รวบแหล่งผลิตยาบ้ารายใหญ่กลางกรุงฯ
บช.น. แถลงทลายแหล่งผลิตยาบ้า รายใหญ่ ย่านพุทธมณฑลสาย 3 ยึดแท่นปั๊มยา-อุปกรณ์ส่วนผสมจำนวนมาก
บช.น. แถลงทลายแหล่งผลิตยาบ้า รายใหญ่ ย่านพุทธมณฑลสาย 3 ยึดแท่นปั๊มยา-อุปกรณ์ส่วนผสมจำนวนมาก
เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น .พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.บางซื่อ และชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติดกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 แถลงข่าวทลายแหล่งผลิตยาบ้ารายใหญ่พร้อมแท่นปั๊มยาและอุปกรณ์ส่วนผสมในการผลิตจำนวนมาก ได้ผุ้ต้องหา 3 คน คือ น.ส.เยาวเรศ หรือหวาน ยะนิล อายุ 25 ปีนายทิวา หรือบอล พลับวงกร่ำ อายุ 21 ปีทั้งสองคนภูมิลำเนา อ.ลอง จ.แพร่ และนายศิหนนท์ หรือไนท์ คะเลรัมย์ อายุ 18 ปีชาว จ.บุรีรัมย์ จับกุมวานนี้ (5 ส.ค.) เวลา 17.00 น.ที่บ้านเช่าเลขที่ 70/140 หมู่ 12 หมู่บ้านกฤษดานคร ถนนพุทธมณฑลสาย 3 ซอย 19 เขตทวีวัฒนา กทม.
มีของกลางประกอบด้วย เครื่องปั๊มยาบ้า1เครื่อง หัวปั๊มโลหะที่มีสัญลักษณ์ wy จำนวน24หัว ยาบ้าเม็ดสีเขียวและฟ้าอ่อน 729 เม็ดยาไอซ์ 30 กรัม ผงยาบ้าสีส้ม 1 กิโลกรัมโทรศัพท์มือถือ 3เครื่อง ครกและสาก(ใช้ตำและบดยาก่อนปั๊มเป็นเม็ด)ถังพลาสติกผสมสี พร้อมด้วยสารเคมีต่างๆที่ใช้เป็นส่วนผสมอาทิ น้ำยาฆ่าหญ้า ยาฉีดกันยุงไบกอนชนิดน้ำ(เพื่อให้เกิดความมึนเมา) ผงปูนยาแนว(ใช้สำหรับเพิ่มความเหนียว)สีผสมอาหาร หัวน้ำเชื้อแต่งกลิ่นจำนวนมาก
โดยพล.ต.ต.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงจากผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำ จ.ฉะเชิงเทรา ลักลอบผลิตมานาน มีการโยกย้ายแหล่งผลิตไปหลายที่ไม่เป็นหลักแหล่ง โดยอาศัยการเช่าบ้านเป็นที่ผลิตยา และเป็นที่พักยาซึ่งสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งขยายผลถึงต้นตอใหญ่และผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมดขณะเดียวกันอยากฝากไปถึงบรรดาเจ้าของบ้านเช่าเจ้าของกิจการอพาร์ทเม้นห้องเช่าต่างๆ ให้ช่วยกันสอดส่องดูแลในส่วนนี้ด้วยหากพบเบาะแสขบวนการค้ายาบ้าหรือความไม่ชอบมาพากลของผู้ที่มาเช่าพักอาศัยให้รีบแจ้งตำรวจในพื้นที่ทันที
ด้านพ.ต.อ.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบก.น.2 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการสืบสวนขยายผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดจากเรือนจำโดยชุดสืบสวนจู่โจมปราบปรามยาเสพติด สน.บางซื่อ ออกสืบสวนหาข่าวจนทราบแน่ชัดว่า แท่นปั๊มในเครือข่ายผู้ต้องขังที่ติดคุกในเรือนจำ จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ในเขต สน.ธรรมศาลา จึงขอหมายค้นเข้าจับกุมในที่สุด ซึ่งความจริงแล้วของกลางที่ตรวจยึดได้ในบ้านที่เกิดเหตุมีจำนวนมากกว่าที่นำมาแถลงข่าวเท่าที่เห็นนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นโดยขณะเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาได้3คนซึ่งจะต้องสืบสวนขยายผลต่อไปยังเครือข่ายทั้งนอกและในเรือนจำต่อไป
"ผู้ต้องหาทั้ง3คนโดยเฉพาะ น.ส.เยาวเรศ นั้นเคยอยู่ในขบวนการค้ายาเสพติดที่เคยถูกจับกุมก่อนหน้านี้มีความชำนาญในการผสมยาบ้าซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากลูกพี่ว่าต้องผสมอย่างไรและใส่อะไรลงไปบ้าง ใช้วิธีการแบบลูกทุ่งธรรมดาๆไม่ได้จบด้านเคมีมาแต่อย่างใด ที่เห็นอุปกรณ์มีครกและสากนั้นใช้สำหรับตำส่วนผสมที่เป็นก้อนให้ละเอียดเป็นผงแล้วนำมาอัดเป็นเม็ด " รอง ผบก.น.2 กล่าวและว่า ผู้ต้องหาจะใช้ยาบ้าที่เป็นเม็ดอยู่แล้วมาบดเป็นผงแล้วใช้ส่วนผสมอื่นๆปะปนเข้าไปเพื่อเพิ่มปริมาณให้มากขึ้นมีทั้งยาไอซ์ ฝิ่นดิบ คาเฟอีน ผงแป้ง รวมถึงกรดไฮโดรคลอริค ยากันยุงชนิดน้ำ ย่าฆ่าหญ้าและปูนยาแนวตรายี่ห้อต่างๆใส่ลงไปเพื่อให้เนื้อของส่วนผสมเกาะกันเป็นก้อนนับแล้วใส่ในแท่นปั๊มที่มีความสามารถในการผลิตยาบ้าได้นาทีละ 30 เม็ดโดยผู้ต้องหายอมรับว่าลักลอบทำมานานแล้วมีการย้ายบ้านเช่าไปเรื่อยๆซึ่งบ้านหลังที่เข้าตรวจยึดครั้งนี้เช่าเป็นแหล่งผลิตยาบ้ามาแล้ว 3 เดือนและวันที่เข้าตรวจจับนั้นเป็นวันสุดท้ายที่จะหมดสัญญาเช่าพอดีเจ้าหน้าที่จึงเร่งขอหมายค้นและจับกุมในที่สุด
รอง ผบก.น. 2 กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาทั้ง3คนจะแบ่งหน้าที่กันทำโดยมีผู้ต้องหาอีกคนคือนายแบ๊งค์ที่อยู่ระหว่างการสืบสวนจับกุม เป็นคนเช่าบ้านและตระเวนหาบ้านเช่าเพื่อโยกย้ายไปตามที่ต่างๆ ส่วน น.ส.เยาวเรศ จะเป็นคนเฝ้าของและแท่นปั๊มยาและมีหน้าที่ผสมยาบ้า นายทิวามีหน้าที่เฝ้าของกลางและอุปกรณ์ทั้งหมดและคอยดูต้นทางดูเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้านนายไนท์เป็นแฟนของ น.ส.เยาวเรศ ให้การว่า เพิ่งมาอยู่ในบ้านดังกล่าวและปฏิเสธไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดของผู้ต้องหาทั้งสองซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ


