posttoday

เศรษฐกิจพอเพียงกับทุนนิยมเสรี

08 มกราคม 2556

ขณะที่หลายประเทศกำลังสาละวนอยู่กับการเร่งพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง แต่เมื่อหันมามองประเทศไทยก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่า ประเทศของเราจะก้าวไปข้างหน้าไปในแนวทางไหน ใช้ยุทธศาสตร์ใดเป็นเครื่องมือในการสร้างความเจริญพัฒนาให้แก่ประเทศ

ขณะที่หลายประเทศกำลังสาละวนอยู่กับการเร่งพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง แต่เมื่อหันมามองประเทศไทยก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่า ประเทศของเราจะก้าวไปข้างหน้าไปในแนวทางไหน ใช้ยุทธศาสตร์ใดเป็นเครื่องมือในการสร้างความเจริญพัฒนาให้แก่ประเทศ

คุณผู้อ่านคงจะทราบดีอยู่แล้วว่า โลกปัจจุบันโดยเฉพาะสังคมด้านเศรษฐกิจกำลังตกอยู่ใน “ยุคของทุนนิยมเสรี” โดยเฉพาะในรอบสองทศวรรษที่ผ่านมา คำว่า “ทุนนิยมเสรี” หมายความว่า การที่คนมีเงินหรือนักลงทุนทั่วโลกสามารถนำเงินไปลงทุนในธุรกิจใดก็ได้ผ่านเครื่องมือและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และสามารถทำกำไรได้ออกมาเป็นผลตอบแทนในรูปของเงินตรา เพราะฉะนั้นถ้าเราได้ยินคำอะไรเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจโดยมีคำว่า “เสรี” พ่วงอยู่ด้วย ส่วนใหญ่ก็มักจะมีความหมายดังที่กล่าวมา เช่น การค้าเสรี การตลาดเสรี การแข่งขันเสรี เหล่านี้เป็นต้น

ไม่มีระบบเศรษฐกิจใดๆ ในโลกที่จะสร้างความเจริญโดยเท่าเทียมได้เต็ม 100% ระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรีถือว่าเป็นเพียงระบบที่มีความเลวร้ายน้อยกว่าระบบเศรษฐกิจอื่นๆ เท่านั้นเอง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่า “ภูมิคุ้มกัน” ของแต่ละประเทศในการนำเอาระบบเศรษฐกิจไปใช้จะมีมากน้อยเพียงใด และเจ้าตัวภูมิคุ้มกันที่ว่าก็มาจาก “คน” โดยเฉพาะผู้บริหารประเทศนั่นเอง ถ้าผู้บริหารประเทศฉลาด สามารถมองเหตุการณ์และความเป็นไปของโลก และคิดหามาตรการหรือกลยุทธ์ในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างถูกต้อง อานิสงส์ก็จะตกอยู่กับประเทศและประชาชนภายในประเทศเป็นส่วนรวม แต่ถ้าประเทศไหนได้กลุ่มผู้นำที่ฉลาดแต่เพียงจะฉกฉวยเอาผลประโยชน์เข้าตัวเองโดยไม่คำนึงถึงประเทศ ประเทศนั้นๆ ก็จะเจริญลงๆ และท้ายที่สุดไม่สามารถอยู่แบบเป็นประเทศได้

ข้อดีของระบบทุนนิยมเสรีก็คือ เป็นระบบเศรษฐกิจที่เปิดกว้างให้บรรดานักคิดและนักลงทุนทั้งหลายมีโอกาสแสดงความรู้ความสามารถ และก้าวไปตามความฝันด้านความเจริญมั่งคั่งให้แก่ตนเอง ข้อเสียก็คือ การสอนให้คนสร้างความร่ำรวยและความมั่งคั่งให้ตนเอง เน้นการแข่งขันแบบเสรีโดยไม่คำนึงถึงส่วนรวม และไม่เน้นเรื่องของคุณธรรมจริยธรรม เพราะฉะนั้นกลุ่มคนที่จะมีโอกาสใช้ประโยชน์จากระบบทุนนิยมเสรีได้มากสุดก็จะเป็นคนกลุ่มน้อยเท่านั้น เช่น กลุ่มคนที่มีอำนาจทางการเมือง กลุ่มคนที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจ และกลุ่มคนที่มีชื่อเสียงเฉพาะในวงสังคมชั้นสูง

ขณะที่ประชาชนระดับรากหญ้าแทบจะไม่มีโอกาสได้ใช้ประโยชน์จากระบบทุนนิยมเลย ถ้าชนกลุ่มน้อยที่ได้รับประโยชน์จากระบบทุนนิยมเป็นคนดีเห็นแก่ประเทศ อานิสงส์ก็จะเกิดต่อคนกลุ่มใหญ่ แต่ถ้าคนกลุ่มน้อยคิดแต่ประโยชน์ตนเอง คนกลุ่มใหญ่ก็จะถูกใช้เป็นเครื่องมือและจะต้องวิ่งไล่ตามหรือฝากอนาคตไว้กับคนกลุ่มน้อยไปตลอดชีวิต

ทีนี้หันมาดู “ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง” ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบันของประเทศไทย องค์ประกอบของทฤษฎี ได้แก่ 1) ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีต่อความจำเป็นและเหมาะสมกับฐานะของตนเอง สังคม สิ่งแวดล้อม รวมทั้งวัฒนธรรม 2) ความมีเหตุผล หมายถึง การดำเนินการใดๆ โดยมีเหตุผลตามหลักวิชาการ หลักกฎหมาย หลักคุณธรรมและวัฒนธรรมอันดีงาม สามารถคาดการณ์ผลที่จะเกิดขึ้นได้ และสามารถปรับเลือกเอาสิ่งที่ดีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองได้ และ 3) การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้สามารถรับมือได้ทันท่วงที

การปฏิบัติเพื่อให้เกิดความพอเพียงจะต้องเริ่มที่การพัฒนา “คน” ให้มีพื้นฐานจิตใจในการปฏิบัติตนดังต่อไปนี้ 1) ประชาชนต้องมีคุณธรรมและความซื่อสัตย์ โดยผ่านการพัฒนาตั้งแต่ครอบครัวจนถึงสถาบันการศึกษา 2) ประชาชนต้องอาศัยหลักวิชาความรู้ เพื่อให้คิดเป็น วางแผนขั้นตอนการปฏิบัติเป็น และ 3) ประชาชนต้องดำเนินชีวิตด้วยความเพียรและความอดทน

ประเด็นสำคัญที่สุดที่จะทำให้การนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เกิดผล ได้แก่ 1) ผู้นำทุกระดับชั้นต้องมีความเข้าใจในเนื้อหาของตัวทฤษฎี 2) ต้องหาและสร้างมาตรการใดๆ ก็แล้วแต่ที่จะวางรากฐานให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศอยู่อย่างพอมีพอกิน พึ่งตนเองได้ มีความรู้และคุณธรรมในการดำรงชีวิต 3) สนับสนุนให้ประชาชนสร้างเครือข่ายชุมชนทั่วประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ภูมิปัญญา ความรักความสามัคคีให้เกิด “สังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน” 4) กำหนดนโยบายพัฒนาประเทศและเปิดเสรีในแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยอันดับแรกจะต้องเพิ่มภูมิคุ้มกันและเสริมสร้างทุนมนุษย์ ความรู้ ความซื่อสัตย์สุจริต ความสามัคคี ความเพียร ความอดทน และความกตัญญูต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางให้ได้เสียก่อน 5) การใช้จ่ายของประเทศต้องกระทำด้วยความรอบคอบ พอประมาณ และจะต้องไม่ทุจริต โดยจะต้องเน้นประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก และ 6) ต้องให้โอกาสคนดีที่มีความรู้ขึ้นบริหารประเทศ

จะเห็นว่าถ้าประเทศไทยของเราจะยืนอยู่ในโลกแห่งระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมได้อย่างอยู่รอดปลอดภัย เราจำเป็นจะต้องสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้แก่ประชาชนในประเทศเสียก่อนผ่านระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียง พูดง่ายๆ อีกนัยหนึ่งได้ว่า ระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงต้องมาก่อนระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม

ข่าวล่าสุด

ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิต “เชษฐ์ปาดัง” เลขานายกปาดังเบซาร์