‘คนรับใช้อันตราย’ ก่อนรับต้องคัดกรอง

โดย...กันติพิชญ์ ใจบุญ

ในห้วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุ “คนรับใช้” ที่ทำงานของบ้านของ “แหม่ม” วิชุดา พินดั้ม ดารานักแสดงสาว โดยคนรับใช้รายนี้รับหน้าที่ดูแลพ่อของดาราที่นอนป่วยอยู่ และภาพจากกล้องวงจรปิดก็สามารถบันทึกภาพขณะที่คนรับใช้ของเธอกำลังยกโทรทัศน์ออกจากบ้านไป ซึ่งเรื่องนี้ยังคงเป็นคดีความตามตัวมาเอาผิดกันอยู่

ด้วยพฤติกรรมของคนรับใช้ที่ดูเหมือนว่าแต่ละบ้าน โดยเฉพาะบ้านหลังใหญ่ๆ ที่จำเป็นจะต้องมีเข้ามาช่วยเหลืองานบ้าน หากบ้านไหนได้คนรับใช้ดีก็ถือว่าดีไป แต่หากได้คนรับใช้ที่จ้องจะขโมยทรัพย์สินของเจ้าของบ้าน เหมือนมีโจรอยู่ในบ้านของตัวเอง ก็เห็นทีจะเป็นคราวซวย บางรายเสียทรัพย์สินเงินทองไปกับแม่บ้านคนรับใช้นับแสนบาทล้านบาท หรือของมีค่าทางจิตใจต่างๆ ก็ถูกกวาดเรียบไป ไม่แตกต่างจากการถูกขโมยขึ้นบ้านดีแท้

ปัญหาดังกล่าวถือว่ามีมากทีเดียว โดยเฉพาะกับคนรับใช้ที่ไม่ได้ผ่านการคัดกรองอย่างดีถี่ถ้วน หรือการติดต่อกันเองไม่ผ่านระบบการจัดหางานต่างๆ ทำให้เกิดปัญหารู้หน้าไม่รู้ใจ อย่างยิ่งกับคนรับใช้ที่ต้องมากินนอนอาศัยอยู่ร่วมกันกับเจ้าของบ้าน บางคนถูกฆาตกรรมจากฝีมือของคนรับใช้เอง หรือเป็นสายโจรคอยเปิดบ้านให้พรรคพวกมิจฉาชีพย่องมายกเค้าภายในบ้าน

การรับคนรับใช้เข้ามาทำงาน ก็ต้องพิจารณาถึงกฎความปลอดภัยของคนในบ้านด้วยเช่นกัน เพราะการเข้ามากินอยู่ต้องเกิดความใกล้ชิดกับคนในครอบครัว หากกรองไม่ดีอาจจะเกิดปัญหาได้ในภายหลัง ว่าแล้วกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ออกวิธีแนะนำการรับจ้างคนรับใช้ใหม่ เพื่อให้คัดกรองดูความปลอดภัย ตรวจสอบประวัติการรับเข้ามาทำงาน

เริ่มแรกจากขั้นตอนคัดกรองก่อนว่าจ้าง 1.คนรับใช้ที่อยากได้มาทำงานบ้าน ควรจะเป็นคนที่รู้จัก หรือมีการแนะนำจากญาติของตนเอง โดยเฉพาะรู้ถึงแหล่งที่อยู่ของคนรับใช้ อาจจะมาจากภูมิลำเนาเดียวกันกับเจ้าของบ้านก็ยิ่งดี จะได้มีความคุ้นชิน และไว้เนื้อเชื้อใจกันได้ง่ายกว่าบุคคลที่ไม่รู้พื้นหลังมาก่อน

2.เก็บรวบรวมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และทำประวัติโดยย่อไว้ เนื่องจากหากเกิดเหตุร้ายขึ้นหรือเหตุต่างๆ จะได้มีการติดตามตัวเพื่อเป็นหลักฐานในการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ควรถ่ายภาพคนรับใช้หรือเก็บบันทึกหมายเลขโทรศัพท์มือถือ (ถ้ามี) รวมทั้งรายละเอียดอื่นๆ เก็บไว้ให้มากที่สุด เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและทรัพย์สินภายในบ้าน

3.ก่อนรับทำงาน เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ทั้งตัวผู้จ้างและผู้ที่รับจ้างเอง พากันไปที่โรงพักใกล้เคียง เพื่อขอความร่วมมือกับตำรวจในท้องที่ให้พิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อตรวจสอบประวัติของคนรับใช้ที่จะรับเข้าทำงาน

4.หลีกเลี่ยงบุคคลต่างด้าว ทั้งด้วยเรื่องภาษาที่แตกต่าง รวมถึงพื้นหลังต่างๆ ที่ตามประวัติได้ยาก แต่หากจำเป็นต้องจ้างคนต่างด้าว ก็ควรจะติดต่อกับสำนักงานจัดหางานในแต่ละท้องที่ เพื่อให้ช่วยคัดกรองและตรวจสอบอีกขั้นหนึ่ง

5.เมื่อรับมาทำงานแล้ว บ้านหลังใหญ่ๆ เจ้าของบ้านเองอาจจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง ควรจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ด้วย เพื่อคอยตรวจสอบและระวังภัยในทรัพย์สินของตัวเองเพิ่มมากขึ้น รวมถึงสอดส่องดูพฤติกรรมของคนรับใช้ในการทำงานได้อีก

เมื่อรับคนรับใช้เข้ามาทำงานแล้ว ด้วยวิธีคัดกรองต่างๆ อย่างถูกต้องและมั่นใจว่าปลอดภัยแน่นอน สำคัญมากที่เจ้าของบ้านต้องมีความรู้ความเข้าใจในด้านระวังภัยของทรัพย์สินภายในบ้านของตนเอง รวมถึงบอกคนรับใช้ถึงวิธีการเฝ้าระวังให้เป็นหูเป็นตาแทนเจ้าของบ้านจากคนร้ายหรือโจรรูปแบบต่างๆ