สรรพากรเสนอแก้กฎหมายสกัดโอนกำไรตปท.เลี่ยงภาษี
สรรพากรเสนอแก้กฎหมาย ขออำนาจขอข้อมูลต่างประเทศ สกัดการเปลี่ยนโอนกำไรของบริษัทข้ามชาติเพื่อเลี่ยงภาษี
สรรพากรเสนอแก้กฎหมาย ขออำนาจขอข้อมูลต่างประเทศ สกัดการเปลี่ยนโอนกำไรของบริษัทข้ามชาติเพื่อเลี่ยงภาษี
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรเตรียมเสนอกระทรวงการคลังให้นำเรื่องแก้ พ.ร.บ.ประมวลรัษฎากร เข้าสู่การพิจารณาของสภา เพื่อให้อำนาจกรมสรรพากรในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ เพื่อหาข้อเท็จจริงการเปลี่ยนโอนกำไรและอำนาจในการประเมินภาษี
ทั้งนี้ กรมฯ ประสบปัญหาการเข้าไม่ถึงข้อมูลของบริษัทนิติบุคคลบางราย ทำให้การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลของกรมฯ ขาดประสิทธิภาพไปบ้าง
“การที่ยังเข้าไม่ถึงโดยที่ไม่ต้องอิงกับอนุสัญญาภาษีซ้อนช่วยให้การทำงานของกรมสรรพากร ซึ่งปัจจุบันมีฐานผู้เสียภาษีรายใหญ่ 3,500 บริษัท ครอบคลุม 50% ของภาษีนิติบุคคล และถ้ารวมผู้เสียภาษีรายใหญ่ 10 บริษัทของพื้นที่ในแต่ละเขต ซึ่งมี 30 เขต จะเป็นมูลค่าถึง 70% ของภาษีนิติบุคคล มีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายสาธิต กล่าว
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึงการสัมมนา Internation Tax Dialogue Conference ที่จัดร่วมกับธนาคารโลกว่า เป็นการระดมความคิดเห็นจากสรรพากร 20 เขตเศรษฐกิจ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์จัดเก็บภาษีการถ่ายโอนกำไรระหว่างประเทศ รองรับการลงทุนระหว่างประเทศและในประเทศที่มีการตั้งบริษัทลูกหรือบริษัทในเครือ เพื่อถ่ายโอนกำไรไปยังบริษัทที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี (บีโอไอ) หรือการโอนกำไรไปยังบริษัทลูกที่จัดตั้งในต่างประเทศ
“ประเทศที่ได้รับความนิยมไปตั้งบริษัทคือ หมู่เกาะเคย์แมน หมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น ซึ่งจะเป็นกลุ่มกรมสรรพากรเพ่งเล็งและจะเข้าตรวจสอบ เพราะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสในการเลี่ยงภาษีมาก” นายสาธิต กล่าว
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีพฤติกรรมที่เข้าข่ายการถ่ายโอนกำไรหลัก 5 ประเภทที่จะมีการแลกเปลี่ยนความรู้ เช่น การตั้งราคากลางของบริษัทแม่ที่อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องมีความรู้ในเรื่องของราคาสินค้าที่นำมาแสดงเป็นรายได้ด้วยว่ามีการตั้งราคาเหมาะสมหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาพบว่ามีการจ่ายเงินส่วนต่างราคาสินค้าของบริษัทแม่ในต่างประเทศ โดยกลุ่มที่พบว่ามีการเลี่ยงภาษีมากจะอยู่ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งหลายกรณีที่เมื่อเข้าตรวจสอบแล้วได้เงินภาษีคืนหลายร้อยล้านบาทต่อบริษัท
ดังนั้น หากตรวจสอบเข้มงวดขึ้นก็อาจจะเพิ่มการจัดเก็บภาษีกรมศุลกากรได้มากขึ้นเช่นกัน ปัจจุบันมีฐานผู้เสียภาษีรายใหญ่ 3,500 บริษัท ครอบคลุม 50% ของภาษีนิติบุคคล และถ้ารวมผู้เสียภาษีรายใหญ่ 10 บริษัทของพื้นที่ในแต่ละเขต ซึ่งมี 30 เขต จะเป็นมูลค่าถึง 70%


