เฉลิมโต้ชูวิทย์สาบานไม่เคยรับเงินบ่อน

"ชูวิทย์"งัดคลิปบ่อนพิษณุโลกซักฟอกเฉลิม ยกคดีบ่อนรัชดาใช้กฎหมายเดียวเเต่ตี 2 ทาง "เฉลิม"จับ 5 หมื่นราย สาบานไม่เคยรับเงินจากการพนัน                  

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 25 พ.ย. รัฐสภามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทยในฐานะฝ่ายค้านลุกขึ้นอภิปราย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี โดยก่อนเริ่มการอภิปรายนายชูวิทย์ได้นำพระแก้วมรกตมายืนยันว่าจะไม่พูดเรื่องส่วนตัว แต่เน้นการอภิปรายด้วยข้อกฎหมายและเท็จจริงเท่านั้น ทั้งนี้นายชูวิทย์ได้เปิดคลิปบ่อนการพนันใน จ.พิษณุโลกตั้งฝั่งตรงข้าม รร.น่านเจ้าโดยอ้างว่าบันทึกไว้เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ทั้งนี้สาเหตุที่ยังคงมีการเปิดบ่อนการพนันนั้นเป็นเพราะรองนายกรัฐมนตรีได้เคยพูดให้สัมภาษณ์ว่าคลิปไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้   

“ร.ต.อ.เฉลิมเคยพูดว่าคลิปการพนันนั้นใช้จับไม่ได้ เพราะมีแค่คลิปและอุปกรณ์การเล่นการพนันเพียงอย่างเดียวไม่ถือว่าเป็นความผิด ทั้งๆ ที่คลิปของผมครบองค์ประกอบความผิดถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว มีทั้งไพ่ คนเล่น เงิน และพฤติกรรมการเล่น จะใช้ไม่ได้ได้อย่างไรในเมื่อที่ผ่านมาการจับโจรใต้ก็ใช้คลิปจากกล้องซีซีทีวี หรือแม้แต่ตอนย้าย ผบ.ตร.ก็ยังบอกว่าคลิปชัดเจน ต้องย้ายต้องโดน แต่เมื่อย้าย ผบ.ตร.เสร็จแล้วได้เห็นคลิปกลับบอกว่าใช้ไม่ได้”นายชูวิทย์กล่าว 

นายชูวิทย์ยังกล่าวถึงคลิปบ่อนรัชดาฯ ที่เคยนำออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ขณะนี้ได้รับหนังสือจากจเรตำรวจและ บช.น.ลงวันที่ 23 ส.ค.เรื่องคลิปบ่อนรัชดาฯ โดยเนื้อหาระบุว่าผลการตรวจสอบนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสนใจ เอาใจใส่ต่อการปฏิบัติภารกิจ แต่ได้สั่งให้ยุติเรื่อง ถือว่าคดีในทางวินัยนั้นเจ้าหน้าที่กลับให้ความช่วยเหลือกัน เพราะในทางอาญาตำรวจกลับดำเนินคดีอาญาต่อ โดยออกหมายจับเลขที่ 1072/2554 ลงวันที่ 2 ก.ย.54 เพื่อจับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดี

นอกจากนี้ตำรวจยังเห็นควรสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 24 พ.ย.เรียกได้ว่าคดีทางอาญาก็ดำเนินการไป แต่คดีทางวินัยกลับช่วยกันยุติเรื่อง แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ร.ต.อ.เฉลิมใช้กฎหมายฉบับเดียวกัน แต่ใช้ไปใน 2 ทาง คือ ทั้งขาวและดำ อย่างไรหลังจากยุติเรื่องมีรถเบนซ์ที่ซื้อจากโชว์รูมพระราม 9 มูลค่า 3.8 ล้านบาทขับไปวนเวียนอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แสดงให้เห็นว่าระบบตำรวจไทยล่มสลายแล้ว             

นายชูวิทย์ ยังอภิปรายโจมตี ร.ต.อ.เฉลิมในโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง งบประมาณ 5,848 ล้านบาท โดยเริ่มโครงการตั้งแต่ 26 มิ.ย.54 สิ้นสุดสัญญา 17 มิ.ย.55 แต่มีการขยายเวลาการสิ้นสุดโครงการถึง 13 ม.ค.56 รวมใช้เวลา 660 วัน แม้โครงการนี้จะอนุมัติในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ แต่อยู่ในความดูแลของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยถึง 510 วันภายใต้การกำกับของ สตช.ที่ร.ต.อ.เฉลิมดูแล แต่ขณะนี้เหลือระยะเวลาเพียง 43 วันที่โครงการจะสิ้นสุดลง สถานีตำรวจทั่วประเทศยังไม่แล้วเสร็จ กลับมีทั้งการทิ้งงาน ปล่อยพื้นที่รกร้างและหลายแห่งยังไม่เริ่มการก่อสร้าง ในขณะที่ห้องทำงานส่วนตัวของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ ส.ต.ช.กลับตกแต่งแล้วเสร็จอย่างสวยงามด้วยงบประมาณ 2 ล้านกว่าบาทในระยะเวลาเพียง 1 เดือน โดยไม่ทราบว่าเป็นงบประมาณของใคร เป็นงบของสตช.หรือเป็นงบนักเลงที่ไปใช้ให้คนอื่นสร้าง

นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า การทำหน้าที่ตรวจสอบบ่อนการพนันในฐานะฝ่ายค้านของตนถูกคุกคามถึง 8 ครั้งในระยะเวลาเพียง 2 เดือน โดยมีทั้งการนำประทัดยักษ์ ลูกเปตอง ลูกดัมเบล ก้อนหิน และก้อนปูนขนาดใหญ่ปาใส่ประตูและกระจกโรงแรมของตน ทั้งนี้อยากฝากไปยังนายกรัฐมนตรีว่าอย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจเฉลิม จะจนใจเอง

“วันนี้นายกฯเป็นพญาระกาแล้ว อย่าไปพึ่งใคร ให้พึ่งตัวเอง เพราะเห็นได้ว่าที่ผมพูดมาทั้งหมดนั้น ทำให้ผมไม่สามารถไว้วางใจ ร.ต.อ.เฉลิมได้ เพราะหากอะไรที่เป็นประโยชน์ ร.ต.อ.เฉลิมจะใช้อย่างหนึ่ง แต่ถ้าไม่เป็นประโยชน์ก็จะใช้อีกอย่างหนึ่ง” นายชูวิทย์กล่าว 

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม ชี้แจงว่าอุปกรณ์การเล่นพนันอย่างเดียวนั้นไม่สามารถเอาผิดได้ ต้องจับได้ในขณะลักลอบเล่นการพนัน และมีการเอาทรัพย์สินกัน ส่วนคลิปที่นายชูวิทย์นำมาเปิดในวันนี้ขอให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 รีบไปดำเนินการ

อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าคลิปที่นายชูวิทย์เปิดนั้นยังมีไม่เท่า 1 ใน 10 ของคลิปที่ตนมี ยืนยันว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีมอบหมายงานผ่านไป 1 ปีเศษสถิติการจับกุมในรอบปีงบประมาณ 2555 นั้นสามารถจับบ่อนสำคัญได้ถึง 48,501 ราย ดังนั้นอย่าเอาข้อมูลไม่จริงมาพูดโดยไม่รับผิดชอบ ส่วนภาพรถเบนซ์สีดำที่นายชูวิทย์นำมาอภิปรายนั้นขอให้ระบุมาเลยว่าใครเป็นคนรับ จะได้สั่งให้ดำเนินการ

ทั้งนี้ขออธิษฐานต่อหน้าพระแก้วมรกตที่นายชูวิทย์นำมาว่า หากรับเงินจากบ่อนการพนันก็ขอให้วิบัติ แต่ถ้านักการเมืองคนไหนในสภาไปรับเงินจากบ่อนการพนันก็ขอให้วิบัติหายนะในเร็ววัน

“ส่วนที่นายชูวิทย์ถูกข่มขู่ หากตำรวจไม่รับดำเนินคดีก็ให้มาร้องที่นายกรัฐมนตรีหรือผมได้ จะดำเนินการให้ เพียงแต่เรื่องแบบนี้ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องมาอภิปรายในรัฐสภา นอกเสียจากว่านายชูวิทย์อยากเด่น อยากดัง” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว           

ร.ต.อ.เฉลิม ยังชี้แจงว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกันเกี่ยวกับการก่อสร้างสถานีตำรวจทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบแล้วพบว่ามีพ่อตานักการเมืองได้โครงการดังกล่าวไป และมีนักการเมืองชั่วๆ เก็บค่าต๋งไปแล้วตั้งแต่เริ่มดำเนินการ โดยหลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบครั้งใหญ่ หากพบใครทำผิดจะดำเนินการอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องการตกแต่งห้องทำงานนั้นไม่เคยมีการเบิกเงินจาก สตช.แม้แต่บาทเดียว รถประจำตำแหน่ง  คนขับและน้ำมันก็ไม่เคยนำมาใช้ส่วนตัว และการเดินทางไปต่างจังหวัดนั้นใช้สิทธิ สส.เบิกเพียงตั๋วโดยสารเครื่องบินเท่านั้น