จับแก๊งแชร์ลูกโซ่เงินสะพัดกว่า 5,000 ล้าน

แก๊งแชร์ลูกโซ่ชาวจีนหลอกคคนไทยเป็นสมาชิกขายน้ำมันหอมระเหยเสียหายกว่า 2 หมื่นคนมูลค่ากว่า 5 พันล้าน

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. แถลงข่าวร่วมกับ พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังจับกุม น.ส.หว่อง คิน ซี อายุ 36 ปี,น.ส.เฉิน เป่า หยี อายุ 32 ปี สัญชาติจีน ,น.ส.มีนา สุขสงวน อายุ 32 ปี และ น.ส.วนิสา ศิลาอ่อน อายุ 29 ปีข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตาม พรก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527

พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า หลังจากได้รับการประสานจาก ดีเอสไอ ตามหมายจับวันที่ 10 ต.ค.2555 ในคดีแชร์ลูกโซ่ ทาง กองกับการ 1 และ 3 บก.ป. ได้เข้าร่วมกันจับกุม น.ส.หว่อง และ น.ส.เฉินได้ที่ ลานจอดรถอาคารเดอะ สตาร์ แอท พระราม 3 แขวงบาโพงพาง โดยจับกุม น.ส.มีนา ได้ที่บ้านเลขที่ 73/219 หมู่ 5 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และ จับ น.ส.วนิสา ได้ที่ บก.ป.

“การจับกุมครั้งนี้เนื่องจากเป้นการขยายผลจากดีเอสไอ ที่ตามแก๊งแชร์ลูกโซ่ ขายน้ำมันหอมระเหย เรียกเก็บค่าสมาชิก 1 หมื่นบาท ถีง 2 แสนบาท มีผู้เสียหายมากกว่า 2 หมื่นคน เมื่อดีเอสไอสอบสวนแล้วจึงได้ออกหมายจับ แล้วประสานมายังกองปราบ ให้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คน โดย 3 คนจับได้ที่กรุงเทพ และอีก 1 คนจับได้ จ.นนทบุรี” พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าว

 นอกจากนี้ พ.ต.อ.ประสพโชค ยังกล่าวอีกว่า ขบวนการนี้มีท้ะงสิ้น 20 คน มีหัวหน้าเป็นชาวจีน 3 คนร หลอกลวงให้เสียหายประมาณ 2.5 หมื่นคน คนละประมาณ 2 แสนบาท

 “จากการสอบสวนพบว่าเดือนที่แล้วมีเงินเข้าบัญชี 120 กว่าล้านบาท เฉพาะเดือนนี้มี 36 ล้านบาท คิดดูว่าทำธุรกิจอะไรถึงได้มีเงินเข้ามากมายขนาดนี้” พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าว

 ด้าน พ.ต.อ.นิรันดร์ กล่าวว่า เมื่อประมาณต้นเดือน ก.ค. มีผู้ร้องเสียหายจากผู้ต้องหาเอาน้ำมันหอมระเหยและตะเกียงมาเสนอขาย 2 แสนบาท โดยเน้นการขายแบบสมัครสมาชิก

“พฤติการณ์คือเมื่อวันที่ 11 ส.ค.2553 ถึง 15 พ.ค.2555 ผู้ต้องหาตามหมายจับร่วมกับพวกรวม 20 คน ได้ร่วมกันกระทำความผิดโดยการชักชวนแนะนำให้ประชาชนนำเงินมาฝากและกู้ยืม โดยเสนอผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินจะจ่ายได้ โดยวิธีการทำเป็นแชร์ลูกโซ่หลอกขายสินค้า ตะเกียงพร้อมน้ำมันหอมระเหย ที่แม้ราคาจะไม่สูงแต่มีจำนวนสมาชิกมาก เป็นการฉ้อโกงประชาชน มูลค่าความเสียหายประมาณ 5,000 ล้านบาท” พ.ต.อ.นิรันดร์ กล่าว

ในขณะที่ น.ส.เฉิน กล่าวว่า เหมือนไม่ได้รับการปกป้องจากสิทธิมนุษยชน เพราะเป็นคนต่างชาติ และยืนยันว่าไม่ได้หลอกขาย เนื่องจากการจะซื้อขายต้องได้รับความสมัครใจจากลูกค้า แต่มีการขายสินค้าดังกล่าวจริง แต่เป้นการซื้อจากบริษัท ไม่ได้ซื้อจากตนเอง

 ทั้งนี้ บก.ป. ได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้ ดีเอสไอ ดำเนินคดีต่อไป