ป่วนใต้กว่า 100 จุด ทำไมต้องใช้ธงมาเลเซีย?

เช้าตรู่วันที่ 31 ส.ค. ชาวบ้านในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอใน จ.สงขลา ต้องตื่นตะลึงกับวัตถุต้องสงสัย ธงชาติมาเลเซียที่ปักไว้ตามเสาไฟฟ้า ข้างทาง และซากเผาธงชาติไทย นับ 100 จุด ทั่วทุกพื้นที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) สรุปว่า พบการก่อกวนในลักษณะดังกล่าวรวม 102 จุด แยกเป็น จ.ปัตตานี 12 จุด จ.ยะลา 34 จุด จ.นราธิวาส 44 จุด และ จ.สงขลา 12 จุด แม้ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงการก่อกวน ไม่ใช้ระเบิดจริง แต่เฉพาะที่ จ.นราธิวาส มีการวางระเบิดจริงรวม 5 จุด เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้โรงเรียนหลายแห่งในพื้นที่ชายแดนภาคใต้งดการเรียนการสอนชั่วคราว บุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า แม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับชีวิตครู แต่การก่อเหตุบนถนนและบริเวณสำคัญที่เป็นเชิงสัญลักษณ์หลายแห่ง ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าจะไม่ส่งผลกระทบทางตรงหรือทางอ้อมกับประชาชนโดยเฉพาะครูในพื้นที่

“จากการติดตามและสอบถามครูในพื้นที่ จ.นราธิวาส ยะลา และปัตตานี บอกเสียงเดียวกันว่า น่ากลัว คนร้ายสามารถป่วนได้หลายจุด ครูก็เสียขวัญ และไม่มั่นใจในความปลอดภัย ขณะนี้ได้แจ้งไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนทุกแห่ง หากพิจารณาว่าอาจเกิดความไม่ปลอดภัยกับครูกับนักเรียนหรือโรงเรียน ก็ให้ใช้ดุลพินิจปิดการเรียนการสอนได้ทันที เพื่อป้องกันการสูญเสียและเหตุไม่คาดฝันได้”

หลังเกิดเหตุ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ลงพื้นที่ในวันที่ 1 ก.ย.นี้

การก่อเหตุครั้งนี้มีนัยแฝงอยู่หลายประการ หนึ่ง คือ เป็นวันก่อตั้งกลุ่มแนวร่วมเพื่อเอกราชปัตตานี หรือเบอร์ซาตู ขณะเดียวกันก็ตรงกับวันเมอร์เดกา (เอกราช) หรือวันชาติมาเลเซีย ในความเห็นของหน่วยงานความมั่นคง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขบวนการเบอร์ซาตูมีความเกี่ยวพันกับประเทศมาเลเซียมานาน ชี้ให้เห็นว่าขบวนการเบอร์ซาตูต้องการกลับมาก่อความไม่สงบอีกครั้ง แต่คงไม่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมาเลเซีย และจะแจ้งให้ทางมาเลเซียทราบว่าขบวนการเบอร์ซาตูได้พยายามดึงมาเลเซียเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า กลุ่มคนร้ายพยายามแสดงศักยภาพว่ายังมีอิทธิพลในพื้นที่ โดยเฉพาะเป็นวันสถาปนาขบวนการเบอร์ซาตู จึงทำให้กลุ่มคนร้ายพยายามก่อเหตุมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องการสร้างสถานการณ์ให้มาเลเซียเข้าใจผิด

 

ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ก็กล่าวว่า การเผาธงชาติไทยและติดธงมาเลเซีย ก็เพื่อให้ไทยและมาเลเซียหวาดระแวงซึ่งกันและกัน แต่ทั้งสองประเทศยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด ทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติในพื้นที่ การสร้างสถานการณ์เช่นนี้คงจะไม่ทำให้ประเทศไทยและมาเลเซียเกิดความขัดแย้งกันได้

ความเห็นของตัวแทนภาครัฐนั้นมองไปที่การพยายามให้ไทยกับมาเลเซียขัดแย้งกัน ซึ่งหากมองบริบทแวดล้อมทั้งหมดจากอดีตถึงปัจจุบันแล้ว นับว่ามีประเด็นน่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะถึงแม้ว่าในปัจจุบันขบวนการเบอร์ซาตู ซึ่ง ดร.วันกาเดร์ เจ๊ะมาน นักวิชาการมาเลเซียเชื้อสายปัตตานี พยายามรวมกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทั้งหมดให้เป็นเอกภาพ จะไม่มีบทบาทและศักยภาพใดๆ โดยกลุ่มปฏิบัติการที่มีอิทธิพลสูงสุดคือ บีอาร์เอ็นโคออร์ดิเนต

ที่น่าคิดคือ ตัวแทนหน่วยงานต่างๆ ของไทยมักจะมีการพบปะหารือกับแกนนำเบอร์ซาตูอยู่เนืองๆ โดยมาเลเซียคอยช่วยอำนวยความสะดวก ในขณะที่ฝ่ายบีอาร์เอ็นนั้นกลับปฏิเสธแนวทางเจรจา ดังนั้นกลุ่มเบอร์ซาตูเดิมจึงไม่น่าจะก่อเหตุให้มาเลเซียกระทบกระเทือนไปด้วย

ฮาฟิส สาและ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ให้ความเห็นว่า การใช้ธงมาเลเซียและก่อเหตุในวันชาติมาเลเซีย อาจจะต้องการให้มองว่าขบวนการเบอร์ซาตูในไทยเป็นหนึ่งเดียวกับมาเลเซีย แต่ข้อเท็จจริงที่เขารู้มาก็คือ เบอร์ซาตูหลายๆ คนที่อยู่ในมาเลเซียไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับขบวนการในไทย และไม่ต้องการให้การมีอยู่ของขบวนการในไทยกระทบมาเลเซีย

ประเด็นการก่อเหตุในวันชาติ ซึ่งมาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษ จึงน่าวิเคราะห์ว่ามีนัยสำคัญซ่อนเร้นอยู่หรือไม่ หากเป็นการสื่อความเชิงสัญลักษณ์ สิ่งที่ต้องการสื่อนั้นคืออะไร?

แม้ในอดีตมาเลเซียและปัตตานีนั้น ต่างเป็นรัฐเอกราช แต่ก็ล้วนมีเชื้อสายมลายูเช่นเดียวกัน และคำประกาศเจตนารมณ์ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนทุกกลุ่มตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ชัดเจนว่า ต้องการเป็นรัฐเอกราชไม่ขึ้นกับไทยหรือแม้แต่มาเลเซีย

ดังนั้น ประเด็นการใช้ธงชาติมาเลเซีย จึงอาจเป็นการสื่อให้เห็นว่าปัตตานีต้องการเอกราชเฉกเช่นเดียวกับที่มาเลเซียได้รับเอกราชมาแล้ว 55 ปี

“การก่อเหตุครั้งนี้เป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่ายังมีอิทธิพลเพื่อให้ประชาชนหวาดกลัวและหันมาให้ความร่วมมือจัดตั้งรัฐปัตตานี การปักธงชาติมาเลเซียเป็นการส่งสัญญาณให้มวลชนรู้ว่าการปฏิวัติรัฐปัตตานีใกล้สำเร็จแล้ว” แหล่งข่าวระบุ

ก่อนเกิดเหตุป่วน 100 จุดครั้งนี้ ประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ ประธานสภาประชาสังคมชายแดนภาคใต้ ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า มีใบปลิวข่มขู่เอาชีวิตคนไทยพุทธแพร่กระจายทั่วไปในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ จุดประสงค์เพื่อข่มขู่ให้คนไทยพุทธอพยพย้ายถิ่นฐานออกนอกพื้นที่ชายแดนภาคใต้ โดยท้ายใบปลิวระบุชื่อกลุ่มนักรบฟาตอนี หรือปัตตานี

อีกทั้งก่อนหน้านี้ช่วงการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนที่เพิ่งผ่านพ้นไป ก็เกิดความรุนแรงขึ้นในพื้นที่ถี่ยิบ โดยเฉพาะเหตุการณ์ประกบยิงทหารเสียชีวิต 4 นาย ในพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี และล่าสุด กราดยิงขบวนรถไฟในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 1 นาย

ดังนั้น นับจากนี้จึงต้องยิ่งเพิ่มการเฝ้าระวัง เพราะขบวนการก่อความไม่สงบซึ่งกำลังฮึกเหิม อาจก่อเหตุขึ้น เพื่อใช้ความกลัวบีบบังคับดึงมวลชนเช่นที่เคยทำในอดีต

ด้านพรรคฝ่ายค้าน ถาวร เสนเนียม สส.สงขลา วิเคราะห์ปัญหาว่าเกิดจากฝ่ายการเมืองไม่ลงไปกำกับดูแล เจ้าหน้าที่จึงไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่

สถานการณ์ชายแดนภาคใต้น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง