เปิดปูม7บริษัทจัดการน้ำ

ทั้ง 7 บริษัทที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการออกแบบก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน

และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยในวงเงิน 3.5 แสนล้านบาทในรอบแรก แบ่งเป็นบริษัทสัญชาติไทย 2 บริษัท ต่างชาติ 5 บริษัท ซึ่งล้วนเป็นยักษ์ใหญ่วงการรับเหมาก่อสร้างที่มีประสบการณ์

7 บริษัท ประกอบด้วย 1.บริษัท วอเตอร์ รีซอร์สเซส คอร์ปอเรชัน (เค-วอเตอร์) (เกาหลีใต้) 2.บริษัท ไอทีดี พาวเวอร์ ไชนา เจวี (จีน) 3.กิจการร่วมค้า ซัมมิท เอสยูที ประกอบด้วย 3 บริษัท 4.กิจการร่วมค้า ทีมไทยแลนด์ ประกอบด้วย 8 บริษัท 5.บริษัท ไชน่า ซีเอเอ็มซี เอนจิเนียริ่ง 6.กิจการร่วมค้า ญี่ปุ่น-ไทย ประกอบด้วย 11 บริษัท และ 7.คอนซอเตี้ยม ทีเคซี โกลบอล ประกอบด้วย 16 บริษัท

ทั้งนี้ ในวันที่ 24 ก.ย. เวลา 09.30 น. กบอ.จะเชิญบริษัทที่ผ่านเกณฑ์เข้ารับทราบรายละเอียดการเสนอกรอบแนวคิด

สำหรับประวัติและประสบการณ์การทำงานของแต่ละบริษัท

 

1.บริษัท วอเตอร์ รีซอร์สเซส คอร์ปอเรชัน (เค-วอเตอร์) ผลงาน 682,840 ล้านบาท ยื่นทั้ง 2 แพ็กเกจ (ประเภทยื่นเดี่ยว) เป็นองค์การบริหารจัดการน้ำประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ มีหน้าที่ในการจัดการทรัพยากรน้ำและระบบน้ำในภูมิภาคของเกาหลีใต้ มีประสบการณ์การทำงานมากว่า 40 ปี เคยร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาคในการพัฒนาระบบการผลิตน้ำประปา ที่ กปภ.สาขาขอนแก่น

2.บริษัท ไชน่า ซีเอเอ็มซี เอนจิเนียริ่ง จากประเทศจีน ผลงาน 19,749 ล้านบาท ยื่นโมดูล A6 (Floodway) (ประเภทยื่นเดี่ยว) ธุรกิจหลักคือการก่อสร้างโครงสร้างทางวิศวกรรมและออกแบบเครื่องจักรกลในประเทศจีน ทั้งนี้ โครงการที่ซีเอเอ็มซี เคยผ่านงาน เช่น การขนส่ง วัสดุก่อสร้าง อาหาร ปิโตรเคมี เครื่องจักรกลการเกษตร วิศวกรรมเทศบาลงานชลประทาน เป็นต้น

3.กิจการร่วมค้าซัมมิท เอสยูที ผลงาน 20,500 ล้านบาท ประกอบด้วยบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ทำงานร่วมกับกรมชลประทานและการประปาส่วนภูมิภาค มารวมตัวกัน 3 ราย คือ หจก.สามประสิทธิ์ บริษัท เอส.เค.วาย. คอนสตรัคชั่น และบริษัท ยูเนี่ยน อินฟาร์เทค

4.กิจการร่วมค้า ทีมไทยแลนด์ ผลงาน 67,141 ล้านบาท ยื่นทั้ง 2 แพ็กเกจ เป็นการรวมตัวของผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่เมืองไทย คือ บริษัท ช.การช่าง ที่นำบริษัท ช.การช่าง (ลาว) คือบริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ เมนเนจเมนต์ เข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ ยังมี บริษัท คริสเตียนี่แอนด์เนลเส็น และบริษัทรับเหมาก่อสร้างอื่นอีก 4 รายมาจับมือกัน

5.กิจการร่วมค้าญี่ปุ่น-ไทย ผลงาน 1,147,501 ล้านบาท ยื่นทั้ง 2 แพ็กเกจประกอบด้วย บริษัท ซีทีไอ เอ็นจิเนียริ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท โอบายาชิ คอร์ปอเรชั่น บริษัท ไทเซอิ คอร์ปอเรชั่น บริษัท คาจิมา คอร์ปอเรชั่น บริษัท ชิมิซี คอร์ปอเรชั่น บริษัท ซีทีไอ เอ็นจิเนียริ่ง

บริษัท ซันยู คอนซัลแตนท์ส อินคอร์ปอเรชั่น องค์กรบริหารจัดการน้ำประเทศญี่ปุ่น ฯลฯ

6.คอนซอเตี้ยม ทีเคซี โกลบอล

ประกอบด้วยบริษัทจากเกาหลี 6 แห่ง อาทิ Pyuangwa Engineering ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการก่อสร้างและสิ่งแวดล้อม บริษัท Dongho บริษัทด้านบริหารจัดการน้ำและน้ำเสียกับบริษัทไทยอีก 4 แห่ง นำโดย บริษัท ไทยเอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ บริษัท ร็อจ แอนด์แอสโซซิเอทส์ เป็นต้น

7.บริษัท ไอทีดี พาวเวอร์ ไชนา เจวี

กลุ่มนี้บริษัทรับเหมายักษ์ใหญ่อย่างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จับมือกับบริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ ร่วมมือกับบริษัทจากจีน ทั้ง บริษัท พาวเวอร์ คอนสตรัคชั่น คอร์ปอเรชั่น ออฟ ไชน่า บริษัท ไชน่า เก๋อโจวบ๋า กรุ๊ป บริษัท ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล วอเตอร์ แอนด์ พาวเวอร์ คอร์เปอเรชั่น

สุวัฒนา จิตตลดากร ประธานอนุกรรมการวิศวกรรมแหล่งน้ำ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (ว.ส.ท.) เปิดเผยว่า ไม่แปลกใจที่บริษัทรายใหญ่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกให้เข้าร่วมโครงการออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ

“คาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะมีแต่บริษัทใหญ่เหล่านี้ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งก็ถือว่าเป็นที่ยอมรับในระดับสากล” สุวัฒนา กล่าว

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่จะตามมาก็คือแต่ละโครงการยังไม่ได้มีการศึกษารายละเอียดผลกระทบ หรือการจัดลำดับความสำคัญแต่ละแผนงาน ซึ่งอาจจะมีการฟ้องร้องและเกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชน ภาครัฐ และบริษัทเหล่านี้

“ยกตัวอย่างปัญหาเรื่องความคุ้มค่า เรื่องความเหมาะสม และเรื่องสิทธิชุมชน ซึ่งผมยังมองไม่เห็นอนาคตว่ารัฐบาลและบริษัทเหล่านี้จะเดินหน้าต่ออย่างราบรื่นได้อย่างไร” สุวัฒนา กล่าว

เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์พลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่าไม่กังวลเรื่องที่กลุ่มบริษัทจีน เกาหลี และญี่ปุ่น ได้รับคัดเลือกถึง 5 บริษัท เนื่องจากเมื่อถึงเวลาจริงบริษัทเหล่านี้ต้องอาศัยข้อมูลจากวิศวกรไทยในการทำงานอยู่ดี เนื่องจากคนไทยมีข้อมูลมาก กว่ากลุ่มบริษัทต่างชาติ

ขณะที่ ปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชี้แจงกระทู้ในสภาว่า ในเดือน เม.ย.นี้ จะได้เห็นการทำสัญญากับบริษัทบริหารจัดการน้ำ และยืนยันว่าน้ำที่ท่วมไม่ถึง 50 ซม. ไม่เรียกว่าน้ำท่วม

“ที่ระบุว่าน้ำท่วม 20 จังหวัดนั้น คำว่าท่วมของผมนั้น คือต้องสูงกว่าคันนา คือ 50 ซม. ปัจจุบันที่มีน้ำเข้าไปจริงๆ คือ 2 จุด คือ บางบาล และบางระกำ เท่านั้น แต่ก็ยังสูงเพียงแค่ 30 ซม. การใช้คำว่าท่วมคงไม่ได้ เหมือนกับจะบอกว่าน้ำท่วมในแม่น้ำคงไม่ได้เหมือนกัน” ปลอดประสพ กล่าว