จับแล้วแก๊งเด็กแว้นปล้นนักร้องเคพีเอ็น

นครบาลรวบ 2 คนร้ายปล้นนักร้องค่ายเคพีเอ็น พร้อมล่าอีก 2 คนที่ยังหลบหนี รับสิ้นก่อเหตุมาแล้ว 3-4 ครั้ง นำเงินไปเที่ยวเตร่

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวนจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวนบช.น. กก.สส.บก.น.2 แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาแก๊งเด็กแว๊นซ์ ก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์ชิงทรัพย์พร้อมกับทำร้ายเจ้าทุกข์ ได้ผู้ต้องหา 2 คน คือ นายทวุฒิ ประภัสสร อายุ 18 ปี และนายอนุสรณ์ ยะวงศ์ อายุ 18 ปี พร้อมของกลางเป็นไม้เบสบอล รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ ทะเบียน อฉก-144 กทม. ที่ใช้ก่อเหตุ หลังก่อเหตุทำร้ายและชิงทรัพย์สองหนุ่มนักร้องจากค่ายเคพีเอ็น คือนายธรรมภาคย์ ชี (บี้ เคพีเอ็น) และนายอนุรักษ์ บุญเพิ่มผล (บอม เคพีเอ็น) เมื่อวันที่ 10 ก.ค.เวลา 23.45 น. เหตุเกิดบริเวณซอยรัชดา 32 ท้องที่สน.พหลโยธิน

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนคือนายทวุฒิ และนายอนุสรณ์ ร่วมกับพวกอีก 2 คนที่ยังหลบหนี คือนายโจ้ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล) และนายมอส (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ก่อเหตุในวันที่ 10 ก.ค.ใช้อาวุธเป็นไม้เบสบอลเข้าทำร้ายนักร้องเคพีเอ็นทั้ง 2 คน จนนายธรรมภาคย์ หรือบี้ เคพีเอ็นได้รับาดเจ็บดั้งจมูกหัก ก่อนจะชิงทรัพย์หลบหนีไป ตำรวจชุดสืบสวนได้แกะรอยกระทั่งไปจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้วานนี้ (18 ก.ค.) และสอบสวนกระทั่งรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง แต่ไมได้เข้าทำร้าย โดยคนทำร้ายร่างกายคือนายมอส (นามสมมุติ) ที่ยังหลบหนีอยู่ ส่วนพวกอีกหนึ่งคนคือนายโจ้ ก็หลบหนีไปเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะติดตามคนร้ายอีก 2 คนที่หลบหนีมาดำเนินคดีให้ได้ นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ ยังเคยก่อเหตุปล้นทรัยพ์มาก่อนอีกด้วย และผู้ต้องหาแก๊งนี้ทั้งหมดเป็นกลุ่มเด็กแว๊นซ์ที่ซิ่งรถบนท้องถนน

สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยทำมาแล้วประมาณ 3-4 ครั้ง ก่อเหตุในพื้นที่ย่านลาดพร้าวเป็นหลัก เมื่อได้ทรัพย์สินมาจะนำไปขายต่อให้ร้านรับซื้อของเก่าย่านคลองหลอด และนำเงินไปเที่ยวเตร่

ด้านสองนักร้องหนุ่มค่ายเคพีเอ็น ได้กล่าวขอบคุณตำรวจที่ช่วยตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมกับฝากเตือนประชาชนทั่วไปที่เดินทางในยามกลางคืน ให้ระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะมิจฉาชีพมีอยู่ทุกที่ อย่าเข้าไปในที่มืดหรือซอยเปลี่ยวให้พยายามหลีกเลี่ยงอย่าไปไหนมาไหนในช่วงดึกหากมีความจำเป็นก็ให้จอดรถจักรยายนต์ไว้ที่ทำงานหรือในที่ที่ปลอดภัยแล้วใช้รถยนต์เดินทางไปจะปลอดภัยกว่า