posttoday

สั่งปิดป.กุ้งเผาปิ่นเกล้าหลังนำใบอนุญาตเก่าสวมสิทธิ

01 พฤศจิกายน 2555

นครบาลสั่งปิดร้าน ป.กุ้งเผาปิ่นเกล้า หลังพบย้ายสถานที่ใหม่แต่นำใบอนุญาตเก่ามาใช้สวมสิทธิ พร้อมเรียกถกผู้ประกอบการจัดโซนนิ่งปลายพ.ย.นี้

นครบาลสั่งปิดร้าน ป.กุ้งเผาปิ่นเกล้า หลังพบย้ายสถานที่ใหม่แต่นำใบอนุญาตเก่ามาใช้สวมสิทธิ พร้อมเรียกถกผู้ประกอบการจัดโซนนิ่งปลายพ.ย.นี้

พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผบช.น. กล่าวถึงมาตรการดูแลสถานบริการภายหลังที่ชุดกรณีเฉพาะกิจจำนวน 40 นาย ลงพื้นที่ตรวจสถานบันเทิงร้าน ป.กุ้งเผา ปิ่นเกล้า ริมถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อยว่า ขณะนี้ได้ทำการสั่งปิดสถานบริการดังกล่าวแล้ว ภายหลังจากที่พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น.ได้ลงพื้นที่ลงไปตรวจสอบแล้ว เนื่องจากมีหน้าที่เป็นผู้เซ็นใบอนุญาตจะลงไปตรวจสอบ รายละเอียดว่าตรงตามใบอนุญาตที่ขอไปหรือไม่ โดยเบื้องต้นพบว่า ร้านป.กุ้งเผา ขอย้ายสถานที่ แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ

พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ได้สั่งการสน.ในพื้นที่ดำเนินคดีตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว โดยสาเหตุการตรวจสอบ เนื่องจากตนเป็นผู้เซ็นใบอนุญาตสถานบริการต่างๆ พื้นที่นครบาล จึงได้ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบพบว่าใบอนุญาตดังกล่าวผู้ประกอบได้ดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นสถานที่แห่งเดิมได้ถูกปิดไปแล้ว แต่ภายหลังได้รับรายงานกลับมาว่า ย้ายไปอยู่อีกแห่งหนึ่ง โดยที่จากการตรวจสอบใบอนุญาตก็มีเลขทะเบียนไม่ตรงกัน เพราะที่ขออนุญาตไว้เป็นเลขที่เก่า แต่ไม่ได้ดำเนินการแล้ว รวมถึงสถานที่แห่งใหม่ยังไม่ได้ให้กทม.เข้ามาตรวจอาคารสถานที่ต่างๆ ซึ่งผู้ประกอบการยอมรับว่า ยังไม่มีดำเนินการขอใบอนุญาตดังกล่าวแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามได้ใช้มาตรการทางปกครอง สั่งระงับใบอนุญาตเก่าใบที่ไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง เพราะนำเอาใบอนุญาตเก่ามาสวมสิทธิ จึงสรุปว่า สถานบริการดังกล่าวยังไม่ได้รับใบอนุญาตจึงถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีโทษปรับเพียง 10,000 บาท

พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า  สำหรับขั้นตอนในการดำเนินการนั้นจะเก็บรวบรวมสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นเอาไว้ เพื่อที่จะเชิญผู้ประกอบการทั้งหมดมาร่วมกันประชุมเพื่อหารือกัน โดยพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. จะเรียนเชิญ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในการประชุมเพื่อหามอบแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว ประมาณปลายเดือนพ.ย. โดยจะหารือกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่และผู้ประกอบการ เพื่อที่จะนำสภาพปัญหาต่างๆ มาสรุปเป็นแนวทางแก้ไข รวมทั้งกำหนดโซนนิ่งและกำหนดขอบเขตผู้รับผิดชอบสถานบริการให้ชัดเจน พร้อมการวางมาตรการรักษาความปลอดและป้องกันปัญหาความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นภายในสถานบริการ จากนั้นจะทำการจัดระบบคุณภาพของสถานบริการ อาศัยหลักการจัดระบบการรักษาความปลอดภัย และต้องมีเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบผู้เข้ามาใช้บริการอย่างเข้มงวดต่อไป/

ข่าวล่าสุด

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบ กังวลเงินทุนด้านเอไอกดดันหุ้นเทคโนโลยี