รวบ 3 มือปืนยิงถล่มคาราโอเกะดับ5 ศพ
ตำรวจสระบุรี รวบ 3 คนร้ายยิงถล่มร้านคาราโอเกะในแก่งคอยดับ 5 ศพ สารภาพไม่พอใจร้องเพลงโดนแซว
ตำรวจสระบุรี รวบ 3 คนร้ายยิงถล่มร้านคาราโอเกะในแก่งคอยดับ 5 ศพสารภาพไม่พอใจร้องเพลงโดนแซว
ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 1 และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสระบุรี สามารถจับกุมตัวคนร้าย 3 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธสงครามกระหน่ำยิงเผาขนนักเที่ยววัยรุ่น 5 ศพ ที่ร้าน กินตับคาราโอเกะ ริมถนนแก่งคอย-บ้านนา อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ได้แล้วที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ติดต่อระหว่าง อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี กับ อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมอาวุธปืนอาก้าที่ใช้ก่อเหตุ ขณะนี้ตำรวจได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน อย่างละเอียด คาดว่าจะนำตัวคนร้ายมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชนในช่วงบ่ายวันนี้
จากนั้น เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รอง ผบช.ภ1 รรท.ผบช.ภ.1 แถลงผลการจับกุม นายวสันต์ หรือ สันต์ พรหมศิริ อายุ 41 ปี,นายวสันต์ หรือปุ้ม จันตรี อายุ 25 ปีและนาย อโศก หรือสุ ศรีสิงห์ อายุ 31 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนเล็กยาว AK-47 (อาก้าแบบพับฐาน) จำนวน1 กระบอก แมกกาซีน AK-47 จำนวน 2 อัน เครื่องกระสุน ขนาด 7.62 มม. จำนวน 47 นัด รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟสีเขียว ทะเบียน กฉฉ 898 ปทุมธานี 1 คัน รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ-เหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน
โดยเมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 19 มิย.ที่ผ่านมาผู้ต้องหา ได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิง นายยุทธการ ณ อุบล อายุ 20 ปี นายสามารถ ดีสัมพันธ์ อายุ 19 ปี นายพรรณการณ์ ถาวร อายุ 18 ปี นายจักรกฤษณ์ จันงา อายุ 16 ปี และนายเกียรติศักดิ์ รุ่งเรือง อายุ 37 ปี จำนวน 5 คน จนถึงแก่ความตาย ที่ร้านกินตับคาราโอเกะ ริมถนนแก่งคอย - บ้านนา ต.ห้วยแห้ง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพคนร้ายที่ได้จากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียง ออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ จนมีพลเมืองดีแจ้งว่ามีบุคคลลักษณะคล้ายในภาพจากกล้องวงจรปิด มาพักอยู่ในรีสอร์ท ที่ ต.หินกอง อ.หนองแค จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจค้นและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ดังกล่าว
ทั้งนี้นายวสันติ์ จันตรี ผู้ต้องหามือยิงให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ได้เดินทางมาจาก อ.บ่อวิน จ.ชลบุรี จะไปเที่ยวที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ระหว่างทางได้แวะร้านอาหารดังกล่าว และได้ปากเสียงกับกลุ่มลูกค้าที่อยู่ภายในร้าน เนื่องจากตนร้องเพลงแล้วโดนโห่ จึงไม่พอใจเลยมีปากเสียงดังกล่าว จากนั้นเห็นอีกฝ่ายหนึ่งโทรศัพท์เรียกพวกมาประมาน 10 คน ทำท่าทางเหมือนมีอาวุธปืน จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนอาก้าที่นำมาจากบ้าน กราดยิงใส่กลุ่มผู้ตาย แล้วจึงหลบหนีไปเปิดห้องพักภายในรีสอร์ท ดังกล่าว ทั้งนี้ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ทั้งหมดและยอมรับผิดรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งของกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถอนุญาตไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต


