posttoday

โรคประสาท-จิตหลอน ญาติมิตรต้องดูแล

27 มิถุนายน 2555

กลายเป็นข่าวสะเทือนขวัญ เมื่อกมลพัฒน์ ปานรักษา ก่อเหตุฆ่า พรพิมลปานรักษา วัย 75 ปี

โดย...กันติพิชญ์ ใจบุญ

กลายเป็นข่าวสะเทือนขวัญ เมื่อกมลพัฒน์ ปานรักษา ก่อเหตุฆ่า พรพิมล ปานรักษา วัย 75 ปี แม่บังเกิดเกล้าของตัวเองแท้ๆ ตายสยอง โดยใช้มีดฟันเข้าที่ศีรษะและตามร่างกายอีกนับไม่ถ้วน นอนจมกองเลือดอยู่ภายในบ้านการเคหะทุ่งสองห้อง ถนนสรงประภา เขตหลักสี่

ก่อนที่ลูกทรพีจะยืนสั่นหลังก่อเหตุและรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับคำพูดที่ลั่นออกมาหลังเห็นหน้าตำรวจว่า “ผมฆ่าแม่ผมเอง ผมเป็นโรคประสาท จับผมไปที”

หลายต่อหลายครั้งที่คนสติไม่ดี ไม่สมประกอบ ขาดการควบคุมตนเอง บ้าคลั่ง กลายร่างเป็นฆาตรกรที่สุดจะโหดร้าย อย่างรายล่าสุดที่ก่อเหตุ เขามีอาการทางประสาทต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีธัญญานานถึง 15 ปี และต้องกินยาระงับประสาทตลอดเวลา

โรคประสาท-จิตหลอน ญาติมิตรต้องดูแล

แต่ด้วยความที่อาศัยอยู่กับแม่และน้องสาว คืนเกิดเหตุเกิดอาการคลุ้มคลั่ง อีกทั้งไม่หลับไม่นอนมานาน 4 วันเต็ม จึงควบคุมตนเองไม่อยู่ ก่อเหตุฆ่าแม่บังเกิดเกล้า

อีกคดี จ่าง ครุฑหมื่นไวย อายุ 45 ปี ก่อเหตุฆ่า เพ็ง ครุฑหมื่นไวย อายุ 87 ปี พ่อบังเกิดเกล้า ภายในบ้าน ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ขณะนอนป่วยอยู่ในบ้าน โดยใช้ค้อนทุบศีรษะก่อนจะใช้มีดหั่นคอขาดเป็น2 ท่อน แล้วแยกชิ้นส่วนศีรษะ ลำตัว ใส่กระสอบ 2 ใบ เพื่ออำพรางซ่อนเร้นศพ เหตุเกิดในท้องที่ สภ.นางรอง เมื่อตรวจสอบพบว่าป่วยเป็นโรคประสาทเช่นกัน ที่สำคัญคือเขาขาดการกินยามานานจนอาการกำเริบก่อเหตุฆ่าผู้มีพระคุณ

นี่ไม่ใช่คดีแรกที่เกิดขึ้นจากการกระทำของคนที่สติไม่สมประกอบ แต่การอยู่ร่วมกันก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องทำ โดยเฉพาะญาติพี่น้อง ครอบครัว ที่ต้องเรียนรู้จากการอยู่ร่วมกันและดูแลผู้ป่วยทางประสาทให้ได้ และสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน กรณีที่เกิดอาการป่วยทางจิตอย่างรุนแรง ต้องควบคุมให้อยู่

พ.ต.ท.พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือหมอแอร์ แพทย์ทางจิตเวชของโรงพยาบาลตำรวจ มีข้อเสนอแนะว่า ต้องเข้าใจคนที่เป็นโรคประสาทอยู่แล้ว และก่อเหตุรุนแรงหรือก่อเหตุฆาตรกรรม รวมไปถึงทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว หรือบุคลอื่น สาเหตุเกิดจากการควบคุมอารมณ์และสติรวมถึงระบบประสาทของตัวเองไม่ได้

คนที่ก่อเหตุส่วนใหญ่จะมีลักษณะของภาพหลอน เกรงว่าจะมีคนมาทำร้าย คิดมาก ระบบประสาทจัดลำดับความคิดไม่ถูก และที่สำคัญคือ “ลืมกินยา” ตามที่แพทย์สั่งอย่างครบถ้วน ทำให้บางรายถึงกับก่อเหตุที่รุนแรงได้

“ปัจจุบันระบบทางการแพทย์ หรือยารักษาผู้ป่วยทางจิต ที่เรียกว่าจิตเภทนั้น สามารถรักษาให้หายขาดได้ ไม่เหมือนเมื่อก่อนเป็นแล้วจะต้องเป็นไปตลอด เพียงแต่ว่าญาติหรือครอบครัวพามารักษาตามที่แพทย์สั่งหรือไม่ หรือบางคนเห็นว่าผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้นแล้ว ก็ให้หยุดกินยา เรื่องนี้ถือว่าสำคัญ เพราะการหยุดยาจะทำให้อาการกำเริบขึ้นมาอีก

หมอแอร์ บอกว่า การรักษาความรุนแรงของอาการป่วยทางจิตต้องมีความต่อเนื่อง จริงๆ แล้วโรคนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนเข้าใจ อย่างที่บอกไว้การรักษาถือว่าไม่ยาก แต่ต้องกินยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ยาระงับโรคประสาทไว้

นอกจากนั้น ญาติก็เป็นส่วนสำคัญในกรณีต้องดูแลผู้ป่วยอยู่ที่บ้าน ที่ผ่านมาหลายต่อหลายเหตุการณ์ที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้น เพราะขาดการรักษาที่ต่อเนื่อง เมื่อขาดยาอาการก็กำเริบ ทำให้ผู้ป่วยแยกความจริงกับจินตนาการนึกคิดไม่ออก คิดว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริงเสียหมด เกิดความหวาดระแวง กระทั่งก่อเหตุรุนแรงถึงกับฆ่าคนตายในที่สุด

อย่างไรก็ตาม การรักษาที่ดีที่สุดคนในครอบครัวต้องดูแลผู้ป่วยโรคจิตให้ดี ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง อย่าคิดเองว่าหายแล้ว ตราบใดที่หมอกำชับให้ต้องรักษา ก็ต้องปฏิบัติตาม ไม่เช่นนั้นโศกนาฏกรรมอาจจะเกิดขึ้นมา ดังตัวอย่างที่พบเห็นในสังคมก็เป็นได้

 

ข่าวล่าสุด

Yindii เปลี่ยนอาหารขายไม่หมด หมุนรายได้คืนธุรกิจ 78 ล้านบาท