ผบช.ตร.ภ.3เชื่อโกงสอบตร.มีจนท.เอี่ยว

ผบช.ตร.ภ.3 เชื่อข้อสอบตำรวจรั่ว คาดมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง  เผยขบวนการโกงข้อสอบมีการทำงานอย่างมืออาชีพ ประเมินทำมาแล้วหลายครั้ง

พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการโกงข้อสอบตำรวจได้เพิ่มอีก 1 ราย คือนายดาชัย อุชุโกศลการ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง และ ประธานสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย ซึ่งเดิมทีเคยเปิดสถาบันกวดวิชาอยู่ภายในตัวเมืองจังหวัดลำปาง หลังมีการซัดทอดจากผู้ต้องหาที่จับได้ก่อนหน้านี้

ส่วนอีก 1 รายยังอยู่ในระหว่างหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ โดยในเบื้องต้นคาดว่าขบวนการนี้จะยังคงมีเครือข่ายหลงเหลืออยู่อีกส่วนหนึ่ง เนื่องจากจะต้องมีผู้ที่ทำหน้าที่กระจายสัญญาณรหัสการบอกข้อสอบไปยังผู้สมัครสอบ เพราะการส่งสัญญาณจะต้องมีตัวกระจายสัญญาณอยู่ในรัศมี 300 เมตรของสนามสอบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งทำการสืบสวนขยายผลติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการเหล่านี้ต่อไป

พล.ต.ท.ภาณุฯ กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าข้อสอบในการสอบครั้งนี้อาจจะมีการรั่วไหลออกมาจริง แล้วกลุ่มทุจริตข้อสอบจะเป็นผู้ทำข้อสอบแล้วส่งสัญญาณไปยังผู้สมัครสอบ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้จริงจะต้องมีคนภายในเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน เพราะการนำข้อสอบออกมาภายนอกนั้นมีมาตรการที่เข้มงวดอย่างมาก โดยความเป็นไปได้ในการที่ข้อสอบครั้งนี้จะรั่วไหลนั้นมีสูงมาก เพราะการกระทำและวิธีการของขบวนการนี้มีการทำงานในลักษณะของมืออาชีพมีการประสานงาน ทำเป็นเครือข่าย แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการรวมตัวกันทำการทุจริตสอบมาแล้วหลายครั้งในการสอบคัดเลือกบรรจุเข้าไปราชการหน่วยงานต่างๆ แต่ทั้งนี้รายละเอียดจะเป็นอย่างไรยังคงต้องอผลการสอบสวนที่ชัดเจนอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีการโกงสอบเข้ารับราชการตำรวจที่ถูกจับกุมได้นั้น นายตำรวจ 1 ในเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนายหนึ่งให้ข้อมูลว่า ขบวนการโกงข้อสอบแก็งนี้ เป็นขบวนการโกงข้อสอบที่ใหญ่ระดับประเทศ และน่าจะเป็นเครือข่ายเดียวกันกับขบวนการโกงสอบที่ถูกจับได้พร้อมกันอีกหลายจังหวัด เนื่องจากข้อมูลที่ได้จากผู้ต้องหา 5 คนที่ถูกจับกุมได้ทราบว่า ขบวนการโกงข้อสอบนี้มีมานานแล้ว และทำเป็นขบวนการใหญ่ โกงการสอบมาแล้วหลายหน่วยงานราชการทั้ง อบต. เทศบาล อบจ. และหน่วยงานราชการหลายแห่ง

โดยนางเตือนใจ พงษ์พันธ์ อายุ 45 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมชุดแรก เปิดเผยให้ชุดสืบสวนฟังว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการโกงข้อสอบนี้สามารถซื้อข้อสอบตัวจริงออกมาได้ในราคาชุดละ 3 ล้านบาท โดยจะได้ข้อสอบมาก่อนที่จะสอบจริงเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เนื่องจากข้อสอบตัวจริงจะพิมพ์เสร็จตอนเช้ามืดของวันที่สอบจริง

ส่วนวิธีการโกงข้อสอบนั้นจะใช้รหัสการสั่นของตัวเครื่องรับสัญญาณในการบอกคำตอบให้กับผู้ที่เข้าสอบ โดยผู้ที่ได้ข้อสอบตัวจริงมาจะเป็นผู้ทำข้อสอบด้วยวิธีการนับสระและวรรณยุกต์ของคำถามข้อแรกในแต่ละชุดเพื่อนำมาเป็นรหัสบอกให้กับผู้ที่เข้าสอบว่า คำตอบที่กำลังจะบอกเป็นคำตอบของข้อสอบชุดไหน เพราะถึงแม้ข้อสอบทั้งหมดจะมีมากถึง 8 ชุด แต่ทั้ง 8 ชุดก็เป็นข้อสอบเดียวกัน เพียงแต่สลับข้อกันเท่านั้น วิธีการนับสระและวรรณยุกต์ของคำถามจึงเป็นสิ่งที่สามารถบอกว่าคำตอบที่ถูกส่งไปให้ผู้เข้าสอบเป็นคำตอบของชุดไหน

ทั้งนี้ชุดสืบสวนเชื่อว่าข้อมูลเรื่องนี้น่าจะมีมูลความจริง เพราะหากขบวนการดังกล่าวจ้างคนเข้าไปทำข้อสอบในสนามสอบจริง และส่งสัญญาณคำตอบออกมาให้ผู้ร่วมขบวนการที่อยู่ข้างนอกคงทำได้ยาก อีกทั้งจากข้อมูลหลักฐานที่ได้จากกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมยังพบบัญชีรายชื่อผู้สมัครสอบเข้ารับราชการอีกหลายหน่วยงานทั้ง

อบต. เทศบาล อบจ. และหน่วยงานราชการหลายแห่ง และจากการสืบหาข้อมูลพบว่า ผู้ที่โกงสอบ และเสียค่าใช้จ่ายให้กับขบวนนี้ส่วนใหญ่สามารถสอบผ่านและเข้าทำงานได้จริง