อยู่สูงขึ้นไป จะบอกก็ต่อเมื่อตัวถึงหน่วยคอมมานโดกองปราบปรามแล้วเท่านั้น
และก็เป็นเช่นนั้นเขาสั่งการให้ พล.ต.ต.สุพิศาล รายงานไปยัง ผบ.ตร. ทันทีที่ตัวมาถึง ต่อหน้ากล้องทีวีหลายกล้อง นี่คือทีเด็ดของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ที่มองเกมแล้วว่าคงไม่มีใครกล้ามาโทรต่อรอง เมื่อผู้ต้องหารายนี้ออกสื่อไปแล้ว


