บุรีรัมย์ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณอายุราว 2.5 พันปี
นักโบราณคดี กรมศิลปากร ขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ 4 โครง พร้อมเศษภาชนะเครื่องปั้นดินเผา อายุราว 2.5 พันปี
นักโบราณคดี กรมศิลปากร ขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ 4 โครง พร้อมเศษภาชนะเครื่องปั้นดินเผา อายุราว 2.5 พันปี
น.ส.กรรณิการ์ เปรมใจ นักโบราณคดีปฏิบัติการ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ทำการขุดค้นแหล่งชุมชนโบราณ บริเวณทุ่งนา ของนางบุญเย็น หลักชัย อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ที่ 2 บ้านโคกตาพรม ต.ตาจง อ.ละหานทราย หลังจากได้มีชาวบ้านขุดพบวัตถุโบราณ ภาชนะดินเผา เศษโครงกระดูก บริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ จากการขุดเป็นหลุมกว้างขนาด 4 คูณ 4 เมตร ค้นพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ มีการกระจุกรวมทับซ้อนกัน หันศีรษะไปทางทิศใต้ จำนวน 3 โครง ความสูงประมาณ 160 – 180 เซนติเมตร พร้อมเศษภาชนะเครื่องปั้นดินเผา เป็นจำนวนมาก ใกล้กันยังพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ สภาพสมบูรณ์ จำนวน 1 โครง แต่กระดูกยุ่ย หันศีรษะไปทางทิศเหนือ
นอกจากนี้ ในหลุมยังพบซากสัตว์ มี ฟันกรามล่างของวัว กระดูกหมู กระดูกก้างปลา กระดูกสัตว์ขนาดเล็ก กระดูกสัตว์ประเภท วัว ควาย เต่า คาดว่าน่าจะเป็นอาหาร และสิ่งของเซ่นไหว้อุทิศให้กับศพ
โดยโครงกระดูกและเครื่องปั้นดินเผาที่ขุดค้นพบในครั้งนี้ สันนิษฐานว่าน่าจะอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลายหรือยุคเหล็ก มีอายุราว 1,500 – 2,500 ปี ขณะที่ชาวบ้านร้องขอให้กรมศิลป์ และท้องถิ่น ได้มีการก่อสร้างเป็นสถานที่เก็บและศึกษาค้นทางประวัติศาสตร์ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังให้เข้าไปศึกษาค้นคว้า และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงอารยธรรมขอมโบราณ กับปราสาทพนมรุ้ง
น.ส.กรรณิการ์ กล่าวอีกว่า จากการสำรวจพื้นที่บริเวณนี้โดยรอบ ตักหน้าดินจะพบมีเศษภาชนะดินเผาจำนวนมาก เมื่อขุดค้นจะพบภาชนะดินเผาในระดับความลึก 50-60 เซนติเมตร ค่อนข้างหนาแน่นเยอะมาก และขุดลึกในระดับ 70 เซนติเมตร พบโครงกระดูกมนุษย์ จำนวน 4 โครง แต่ที่น่าสนใจคือพบโครงกระดูก ที่กระจุกรวมกันจำนวน 3 โครง อยู่ผนังด้านเดียวกันถึง 3 โครง แต่ฝั่งด้านทิศเหนือ แทบไม่เจออะไร มีเพียงเศษภาชนะดินเผากระจัดกระจาย อาจจะมีกระดูกสัตว์บ้าง
ส่วนของมีค่าที่พบจะเป็นพวกเครื่องมือเหล็ก และดินเผา ส่วนกำไลสำริดและลูกปัดต่างๆ ไม่เจอ สำหรับโครงกระดูก และภาชนะดินเผาต่างๆ ที่ขุดพบคาดว่า อยู่ในช่วงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย หรือยุคเหล็ก มีอายุราว 1,500 – 2,500 ปี เพราะว่าโครงกระดูกที่พบได้มีการอุทิศเครื่องมือเหล็ก วางบนศีรษะโครงกระดูกด้วย ซึ่งการจัดวางโครงกระดูกน่าจะเป็นในรูปแบบของการฝังศพ ซึ่งจะเห็นได้จาก โครงกระดูก 3 โครง ที่กระจุกรวมกันหันศีรษะไปทางทิศใต้
ส่วนอีก 1 โครงกระดูก หันศีรษะไปทางทิศเหนือ ตอนนี้ร่องรอยที่พบยังบอกในเรื่องของความนิยมทิศทางในการฝังศพ ว่าหันศีรษะไปด้านไหนไม่ชัดเจน ขณะเดียวกันโครงกระดูกไหนที่สามารถเอาขึ้นได้ จะนำขึ้น โดยเฉพาะโครงที่อยู่ข้างบนทับโครงล่างไว้ แต่โครงไหนไม่สามารถเอาขึ้นได้จะทำการศึกษาไหนหลุม เก็บข้อมูลวัดขนาด เสร็จแล้วจะฝังกลบไว้ก่อน
ด้านนายศักดิ์ชัย วงศ์ประมวล อดีตกำนันตำบลตาจง กล่าวว่า อยากให้ทางเทศบาลตำบลตาจง ประสานกับกรมศิลปากร ในการขอให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าทางโบราณคดีกับคนในชุมชน และประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางโบราณคดีอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด เพราะบริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้กับอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง พร้อมจะได้ดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์
ทั้งนี้ หลังจากข่าวการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ ภาชนะดินเผา และซากสัตว์ แพร่สะพัดออกไป ได้มีชาวบ้านทั้งผู้ใหญ่ และเด็ก ต่างพากันเดินทางมาดูเป็นจำนวนมาก บางรายถึงกับยกมือไหว้อธิษฐานขอโชคลาภ พร้อมกับตีเลขเด็ดกันไปต่างๆ นานา ทั้ง เลข 18 , 31 และ 17 ซึ่งใกล้ถึงวันหวยออก หวังเสี่ยงโชคจากลาภลอยครั้งนี้


