สังคมครอบครัวเสื่อม วัยโจ๋ ลัก ซิ่ง ชิง ปล้นพุ่ง

น่าสลดหดหู่ทุกครั้งที่มีข่าวว่าเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติก่อเหตุอาชญากรรมเพราะนั่นย่อมหมายความว่าสังคมไทยได้เสื่อมโทรมลงอีกระดับหนึ่งแล้ว

โดย...ธนก บังผล

          สุดที่จะคาดเดาได้ว่าบรรดาเด็กและเยาวชน
          ที่ตั้งแก๊งก่อเหตุ ลัก ซิ่ง ชิง ปล้น หรือก่ออาชญากรรม มีพื้นฐานทางครอบครัวอย่างไร
          แต่ทำไมนับวันอายุจะน้อยลงเรื่อยๆ อนาคตของชาติเหล่านี้ได้สร้างผลกระทบอย่างร้ายแรงให้กับสังคมไทย
          ทั้งวันนี้และอนาคตอย่างประเมินค่าไม่ได้
          น่าสลดหดหู่ทุกครั้งที่มีข่าวว่าเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติก่อเหตุอาชญากรรมเพราะนั่นย่อมหมายความว่าสังคมไทยได้เสื่อมโทรมลงอีกระดับหนึ่งแล้ว โดยสาเหตุหลักปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดจากปัญหาในครอบครัวนั่นเอง
          ย้อนหลังไปเดือน ส.ค. 2549 สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งเหตุว่ามีการปล้นชิงทรัพย์และฆ่าบนสะพานลอยถนนวิทยุ พลเมืองดีรายงานว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นแก๊งเด็กนรก อายุประมาณ 14-18 ปี จำนวน 5 คนแต่ละคนครอบครัวแตกแยก และชอบมามั่วสุมสูดดมสารระเหยในบริเวณที่เกิดเหตุเป็นประจำ
          ผู้ต้องหาคนหนึ่งบอกว่า นายโจ๊ก (นามสมมติ)เป็นหัวหน้าแก๊ง อาศัยทำเลสะพานลอยดังกล่าวเป็นแหล่งรีดไถผู้คนที่เดินผ่านไปมา ในวันที่เกิดเหตุเด็กนรกทั้ง 5 คน ก่อเหตุโดยใช้ไม้ตีผู้เสียหายรายแรกได้เงิน 1,000 บาท และมือถือ 1 เครื่อง
          ผู้ต้องหารับสารภาพว่า หลังก่อเหตุไม่ได้หนีไปไหน นั่งซุ่มอยู่ใต้สะพานลอยดังกล่าว จนกระทั่งผู้ตายอีกรายเดินข้ามสะพานลอยมา นายโจ๊กจึงเดินขึ้นสะพานลอยไปคนเดียว ใช้มีดข่มขู่ผู้ตาย แต่ผู้ตายต่อสู้ นายโจ๊กได้ใช้มีดจ้วงแทงแล้วพากันหลบหนี คดีนี้ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ และตามจับกุมนายโจ๊กมาดำเนินคดี
          อีกคดีเกิดในท้องที่ สน.พระโขนง 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ตำรวจจับกุมนายพุทธวงศ์ ด้วงสังข์ พร้อมนายเอ นายบี นายซี และนายดี ทั้งหมดอายุระหว่าง14-16 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นคลิ๊ก 3 คัน และอะไหล่อีกจำนวนหนึ่ง
          ทั้งหมดตั้งแก๊งโจรกรรมรถนำมาถอดชิ้นส่วนขายและดัดแปลงสภาพ ผู้ต้องหาเด็กๆ เหล่านี้รับสารภาพว่าตระเวนขโมยรถของชาวบ้านที่จอดในที่ลับตาคน โดยต่อสายตรงแล้วมาถอดชิ้นส่วนอะไหล่ขาย บางคันก็ดัดแปลงสภาพก่อนนำไปขายให้กลุ่มวัยรุ่นแก๊งรถซิ่ง ส่วนที่เลือกรถรุ่นนี้เพราะได้ราคาดีและเป็นที่ต้องการของตลาด
          หรือแม้กระทั่งสถานที่โจ่งแจ้งกลางกรุง ที่ผ่านมาก็เคยเกิดคดีสะท้อนปัญหาเยาวชนของสังคม เมื่อมีแก๊งเด็กก่อเหตุปล้นทรัพย์ผู้เสียหายที่เป็นเด็กด้วยกันเองในสวนสาธารณะ ระหว่างที่ ด.ช.กนก ถัมเจริญศรี อายุ 14 ปี ด.ช.ธนพจน์ ภู่ตีบ อายุ 14 ปี และ ด.ช.นพัฒนธร พงษ์สวัสดิ์ อายุ 13 ปี เข้าไปเดินเล่นที่สวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ
          มีเด็ก 3 คนเดินเข้ามา โดยเด็ก 2 คนเดินไปดักหน้าให้หยุดแล้วสั่งให้ยืนเรียงแถวหน้ากระดาน เด็กหัวโจกที่ตัวโตกว่าเพื่อนไม่ได้ลงมือ แต่ใส่สนับมือยืนเคาะกับเหล็กราวสะพานให้เกิดเสียงดังเป็นการข่มขู่ก่อนจะปล่อยให้ลูกน้อง 2 คน บังคับเอาโทรศัพท์มือถือจาก ด.ช.กนก จากนั้นก็ไปรีดไถเงินจาก ด.ช.ธนพจน์ กับ ด.ช.นพัฒนธร อีกคนละ 20 บาท
          แม้แก๊งเด็กนรกจะขู่ไม่ให้แจ้งความ แต่ตำรวจสน.บางซื่อ ก็ตามรวบเด็กทั้ง 3 คนได้ทันควัน หัวหน้าแก๊งโจรเด็กเป็นวัยรุ่นอายุ 18 ปี ส่วนลูกน้องอีก 2 คน อายุ 16 และ 13 ปี
          พบว่าโทรศัพท์มือถือถูกเอาไปขายแล้ว ตำรวจตามไปยึดกลับคืนมาได้จากร้านขายโทรศัพท์มือถือร้านหนึ่งในห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว
          ว่าไปแล้วพฤติกรรมของอาชญากรเด็กที่รวมตัวเป็นแก๊งเป็นก๊วนแล้วเข้าไปข่มขู่รีดเอาทรัพย์สินจากเด็กด้วยกันเกิดขึ้นบ่อย ส่วนใหญ่เกิดในห้างสรรพสินค้า แต่ที่ทำให้สังคมต้องหันกลับมาให้ความ
          สนใจมากขึ้น คือคดีอาชญากรรมที่อายุของผู้ก่อเหตุน้อยลงเรื่อยๆ อย่างน่าใจหาย
          ล่าสุด ที่ จ.สงขลา เกิดมาใช้ชีวิตบนโลกนี้ได้เพียง8 ขวบ เด็กน้อยก็ริอ่านเดินทางโจรซะแล้ว เหตุเกิดขึ้น
          กลางดึกที่ อ.สะเดา เด็กอายุ 8 ขวบ 4 คน ชักชวนกันไปลักทรัพย์ตามบ้านเรือนต่างๆ เพื่อเอาไปเล่นเกมอินเทอร์เน็ต
          อาศัยว่าตัวเล็กเลยมุดช่องประตูเหล็กพับซึ่งเก่าและชำรุดเข้าไปขโมยเงิน แต่บังเอิญตั้งใจจะเป็นตีนแมว กลับกลายเป็นตีนมั่ว เตะแก้วน้ำที่เจ้าของบ้านวางไว้หลังบ้านแตกกระจาย
          น.ส.รัตติกาล ปัญจรักษ์ เจ้าของบ้านสะดุ้งตื่นค่อยๆ ย่องลงมาก็พบเด็กชายทั้ง 2 คน ช่วยกันรื้อค้น
          ข้าวของในบ้านอย่างย่ามใจ แต่เด็กชายอีก 2 คนเผ่นหนี จึงตัดสินใจตะโกนเรียกให้ชาวบ้านช่วยกันรวบตัว
          เมื่อตำรวจ สภ.สะเดา มายังที่เกิดเหตุก็พบเจ้าของบ้านและชาวบ้านรออยู่พร้อมชี้ตัวเด็กชายทั้ง 2 คน ซึ่ง
          กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีของกลางเป็นเงินสด 500 บาท
          น.ส.รัตติกาล บอกว่า ตอนแรกตั้งใจจะไม่เอาเรื่องเพราะเห็นว่าทั้งคู่ยังเป็นเด็ก แต่มาคิดดูอีกทีหากปล่อยไว้อาจไปก่อเหตุอีก เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็เคยโดนเด็กพวกนี้บุกขโมยของ และไม่ได้เอาเรื่องมาแล้วครั้งหนึ่ง
          อย่างไรก็ตาม อาชญากรน้อยทั้ง 2 คน เปิดปากหมดเปลือกรับสารภาพว่า ร่วมกับเพื่อนที่เรียนชั้นเดียวกันอีก 2 คน เข้าไปลักเงินในบ้านของ น.ส.รัตติกาลจริง โดยทั้งหมดเรียนอยู่ชั้น ป.3 ยอมรับว่าติดเกมงอมแงม เคยก่อเหตุมาหลายครั้ง ถูกจับได้ก็หลายหนแต่ไม่มีใครเอาเรื่อง แต่ว่ากล่าวตักเตือน จึงก่อเหตุซ้ำ
          โดยพฤติกรรมของเด็กสิ้นคิดทั้ง 4 คนนี้ จะขโมยเงินตามบ้านช่องต่างๆ ไปเล่นเกมอินเทอร์เน็ต และเคยก่อเหตุมาหลายครั้ง แต่ละครั้งจะทำทีออกมาวิ่งเล่นเพื่อมองหาบ้าน เมื่อเห็นว่าบ้านหลังไหนไม่มีคนหรือเปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้ ก็จะเข้าไปลักเงินและทรัพย์สินต่างๆ
          หลังจากได้เงินก็จะแบ่งเท่าๆ กัน แล้วไปเล่นเกมที่ร้าน ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเด็กทั้ง 2 คน ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหสถาน ก่อนนำตัวส่งสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสงขลา
          สุดที่จะคาดเดาได้ว่าบรรดาเด็กและเยาวชนที่ตั้งแก๊งก่อเหตุ ลัก ซิ่ง ชิง ปล้น หรือก่ออาชญากรรม มีพื้นฐานทางครอบครัวอย่างไร แต่ทำไมนับวันอายุจะน้อยลงเรื่อยๆ อนาคตของชาติเหล่านี้ได้สร้างผลกระทบอย่างร้ายแรงให้กับสังคมไทยทั้งวันนี้และอนาคตอย่างประเมินค่าไม่ได้!!!
          เลี้ยงลูกไม่ให้เป็นโจร
          นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ว่าที่ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อพัฒนาเด็กและครอบครัวมหาวิทยาลัยมหิดล แนะนำพ่อแม่ผู้ปกครองถึงวิธีเลี้ยงลูกไม่ให้เป็นโจรว่า ต้องอบรมสั่งสอนตั้งแต่ปฐมวัย หากลูกไปหยิบข้าวของของใครด้วยความเคยชิน พ่อแม่ต้องไม่ดูดาย และไม่ใช่พ่อแม่เอาของนั้นไปคืนแทน แต่ต้องให้ลูกเป็นคนเอาไปคืนถ้ายังพูดไม่ได้ก็ต้องพาลูกไปด้วยให้เห็นเป็นตัวอย่าง
          ต้องทำให้ลูกได้ซึมซับว่าการหยิบสิ่งของของใครมาต้องขออนุญาต แล้วต้องคืนข้าวของให้เรียบร้อย ถ้าของเสียหายก็ต้องใช้คืน ไม่ใช่ลักไก่เช่นเดียวกันเมื่อเติบโตขึ้นมาในครอบครัวแม้แต่พ่อแม่ก็ต้องบอกลูกก่อนจะหยิบของที่เป็นของลูกหากลูกจะหยิบของพ่อแม่ก็จะต้องบอกเช่นกันและต้องสอนให้รู้จักขอบคุณ
          นอกจากนี้ เมื่อลูกเริ่มโตมีการเข้าสังคมแล้วการหล่อหลอมความเป็นเจ้าของนี้จะต้องควบคู่ไปกับการรับผิดชอบค่าใช้จ่าย รับผิดชอบต่อผลของการกระทำ ให้คิดเป็นว่าสิ่งไหนดี ไม่ดี ให้ทำรายรับ-รายจ่าย ซึ่งถือว่าเป็นพื้นฐานของความพอเพียง
          "ในแต่ละวันที่มีข่าวเช่นนี้ออกมา เราสามารถสอนลูกได้ว่าอ่านข่าวนี้แล้วลูกรู้สึกอย่างไร ถ้าเป็นลูกจะป้องกันอย่างไร ตรงนี้เองที่จะเป็นการปลูกฝัง หล่อหลอมให้เด็กโตขึ้นมาไม่เป็นโจร
          นพ.สุริยเดว วิเคราะห์ถึงปรากฏการณ์ที่เด็กๆก่ออาชญากรรมมีอายุน้อยลงว่า ถ้าเป็นเด็กในวัยเล็กพฤติกรรมนั้นจะมาจากการลอกเลียนแบบผสมปนเปกับวัตถุนิยมและทุนนิยม ไม่รู้คุณค่าของเงิน ไม่มีความพอเพียง
          เหตุที่เกิดว่าอยากเล่นเกม มีความต้องการแต่ไม่รู้จะจัดการอย่างไร จึงแสดงออกด้วยวิธีที่เห็นคือลักทรัพย์ นี่เป็นการซึมซับสร้างความเคยชินจนเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองได้ ในขณะเด็กที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นจนถึงเด็กโตนั้น กลุ่มนี้จะมีวิธีคิดอีกแบบคือรู้สึกอยากได้การยอมรับจากเพื่อน ถ้าหากว่ากลุ่มเพื่อนเป็นเด็กเกเรอยู่แล้วนั้นก็ต้องแสดงวีรกรรมออกมา
          "ในเด็กวัยรุ่นช่วงกลางก็จะมีการใช้วิธีคิดเดียวกัน คือได้รับการยอมรับจากเพื่อนก็พอใจแล้ว โดยลืมนึกถึงการลงโทษ แต่ในส่วนของวัยรุ่นช่วงปลาย พวกนี้คิดได้ว่าการลักทรัพย์ท้ายที่สุดจะต้องโดนลงโทษทางกฎหมาย เด็กเหล่านี้จะพัฒนากลายเป็นบุคลิกภาพและกลายเป็นพวกต่อต้านสังคม"