วิกฤตโลกปี 2013

ซีเอ็นเอ็นเผยแพร่บทความ แสดงความเห็นส่วนตัวของ เดวิด ฟรัม บรรณาธิการนิตยสารนิวส์วีกของสหรัฐ โดยมีใจความสำคัญระบุว่าปี 2013

อาจกลายเป็นช่วงที่จะเกิดวิกฤตการณ์ร้ายแรงไปทั่วโลกได้และจะกลายเป็นโจทย์และความท้าทายสำคัญที่ประธานาธิบดีคนใหม่ซึ่งจะขึ้นมารับตำแหน่งในปีหน้า รวมไปถึงรัฐบาลทั่วโลกจะต้องเผชิญและรับมือ

ผู้เขียนให้เหตุผลว่า ราคาอาหารทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น อันเป็นผลมาจากความเสียหายในพืชผลทางการเกษตรในภัยแล้งครั้งรุนแรงในสหรัฐและรัสเซียในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา กำลังสร้างความยากลำบากให้กับประชาชนไปทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศยากจน ซึ่งสัดส่วนรายจ่ายกว่าครึ่งหมดไปกับค่าอาหารในแต่ละวัน

ฉะนั้น ความยากแค้นและลำบากที่เกิดขึ้นจึงอาจเป็นแรงกดดันให้เกิดการลุกฮือขึ้นประท้วงและต่อต้านรัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องให้ได้ เหมือนดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงการลุกฮือปฏิวัติของประชาชนในตะวันออกกลางเมื่อต้นปี 2010

ทั้งนี้ ผู้เขียนยังได้หยิบยกตัวอย่างเหตุการณ์ในอียิปต์ขึ้นมาเป็นบทเรียนเพื่อชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกันระหว่างปัญหาปากท้องของประชาชนกับการลุกฮือขึ้นมาโค่นล้มรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดี มูบารัก แห่งอียิปต์ว่าก่อนหน้าที่จะเกิดการลุกฮือประท้วงดังกล่าวและลุกลามไปทั่วทั้งตะวันออกกลางหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาได้เผชิญกับวิกฤตราคาอาหารมาก่อนในช่วงปี 20072008

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้นโยบายในการช่วยเหลือประชาชนผู้ยากจนในอียิปต์ของรัฐบาลที่เคยทำมาตั้งแต่สมัยประธานาธิบดี นัสเซอร์ ผ่านการอุดหนุนราคาอาหารไม่สามารถทำได้ในสมัยมูบารัก เพราะเกินกำลังงบประมาณของรัฐบาลจะแบกรับได้

ฉะนั้น หากเกิดภาวะราคาอาหารแพงขึ้นอีกครั้ง หลายประเทศโดยเฉพาะรัฐบาล จีน บราซิล และปากีสถาน อาจจะต้องเผชิญความท้าทายจากการลุกฮือประท้วงอีกครั้ง