จีน-ญี่ปุ่นประท้วงลุกลาม

การประท้วงต่อต้านญี่ปุ่นในจีนแผ่นดินใหญ่ กรณีข้อพิพาทเกาะ “เซนกากุ” ที่ญี่ปุ่นอ้างกรรมสิทธิ์ หรือเกาะ “เตียวหยู” ที่จีนอ้างเป็นเจ้าของ ได้บานปลายจนกลายเป็นเหตุรุนแรงไปแล้ว โดยกลุ่มผู้ประท้วงที่โกรธแค้นทั้งบุกเผาโรงงานกว่า 10 แห่ง ปล้นสะดมร้านค้า ห้างสรรพสินค้าสัญชาติซามูไร ตลอดทั้งประกาศบอยคอตสินค้าและชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในจีน ทำให้คนญี่ปุ่นที่อยู่ในแดนมังกรหวาดผวาในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินไม่กล้าออกไปไหนมาไหน

ทำให้ โยชิฮิโกะ โนดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ต้องออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่งใช้มาตรการการรักษาความปลอดภัยต่อชาวญี่ปุ่น และทรัพย์สินของชาวญี่ปุ่น อย่างเต็มที่ ภายหลังจากมีชาวจีนฮือชุมนุมประท้วงต่อต้านญี่ปุ่นเกิดขึ้นพร้อมกันในหลายเมือง ทั้งนี้ความขัดแย้งของทั้งสองประเทศมหาอำนาจในเรื่องพื้นที่ทับซ้อนครั้งนี้กำลังส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของทั้งสองชาติอีกด้วย

ขณะที่กลุ่มชาวมุสลิมออกมาต่อต้านภาพยนตร์หมิ่นศาสนาอิสลามลุกลามทั่วโลก แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่มีแนวโน้มเกิดสงครามครูเสดภาค 3 หลังจากกลุ่มชาวมุสลิมโดยเฉพาะตะวันออกกลางและแอฟริกาหลายประเทศลุกฮือประท้วงหน้าสถานทูตสหรัฐขั้นรุนแรงจนถึงขั้นเสียเลือดเนื้อและบาดเจ็บล้มตายแล้วหลายราย

กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาทำได้แค่มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ของสถานทูตสหรัฐ ที่มีตำแหน่งไม่สำคัญพร้อมครอบครัว เดินทางออกนอกประเทศทันที เช่น ในประเทศตูนิเซียและซูดาน หลังจากกลุ่มผู้นับถือศาสนาอิสลามก่อเหตุบุกสถานทูตสหรัฐ เนื่องจากโกรธแค้นภาพยนตร์ดูหมื่นดังกล่าว รวมทั้งกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์แห่งคาบสมุทรอาราเบียน (เอคิวเอพี) ซึ่งมีฐานอยู่ในประเทศเยเมนโหนกระแสออกมาปลุกปั่นให้กลุ่มผู้ประท้วงยกระดับความรุนแรง