ครอบครัวของเรา
นอกจากกีฬากลางแจ้ง เช่น เทนนิสและกอล์ฟแล้ว กีฬาในร่มเช่น โบว์ลิ่ง และไพ่บริดจ์ก็เป็นงานอดิเรกที่พวกเราที่ทำงานอยู่ด้วยกันยุคนั้นชอบนัดหมายทดสอบฝีมือกัน
นอกจากกีฬากลางแจ้ง เช่น เทนนิสและกอล์ฟแล้ว กีฬาในร่มเช่น โบว์ลิ่ง และไพ่บริดจ์ก็เป็นงานอดิเรกที่พวกเราที่ทำงานอยู่ด้วยกันยุคนั้นชอบนัดหมายทดสอบฝีมือกัน
ช่วงนั้นกีฬาโบว์ลิ่งเพิ่งเริ่มเข้ามาเป็นที่นิยมในประเทศไทย โรงโบว์ลิ่งเกิดขึ้นหลายแห่ง หลังกลับมาจากต่างประเทศ เริ่มทำงานใหม่ๆ ผมก็ไปเล่นบ่อยๆ เพราะเป็นกีฬาที่เล่นเป็นประจำสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่สมัยนี้โบว์ลิ่งไม่เป็นที่นิยมมากนักเพราะมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างอื่นมาทดแทน
ส่วนบริดจ์เป็นกีฬาในร่มอมตะเล่นได้ทุกยุคทุกสมัย แต่มักอยู่ในกลุ่มคนหมู่น้อย เป็นเกมที่ฝึกสมองและความจำดี ผู้เล่นต้องช่างสังเกตและจำเก่ง ข้อสำคัญต้องส่งสัญญาณให้คู่เล่นเราเข้าใจด้วย แพ้หรือชนะไม่ใช่เพราะไพ่ดีหรือไม่ดีอย่างเดียว ฝีมือในการเล่นและความเข้าใจซึ่งกันและกันของคู่เล่นมีส่วนสำคัญมาก ถ้าเล่นไม่ถูกขากันเพื่อนรักอาจลงเอยด้วยการทะเลาะกัน บางคู่ดีไม่ดีถึงหย่าร้างกันได้ ที่พูดอย่างนี้ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เพราะเห็นมามากต่อมากแล้ว
งานอดิเรกของผมอีกอย่างหนึ่งในเวลานั้นคือ การซ่อมรถโบราณ
ผมเป็นคนชอบรถเก่าที่เรียกว่ารถโบราณหรือรถประเภทคลาสสิก ซึ่งผลิตช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงประมาณปี 1940 รถที่ผลิตในช่วงเวลานั้นมีรูปทรงโบราณแต่เริ่มมีสมรรถนะสูงและขับขี่ได้สะดวก เป็นรถที่ผลิตจากยุโรปส่วนใหญ่ เพราะสหรัฐเพิ่งจะเริ่มผลิตรถยนต์ในเชิงพาณิชย์ออกจำหน่ายหลังสงคราม
ประเทศไทยมีรถเก่าๆ ประเภทนี้อยู่ไม่มาก เพราะสมัยนั้นคงมีแต่เจ้านายชั้นสูงที่สามารถซื้อมาใช้ได้
เมื่อหลงเสน่ห์รถโบราณเสียแล้ว ผมก็พยายามที่จะหารถหายากแต่ยังสมบูรณ์หรือชำรุดมาซ่อมโดยใช้ชิ้นส่วนจริงจากโรงงานผู้ผลิตเป็นงานอดิเรก
โชคดีที่อู่รถของคุณพ่อคุณเพ็ญพรรณมีรถเก่ายี่ห้อ Talbot ของฝรั่งเศส เป็นรถที่ผลิตก่อนปี 1940 จอดทิ้งอยู่คันหนึ่ง เพราะเครื่องยนต์ใช้ไม่ได้
ผมจึงขออนุญาตลากมาไว้ที่บ้านพักที่เช่าจากคุณไพโรจน์ เมื่อมีเวลาว่างก็เริ่มถอดชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อทำความสะอาดและสำรวจส่วนที่สึกหรอไป หลังจากลงมือได้ไม่นาน งานที่ทำอยู่ยุ่งมากขึ้น และต้องเตรียมตัวไปทำงานที่สิงคโปร์หนึ่งปี จึงได้แต่เก็บรวบรวมชิ้นส่วนไว้ก่อน
หลังจากนั้นคุณไพโรจน์ต้องการขยับขยายบ้าน และต้องการใช้พื้นที่ ผมจึงต้องย้ายรถที่ถูกถอดชิ้นส่วนบางตอนออกแล้วไปฝากไว้ที่โรงงานของน้องชาย แต่ไม่มีใครดูแลรักษาให้เมื่อผมกลับมาปรากฏว่าชิ้นส่วนสำคัญๆ หายไป ทำให้รถคันนั้นกลายเป็นเศษเหล็ก
ความฝันที่จะซ่อมให้มันเป็นผลงานอันล้ำเลิศ เลยอันตรธานกลายเป็นธาตุอากาศ
ถึงทุกวันนี้ ผมก็ยังเสียใจอยู่เพราะรถยี่ห้อนี้หายสาบสูญไปนานแล้ว ถ้าซ่อมแซมได้เรียบร้อย น่าจะเป็นคันเดียวที่มีอยู่ในประเทศไทย ตอนนี้เลยเหลือแต่หนังสือรถเก่าๆ ที่ซื้อสะสมไว้ศึกษาเป็นอนุสรณ์
ต่อมาความสนใจในเรื่องนี้ได้หมดไปโดยปริยายเพราะเมื่อมีลูกบวกกับรถที่อยู่ในปีและรุ่นที่คลาสสิกจริงๆ นั้นหายากเต็มที
หลังจากแต่งงานมาได้ 2 ปี เรามีลูกคนแรกเป็นลูกสาว เมื่อเดือน มิ.ย. 2512 ตั้งชื่อเล่นว่า “ป้อม” เพราะตอนเล็กๆ อ้วนท้วนมีแขนเป็นปล้องๆ ลูกคนนี้คลอดที่โรงพยาบาลกลาง สังกัดกรุงเทพมหานคร ที่คุณเพ็ญพรรณทำงานอยู่ ตอนไปคลอดคุณเพ็ญพรรณนั่งแท็กซี่ไปเอง แล้วจึงโทรบอกให้ผมตามไป ดีว่าเป็นท้องแรกคลอดยากหน่อย ถ้าเป็นท้องสองหรือสามอาจกลั้นไม่อยู่ต้องให้ตำรวจหรือคนขับรถแท็กซี่ช่วยเป็นหมอตำแยให้
ไม่รู้ว่า เลี้ยงยากหรือเพราะเรามือใหม่เลี้ยงไม่เป็นไม่ทราบ ระยะแรกๆ เลยดูวุ่นวายพอควร มีระยะหนึ่งลูกจะตื่นขึ้นมาประมาณ 4 ทุ่มของทุกคืนแล้วร้องไห้แบบเอาเป็นเอาตายโดยไม่ทราบสาเหตุ เป็นอย่างนี้อยู่นานเป็นอาทิตย์ จนวันหนึ่งผมทนไม่ไหวเลยอุ้มขึ้นมาลองตีที่ก้น ลูกยิ่งร้องใหญ่ เดือดร้อนคุณยายต้องวิ่งมาแย่งหลานไปนอนด้วยแต่ก็จำไม่ได้ว่า อาการนี้หายไปได้อย่างไร
คนที่สองเป็นลูกชาย เกิดหลังลูกสาวเกือบๆ 2 ปี เกิดเดือน ม.ค. 2514 ตอนคุณเพ็ญพรรณไปคลอด ขณะนั้นผมกำลังไปตีกอล์ฟกับเพื่อนฝูง ต้องรีบวิ่งกลับมาดูว่าจะออกมาเป็นหญิงหรือชาย
สมัยนั้น ยังไม่มีความสามารถดูเพศเด็กทารกก่อนเกิดเหมือนเดี๋ยวนี้ เวลาจะคลอดยังต้องลุ้นว่าเป็นชายหรือหญิง พอได้ลูกคนที่สองเป็นชาย คนต่อไปก็ไม่ต้องตื่นเต้นเพราะมีหญิงหนึ่งชายหนึ่งไว้สืบสกุลแล้ว อีกทั้งเดี๋ยวนี้เรื่องการสืบสกุลไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะกฎหมายปัจจุบันอนุญาตให้หญิงที่มีสามีแล้วเลือกใช้นามสกุลเดิมหรือนามสกุลใหม่ของสามีก็ได้ ผู้หญิงที่เกิดในตระกูลดังๆ อาจเลือกใช้นามสกุลของทั้งสองฝ่ายไปพร้อมๆ กันก็มี
ความจริงผมว่า เอาระบบของจีนมาใช้ก็ดี ใครเกิดในหมู่บ้านเดียวกันใช้นามสกุลเดียวกันหมดไม่ยุ่งยาก และไม่ทำให้นามสกุลยาวขึ้นๆ เหมือนคนไทย เพราะเดี๋ยวนี้เจอนามสกุลใหม่ๆ ที่มีความยาวเป็นวาออกเสียงจบก็เหนื่อยแล้ว ผสมกับชื่อตัวที่เอาภาษาสันสกฤตหรือบาลีมาใช้สะกดก็ยาวอ่านก็ไม่ออกอีกต่างหาก
หวังว่าในอนาคตแฟชั่นที่ให้ชื่อคนเป็นพยางค์เดียวง่ายๆ จะฟื้นกลับมา
แม่เขาตั้งชื่อลูกชายคนนี้ชื่อเล่นว่า “ป้อด” ตอนเล็กๆ “ป้อด” ไม่ยอมกินนม กินแล้วจะอาเจียน ต้องกินโอวัลตินหรืออาหารเสริมแทน ถ้าแอบผสมนมลงไปด้วยเขาจะหยุดกินทันที ผลคือว่า ตัวเล็กเหมือนแม่ เพราะไม่มีแร่ธาตุที่ไปเสริมกระดูกเมื่อตอนเล็กๆ แต่ไม่เป็นไรตัวเล็กแต่สมองโต หัดพูดเร็วกว่าวัย แตกต่างกับลูกสาวที่พูดช้ามาก
คนเล็กเป็นชายอีกหน่อ เกิดเดือน พ.ค 2516 คนนี้เมดอินสิงคโปร์ ระหว่างที่ผมไปทำงานอยู่ที่นั่น 1 ปี
ตอนนั้นภรรยาอยากมีลูกมากๆ แต่ผมต้องการมีน้อยเพราะกลัวเลี้ยงได้ไม่ดี ตอนที่ทราบว่าท้องคนเล็กผมแกล้งพูดว่า ไปเอาออกเสียดีไหมเลี้ยงไม่ไหว คุณเพ็ญพรรณคิดว่า ผมพูดจริง เลยร้องโวยวายใหญ่ ที่สุดตกลงกันได้ว่า สามคนพอแน่ๆ แล้ว จึงตัดสินใจปิดโรงงานหลังคลอด แต่มีข้อตกลงว่าห้ามผมเปิดโรงงานใหม่หรือมีสาขาที่ไหน เป็นสัญญาสุภาพบุรุษที่ผมต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด (เท่าที่เธอรู้)
ลูกคนเล็กนี้ รูปร่างสูงใหญ่กว่าพี่ชาย สูงกว่าพ่อด้วย ตอนเด็กๆ เวลาไปไหนมาไหนคนมักทักผิดว่าใครพี่ใครน้อง
คนนี้เลี้ยงง่ายที่สุดเพราะเกือบไม่ได้เกิดแล้ว ความจริงน้าชายเขาช่วยเลี้ยงเพราะตอนเกิดคุณยาย (คุณแม่คุณเพ็ญพรรณ) เสียไปแล้ว ดีว่ามีน้าชายมาช่วยล้างขวดนมและงานจิปาถะ
มีชื่อเล่นว่า “เป๊ก” หวังว่าจะหล่อกว่า “เกเกอรี เป๊ก” ดารารุ่นโบราณที่ดังสมัยผมและคุณเพ็ญพรรณยังเป็นวัยรุ่น
หลังจากที่ทำงานครบ 6 ปี และเปลี่ยนหน้าที่การงาน 2 ครั้ง ผู้จัดการใหญ่สมัยนั้นชื่อ นาย Edward Cohen เรียกผมไปพบและบอกว่ายูเป็นพนักงานหนุ่มที่อยู่ในกลุ่มที่ควรได้รับการพัฒนาเพื่อส่งเสริมให้เติบโตไปกับบริษัท ดังนั้นจะส่งไปทำงานเพื่อชุบตัว และดูตัวที่สิงคโปร์เป็นเวลาหนึ่งปี


