มุสลิมไทยประท้วงหน้าสถานทูตมะกัน
กลุ่มชาวมุสลิมในประเทศไทย 400 คน ประท้วงหน้าสถานทูตสหรัฐฯ เรียกร้องให้รับผิดชอบหนังดูหมิ่นศาสนา ก่อนสลายตัว
กลุ่มชาวมุสลิมในประเทศไทย 400 คน ประท้วงหน้าสถานทูตสหรัฐฯ เรียกร้องให้รับผิดชอบหนังดูหมิ่นศาสนา ก่อนสลายตัว
เมื่อเวลา 14.00 น. กลุ่มผู้นับถือศาสนาอิสลามในประเทศไทย ที่รวมตัวกันที่สวนลุมพินี จำนวนประมาณ 400 คน ได้เคลื่อนตัวผ่านถ.วิทยุมุ่งหน้าสู่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อร่วมกันประท้วงต่อต้านภาพยนต์เรื่อง Innocent of Islam ที่มีเนื้อหาเป็นการดูหมิ่นศาสนาอิสลาม
บรรยากาศการเคลื่อนขบวนของกลุ่มมุสลิมเป็นไปอย่างคึกคัก แม้สายฝนจะโปรยปรายลงมาอย่างหนัก แต่ก็ยังคงมีการเดินประท้วงต่อไป โดยมีการนำป้ายภาพของมุฮัมหมัด ศาสดาศาสนาอิสลามชู พร้อมกับป้ายข้อความอื่นๆ อาทิ “หยุดดูหมิ่นศาสนาอิสลาม” “เรารักท่านศาสดา” “พวกเรามาแล้วท่านศาสดา” “หยุดทำลายศาสนาอื่น” “หยุดดูหมิ่นศาสดา” ฯลฯ
ทั้งนี้ ยังมีการตะโกนเพื่อรบเร้าและด่าทอประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างหนักหน่วงและรุนแรง อาทิ “อเมริกาจงพินาศ” “อิสราเอลจงพินาศ” เป็นต้น
ด้านนายไซยิด สุไลมาน ฮูไซนี ผู้นำกลุ่มชีอะห์แห่งประเทศไทย ที่นำขบวนการประท้วงในครั้งนี้ ขึ้นกล่าวบนรถกระจายเสียงว่า ขอประนามประเทศสหรัฐฯ และกลุ่มไซออนิสต์อิสราเอล รวมถึงกลุ่มที่เกี่ยวข้องและมีส่วนในการผลิตภาพยนต์ที่ดูหมิ่นศาสนาอิสลาม ภาพยนต์ดังกล่าวละเมิดความศรัทธา และดูหมิ่นเหยียดหยามต่อศาสนาอิสลามและชาวมุสลิมทั่วโลกอย่างรุนแรง โดยการประท้วงครั้งนี้ของกลุ่มคนมุสลิมในประเทศไทย ขอเรียกร้องให้สหรัฐฯ และกลุ่มไซออนิสต์อิสราเอล ออกมารับผิดชอบต่อการกระทำของนายแซม บาร์ไซล์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศทั้งสองให้ผลิตภาพยนต์ที่ดูหมิ่นศาสนา และขอให้จับกุมนายแซมทันทีเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
“หากเขา (สหรัฐฯ) ดูหมิ่นศาสนาอิสลามได้ อีกไม่นานศาสนาอื่นๆ ในโลกนี้ก็จะถูกดูหมิ่นเช่นกัน ดังนั้นอยากให้ผู้ที่นับถือศาสนาอื่นๆ ออกมาเรียกร้องและประนามการกระทำของสหรัฐฯร่วมกัน”
นายไซยิด กล่าวอีกว่า เหตุที่นักการทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศลิเบีย ถูกสังหารจากเหตุประท้วงที่ลามไปทั่วโลกนั้น เป็นเพราะทางการสหรัฐฯ เพิกเฉยต่อการประท้วง ถือเป็นบทเรียนและเป็นตัวอย่างหากสหรัฐฯ ยังคงเพิกเฉยต่อการกระทำของตัวเอง ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมจะมีการยื่นหนังสือต่อสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เพื่อให้ทราบถึงข้อเรียกร้อง และหากเพิกเฉยอีกจะมีการยกระดับการชุมนุมต่อไป
ขณะที่เสียงจากผู้ชุมนุม นายจะนะ นะลี ชาวไทยเชื้อสายจีนที่นับถือศาสนาอิสลาม กล่าวว่า ที่มาประท้วงและร่วมชุมนุมในครั้งนี้ เพื่อเรียกร้องให้สหรัฐฯ ดำเนินการออกมารับผิดชอบต่อภาพยนต์ดังกล่าว และออกมาขอโทษต่อชาวมุสลิมในประเทศไทย รวมถึงชาวมุสลิมทั่วโลกด้วย อย่างไรก็ตาม การชุมนุมในครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความสงบ เพราะอย่างไรเราก็ถือว่าเป็นคนไทยด้วยกัน และไม่มีความรุนแรงแน่นอน
“สหรัฐฯ เป็นเหมือนพ่อที่ต้องออกมารับผิดชอบต่อการกระทำของลูก เพราะลูกตัวเองไปทำให้บ้านเรือนคนอื่นเสียหาย ซ้ำยังเป็นการดูหมิ่นคนอื่นอย่างรุนแรง คนเป็นพ่อต้องออกมาทำโทษลูก และรับผิดชอบ”นายจะนะ กล่าว
ขณะที่กำลังตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5 )ที่รักษาความปลอดภัยโดยรอบ ได้ตรึงกำลังไว้ที่จำนวน 2 กองร้อย และยังมีชุดจู่โจมมาประจำการอีกจำนวน 100 นาย ทั้งนี้ มีรายงานว่ายังมีกำลังตำรวจจากกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) เตรียมพร้อมไว้อีกจำนวนหนึ่งหากสถานการณ์เกิดความรุนแรง
ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำการเผาธงชาติสหรัฐฯ พร้อมประกาศว่าหากสหรัฐยังไม่มีการดำเนินการใดๆเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ทางกลุ่มมุสลิม 15 เครือข่ายทั่วประเทศจะกลับมาชุมนุมบริเวณหน้า สถานเอกอัครราชฑูตสหรัฐอเมริกาอีก ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะประกาศสลายการชุมนุมอย่างสงบ


