ชาวอรัญญิกเร่งตีมีด-เคียวถวายในหลวง
ช่างตีมีดชุมชนอรัญญิกเมืองกรุงเก่าปิติในหลวง-ราชินีเสด็จฯเสด็จทุ่งมะขามหย่อง เร่งตีมีด-เคียวถวาย
ช่างตีมีดชุมชนอรัญญิกเมืองกรุงเก่าปิติในหลวง-ราชินีเสด็จฯเสด็จทุ่งมะขามหย่อง เร่งตีมีด-เคียวถวาย
ย้อนอดีตเมื่อ 16 ปีที่แล้วชาวชุมชนตีมีดอรัญญิก ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง ต่างปราบปลื้มปิติที่ได้มีโอกาสเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมกับถวายเคียวเกี่ยวข้าวพระองค์ท่านเมื่อครั้งเสด็จมาเกี่ยวข้าวที่ทุ่งมะขามหย่อง ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2539
ปี 2555 พสกสิกรชาวชุมชนตีมีดอรัญญิกต่างปราบปลิ้มปิติไม่แพ้เมื่อ 16 ปีที่ผ่านมาหลังทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯสยามบรมราชกุมารี จะทรงเสด็จพระราชดำเนินมาที่ทุ่งมะขามหย่องอีกครั้ง ต่างก็ร่วมแรงร่วมใจเร่งตีมีดและเคียวเพื่อนำไปแสดงและถวายทั้ง 3 พระองค์ท่าน ดังเช่นที่เคยทำถวายครั้งที่ทรงเสด็จมาเกี่ยวข้าวที่ทุ่งมะขามหย่องเมื่อปี 2539 กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่พระองค์ทรงใช้เคียวของชุมชนตีมีดอรัญญิกเกี่ยวข้าว
ทั้งนี้เช่นเดียวกับ พยงค์ ทรัพย์มีชัย อายุ 59 ปีอยู่บ้านเลขที่ 170/3 หมู่ 6 ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนคศรีอยุธยา เล่าว่า ครอบครัวยึดอาชีพตีมีดมากว่า 40 ปี ซึ่งได้วิชาตกทอดมาจากพ่อแม่และบรรพบุรุษแต่โบราณที่ยึดอาชีพตีมีดมากว่า 250 ปี หรือตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ที่เริ่มตั้งชุมชนแห่งนี้ ครอบครัวต่างปลื้มปิติที่ได้เคยทำเคียวเกี่ยวข้าวถวายในหลวงเมื่อครั้งพระองค์เสด็จมาเกี่ยวข้าวที่ทุ่งมะขามหย่อง เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2539 พยงค์ได้ทำเคียวเกี่ยวข้าว เรียกว่า ‘เคียวนกกระสา’ ซึ่งทำขึ้นเป็นพิเศษด้ามเคียวทำด้วยมุ ส่วนตัวเคียวเกี่ยวข้าวที่มีสันโค้งของเคียวสวยงามย่างปราณีต
พยงค์ เล่าต่อว่า เคียวที่เคยนำถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เป็นเคียวที่พิเศษสุดไม่มีที่ไหนในโลกนี้คือจะแกะสลักเป็นลายไทยในเนื้อเคียว โดยในช่วงนั้นใช้เวลาทำประมาณ 2 อาทิตย์ก็แล้วเสร็จ หลังจากนั้นได้นำถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กลายเป็นเคียวเกี่ยวข้าวประวัติศาสตร์ที่สร้างความปลาบปลื้มให้แก่วงศ์ตระกูล และชาวชุมชนตีมีดอรัญญิก จวบจนทุกวันนี้ เพราะครั้งหนึ่งในชีวิตได้ทำเคียวเกี่ยวข้าวถวายพระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ได้เก็บภาพถ่ายที่ในหลวงและพระราชินีทรงถือเคียวที่ทำด้วยฝีมือตัวเองตอนเสด็จเกี่ยวข้าวที่ทุ่งมะขามหย่อง โดยภาพทุกภาพได้ติดไว้ที่บ้านเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัว
‘ปัจจุบันครอบครัวตีมีดได้วันละ 30 เล่ม โดยนำไปฝากขายตามร้านต่างๆในราคาคาเล่มละ 50 บาท ซึ่งทางร้านก็จะนำไปขายต่อในราคาเล่มละ 150 บาท ผมมีลูก 4 คน แต่เป็นที่น่าเสียดายและเสียใจเพราะลูกหลานแต่ละคนปัจจุบันไม่มีใครสนใจสืบทอด วิชาการตีมีดเพราะเห็นว่าเป็นงานที่หนัก ร้อนทำงานหน้าเตา อันตรายจากการตีมีดและรายได้ไม่ดี โดยลูกหลานเมื่อเรียนจบออกมาก็ไปทำงานโรงงานและขายของกันหมดจึงไม่มีคนมาทำแทน’พยงค์ เล่าถึงอาชีพตีมีดที่นับวันสูญหายจากประเทศไทย
อย่างไรก็ตามถ้าหากใครสนใจที่จะเรียนรู้การทำมีดพยงค์บอกว่ายินดีสอนให้โดยไม่คิดเงินค่าสอนแม้แต่บาทเดียวเพื่อจะได้มีคนสืบทอดความรู้ความสามารถในการตีมีดทำเคียวกลัววิชาจะสูญหายไป ซึ่งจุดเด่นของช่างตีมีดแต่ละคนจะไม่เหมือนกันมีเคล็ดลับของแต่ละบ้านแต่ละครูต่างคนต่างมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองแตกต่างกันออกไปสำหรับช่วงนี้ตนได้ผลิตเองและนำไปขายเองที่ร้านค้าที่แยกวรเชษฐ์ที่ทางพัฒนาชุมชนจังหวัดได้จัดสถานที่ไว้ให้ชาวบ้านที่มีสินค้าโอทอปนำไปขาย


