มาเลย์เลี่ยงกฎหมายแห่แต่งงาน‘สงขลา’

หนุ่มมาเลย์นิยมควงภรรยาใหม่มาแต่งงานที่มัสยิดกลางสงขลา เลี่ยงกฎหมายที่ต้องให้ภรรยาคนแรกอนุญาต

มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา เป็นสถานที่ซึ่งคู่รักมุสลิมชาวมาเลเซียนิยมพากันมาประกอบพิธีนิกะห์หรือแต่งงานตามหลักศาสนาอิสลามกันเป็นจำนวนมาก โดยแต่ละวันจะมีคู่บ่าวสาวมาประกอบพิธีแต่งงานประมาณ 10-30 คู่ ซึ่งทางมัสยิดได้จัดห้องประกอบพิธีแต่งงานและซุ้มดอกไม้ไว้เป็นการเฉพาะ

นายเฉ็ม เหมมัน รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ชาวมาเลเซียที่มาแต่งงานกันที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลานั้น ส่วนใหญ่ฝ่ายชายต้องการมีภรรยาคนที่ 2 คนที่ 3 หรือคนที่ 4 แต่กฎหมายมาเลเซียกำหนดว่า หากฝ่ายชายต้องการมีภรรยามากกว่า 1 คน จะต้องได้รับความยินยอมจากภรรยาคนแรก แต่ส่วนใหญ่ภรรยาหลวงมักจะไม่ยอม จึงต้องเดินทางมาแต่งงานในประเทศไทย

นายเฉ็มกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีของฝ่ายหญิงนั้นตามหลักศาสนาถือว่าเดินทางออกจากบ้านเกินกว่า 96 กิโลเมตร สามารถแต่งงานได้โดยไม่ต้องให้บิดาหรือผู้ปกครองอนุญาต

“พิธีนิกะห์ที่จัดขึ้นนั้นเรียบง่ายแต่ถูกหลักศาสนาทุกอย่าง เสียค่าใช้จ่ายเพียงแค่ค่าเอกสารเท่านั้นส่วนการทำพิธีจะไม่คิดค่าใช้จ่าย หลังพิธีสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลาจะออกหนังสือรับรองการแต่งงานให้และจะประสานไปยังกงสุลมาเลเซียประจำจังหวัดสงขลาเพื่อยืนยันว่าคู่บ่าวสาวได้ยินยอมพร้อมใจแต่งงานกันอย่างถูกต้อง” นายเฉ็ม กล่าว

นายเฉ็มกล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีชายชาวมาเลเซียที่มาแต่งงานกับสาวไทยทั้งที่เป็นมุสลิมด้วยกันและต่างศาสนา แต่กรณีที่ต่างศาสนาจะต้องผ่านพิธีเข้ารับอิสลาม และเรียนรู้วิถีแห่งอิสลามก่อน การที่คู่บ่าวสาวมุสลิมชาวมาเลเซียมาทำพิธีนิกะห์ จะเป็นหนึ่งในแนวทางการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

นายเฉ็มกล่าวอีกว่า นอกเหนือจากชาวมาเลเซียแล้วยังมีคู่บ่าวสาวมุสลิมอีกหลายประเทศ เช่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และบรูไน พากันมานิกะห์ที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา ส่วนใหญ่จะมาเป็นครอบครัวใหญ่ทั้งญาติและเพื่อนๆ และฮันนีมูนท่องเที่ยวใน จ.สงขลา ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวด้วย