ตั้งกก.สอบครูแพร่ตบหน้านร.เลือดอาบ
ประถมศึกษาแพร่ตั้งกรรมการสอบครูตบหน้าเด็กนักเรียนเลือดกำเดาไหลเจ้าตัวปฎิเสธแค่เอามือไปตบไหล่
ประถมศึกษาแพร่ตั้งกรรมการสอบครูตบหน้าเด็กนักเรียนเลือดกำเดาไหลเจ้าตัวปฎิเสธแค่เอามือไปตบไหล่
นายกิตติพงศ์ ราชสิกข์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 2 จ.แพร่ ได้เดินทางไปยังโรงเรียนวัดศรีดอก หมู่ที่ 4 ต.หัวฝาย อ.สูงเม่น จ.แพร่ เรียกนายอเนก รัตนวิมลชัย ครูในโรงเรียนตบหน้าเด็กนักเรียน7คน บางคนในจำนวนนี้ถึงกับเลือดกำเดาไหล เหตุเกืดเมื่อวันที่3ต.ค.2555
นายอเนก ชี้แจงว่า ได้เรียกเด็กนักเรียนทั้งหมด 22 คน ที่วันนั้นไม่ได้สวมชุดพละศึกษามาโรงเรียน เพื่อให้เด็ก ๆ ไปเปลี่ยน เด็กทั้งหมดก็กลับไปเปลี่ยนเป็นชุดพละมาแล้ว แต่ก็มีอยู่ 7 คน ที่ยังไม่ยอมเปลี่ยน ก็จึงเรียกไปที่โรงอาหารเพื่อว่าตักเตือน และได้ใช้มือตบไหล่ นักเรียน แต่เด็กบางคนก็หลบมือก็ไปถูกใส่จมูกจนเลือดไหล เพราะว่าเด็กก็เป็นโรคประจำตัวอยู่แล้ว คือเส้นเลือดฝอยในโพลงจมูกดังนั้นที่ว่าตนตบหน้านักเรียนไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และไม่ได้เรียกออกไปตบหน้าเสาธงเหตุเกิดในโรงอาหาร เพียงเอามือไปตบไหล่เท่านั้น
นายกิตติพงษ์ เปิดเผยงว่า ทางเขตได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนแล้วอีกคณะหนึ่ง โดยทางโรงเรียนก็ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนอีกคณะหนึ่ง ซึ่งมีชุดสอบสวนถึง 2 คณะ ก็ต้องนำผู้ปกครองมาสอบทีละคน แม้แต่นักเรียนก็ต้องมาทำการสอบทีละคนเพื่อที่จะได้ข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายไม่เข้าข้างฝ่ายใด ผิดก็ต้องว่ากันตามผิดเพราะข้าราชครูมีบทลงโทษอยู่แล้วก็อยู่ที่ว่าผิดมากน้อย
"ต้องยอมรับว่าสมัยนี้ครูจะลงโทษเด็กเหมือนแบบเดิม ๆ ไม่ได้อีกแล้ว การทำโทษเด็กมีหลายวิธี เช่นลงโทษให้ไปเก็บกวาดขยะ ทำความสะอาดโน่นนี่มีมากมาย แต่หากใช้ความรุนแรงด้วยการตบตีแบบนี้ก็ไม่ควร สังคมไทยมันเปลี่ยนไป สื่อสารมวลชนยังขยายขอบเขตและประชาชนเข้าใจมากขึ้นจึงเป็นไปไม่ได้ว่าเมื่อข้าราชการทำอะไรแล้วประชาชนไม่รู้"นายกิตติพงษ์ กล่าว


