posttoday

ตร.สกลนครจับแก๊งทุจริตจำนำข้าว

09 สิงหาคม 2555

ตำรวจสกลนครจับกุมฉก๊งทุจริตจำนำข้าวรายแรกของประเทศสนองนโยบายนายกฯปู

ตำรวจสกลนครจับกุมฉก๊งทุจริตจำนำข้าวรายแรกของประเทศสนองนโยบายนายกฯปู

ตร.สกลนครจับแก๊งทุจริตจำนำข้าว ตร.สกลนครจับแก๊งทุจริตจำนำข้าว



 

พล.ต.ต.พลศักดิ์  บรรจงศิริ  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร นายวัชราวุธ  พรวงวาปี  ผู้จัดการ ธกส.อำเภออากาศอำนวย พร้อมกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ และชุดสืบสวน ภ.จว.สกลนคร แถลจับกุมขบวนการทุจริตจำนำข้าวนาปรัง นาปี พ.ศ.2555 ตังแต่วันที่ 25 พ.ค. มีผู้ต้องหาประกอบด้วย นายวีระศักดิ์  โคตรผาย อายุ 27 ปี นายวันชัย  พวงใบดี อายุ 25 ปี และนายประภาส เตียงชัย  อายุ 42 ปี ฐานร่วมกันทุจริตการรับจำนำข้าว ตามนโยบายของรัฐบาล มีการออกใบประทวนปลอม ร่วมกับเกษตรกรบางรายโกงน้ำหนัก ที่สำคัญหลอกลวงเกษตรกรในเรื่องความชื้น ทั้งที่ไม่มีเครื่องตรวจทำให้เกษตรกรถูกกดราคาในการรับจำนำข้าว นับเป็นรายแรกของประเทศไทยตามนโยบายรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
 
พล.ต.ต.พลศักดิ์ กล่าวว่า พฤติการณ์ในการขยายผลจับกุม เนื่องจากการที่สำนักงานได้รับการร้องเรียนจากโรงสีล้อมรักธัญญา ที่เป็นผู้ดำเนินการเปิดจุดรับจำนำข้าว นาปรัง ตังแต่วันที่ 25 พ.ค.ที่องค์การบริหารส่วนตำบลช้างมิ่ง อ.พรรณานิคมว่า เอกสารในการดำเนินการออกใบประทวนมีพิรุธ และเอกสารบางอย่างเจ้าหน้าที่ อคส.ไม่ยอมให้ตรวจสอบ ทำให้โรงสีไม่มั่นใจว่าจะได้ข้าวเต็มจำนวนเต็ม และพบว่า มีเกษตรกร 1 ราย คือ นายประภาส ไม่มีใบชั่งข้าว จึงได้สอบถามเจ้าหน้าที่ องค์การคลังสินค้า(อคส.) คือ นาย วันชัย  นายวีระศักดิ์รับสารภาพว่านำเอกสารดังกล่าวไปออกใบประทวนโดยมี นางรุ่งทิวา หอมแพน และนายวีนัส ตงบุญชัย เป็นผู้ประสานงาน
 
“จากการนำสืบทราบว่า นายประภาส นำข้าวมาจำนำที่จุดรับจำนำ  และได้ว่าจ้างนายวีนัส ตงบุญชัย เป็นคนขับรถบรรทุกข้าวให้   แต่ข้าวที่นำมาจำนำไม่เป็นไปตามเกณฑ์  ทำให้นายประภาส เตียงชัย นำข้าวไปจำหน่ายที่โรงสีโพธิ์ชัย เขตอำเภออากาศอำนวย  โดย นายวีนัส ตงบุญชัย เป็นคนขับรถไปส่ง โดยจากการที่นายประภาส เตียงชัย ไม่ได้ใช้ใบประทวน และใบประทวนติดอยู่ที่รถของนายวีนัส ตงบุญชัย นางรุ่งทิว่า หอมแพน ได้นำใบประทวนจากนายวีนัส ตงบุญชัย ไปให้นายวันชัย และนายวีระศักดิ์ เพื่อดำเนินการออกใบประทวน   หลังจากนั้นได้แจ้งให้นายประภาส เตียงชัย ไปเบิกเงินดังกล่าวจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โดยนายประภาส เตียงชัย ได้ไปเบิกเงินเป็นจำนวน 80,000 บาท ยังมีเงินคงเหลือธนาคารการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน 60,000 บาท” พล.ต.ต.พลศักดิ์  กล่าวว่า
 
จากนั้น จึงได้นำเงินเหล่านั้นมาจ่ายให้กับคนในขบวนการทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย นายวันชัย และ นายวีระศักดิ์  นายวีนัส และนางรุ่งทิวา หอมแพน ซึ่งนายวันชัย  และนายวีระศักดิ์  รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นอกจากนี้จาการตรวจสอบเอกสารร่วมกับ อคส. และโรงสีแล้วทราบว่า การกระทำผิดในลักษณะเดียวกันโดยไม่มีใบชั่งมีรวมทั้งหมด 3 ราย  นายวิวัฒน์ อัตสาร นายประภาส เตียงชัย นายเลียง ศรีประทุม และมีการออกใบประทวนที่มีลักษณะเอกสารไม่ตรงกับข้อเท็จจริงคือ ลดความชื้น และสิ่งเจือปน เพื่อทำให้ปริมาณข้าวมากขึ้นโดยมีการกระทำดังกล่าว 149 ราย โดยมีน้ำหนัก 106,588 ตัน คิดเป็นจำนวนเงิน 1,598,833 บาท  โดยได้ประสานให้หน่วยงานที่ได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก อคส. โรงสีและ ธ.ก.ส. ดำเนินการ  แจ้งความเพื่อเอาผิดกับผู้กระทำความผิด และชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวที่เกิดขึ้น
 
นอกจากนี้ยังได้ประสานแจ้ง พ.ต.ท.สนั่น  คำสีเขียว พนักงานสอบสวน สภ.พรรณนานิคม ดำเนินการฟ้องบุคคลดังกล่าวที่เข้าข่ายการกระทำความผิด อันประกอบด้วย นายวันชัย พวงใบดี นายวีระศักดิ์ โคตรผาย น่ายวีนัส ตงบุญชัย นายประภาส เตียงชัย และ นางรุ่งทิวา หอมแพน เกษตรกรที่เข้าข่ายกระทำความผิดโดยเป็นความผิดเนื่องจากการสวมสิทธิ์เกษตรกร ซึ่งปรากฏว่าปริมาณข้าวเปลือกที่ปรากฏในใบประทวนสินค้าสูงกว่าที่เกษตรกรจำนำจึง ซึ่งเกษตรกรที่เกี่ยวข้อง จำนวนทั้งหมด 149 ราย แยกเป็น ไม่มีใบชั่งข้าว 3 ราย จัดทำเอกสารที่มีการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักและความชื้นจำนวน 146 ราย
 
ด้านนายวีรศักดิ์   ให้การรับสารภาพว่า  การดำเนินการออกใบประทวนสินค้าและใบรับฝากสินค้า  ซึ่งมีปัญหาไม่ตรงตามใบชั่งของโรงสีนั้น   มีการดำเนินการเป็นเครือข่าย แบ่งหน้าที่กันทำงานตามขั้นตอนชัดเจน โดยเป็นผู้ดูแลและดำเนินการเรื่อง การจัดการด้านเอกสารเกี่ยวกับการจำนำข้าวให้แก่โรงสี การประสานงานเอกสารระหว่างเกษตรกร และหน่วยงานภาครัฐ เนื่องจากเป็นลูกจ้างของกระทรวงพาณิชย์  เรื่องนี้ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือผู้บงการ พวกเขาทำเพียงลำพังไม่มีผู้ใดเกี่ยวข้อง  อย่างไรก็ตาม  ทางพนักงานสอบสวน ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้กระทำผิดทั้งหมด  ต้องรอให้ผู้เสียหาย คือองค์การคลังสินค้า  มอบหมายให้นิติกรเข้าแจ้งความก่อน  ส่วนเกษตรกรที่คิดว่าจะตกเป็นเหยื่อขบวนการทุจริตจำนำข้าว  สามารถเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.พรรณรานิคม  ได้ทุกวัน สำหรับผู้กระทำผิดทั้งหมด ขณะนี้ยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหา เนื่องจากยังไม่มีเจ้าทุกข์  พนักสอบสวนฯ จึงให้ปล่อยตัวชั่วคราว