ลูกสาววันดี ศรีตรังร้องดีเอสไอถูกข่มขู่
“ลูกสาว”วันดี ศรีตรังอดีตดาราร้องดีเอสไอไอช่วยถูกเครือญาติตระกูลแขกปาทานอ้างเป็นผู้จัดการมรดกข่มขู่
“ลูกสาว”วันดี ศรีตรังอดีตดาราร้องดีเอสไอไอช่วยถูกเครือญาติตระกูลแขกปาทานอ้างเป็นผู้จัดการมรดกข่มขู่
วานนี้ (14 พ.ค.) น.ส.โซเบดา พงษ์สว่าง ลูกสาว นายสมชาย พงษ์สว่าง หรือหยอง และนางสาธนา พงษ์สว่าง หรือวันดี ศรีตรัง อดีตดาราดังผู้ล่วงลับ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)
น.ส.โซเบดา กล่าวว่า ตนถูกนางรัศมี คาน พี่สาวนายพงษ์สว่าง ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้า ทำเอกสารเท็จเบิกความต่อศาลเพื่อขอเป็นผู้จัดการมรดก ของบิดา ซึ่งมีจำนวนมากทั้งที่ดินและธุรกิจขนส่งที่จ.นครราชสีมา และที่ดิน ในจ.สระบุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา และในพื้นที่อื่นอีกจำนวนมาก มูลค่ากว่าพันล้านบาท พร้อมทั้งข่มขู่ให้โอนโฉนดที่ดินที่เป็นบ้านพักของตนให้กับนางรัศมีในฐานะที่เป็นผู้จัดการมรดก ทั้งๆที่ที่ดินดังกล่าวตนได้โอนมาเป็นชื่อตัวเองแล้ว
นอกจากนี้ยังมีความพยายามจากกลุ่มคนร้ายซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใครไปตามจับตัวบุตรสาวของตนที่โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์จ. เชียงใหม่ ทำให้ต้องอพยพครอบครัวหลบหนีไปอยู่ที่อื่นนานกว่า 6 เดือน
“แม่เสียชีวิตตั้งแต่ฉันมีอายุได้ 5 เดือน ต่อมาพ่อได้ส่งไปเรียนหนังสืออยู่ประเทศปากีสถาน แล้วจึงกลับมาอยู่ที่ จ.เชียงใหม่เพราะพ่อบอกว่ามีความปลอดภัยมากกว่า จึงอยู่แบบไม่เปิดเผยตัว ต่อมาพ่อถูกยิงเสียชีวิต และมาทราบอีกครั้งว่าป้าได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกของพ่อ โดยทราบอีกครั้งหลังจากพ่อเสียชีวิตแล้ว พ่อมีพี่น้องทั้งหมด 9 คน หลังพ่อเสียชีวิตไม่ได้ติดต่อกับญาติทางพ่อ ส่วนนางรัศมีทราบว่ายังอาศัยอยู่ที่ จ.สระบุรี หลังถูกข่มขู่เคยขอความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม ซึ่งจัดเจ้าหน้าที่เข้าให้ความคุ้มครอง แต่ครอบครัวยังรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงขอให้ดีเอสไอเข้าให้ความช่วยเหลือ”น.ส.โซเบดา
น.ส.โซเบดา กล่าวอีกว่า ตนเป็นลูกคนเดียวที่พ่อได้จดทะเบียนรับรอง ส่วนลูกและเมียคนอื่นๆตนไม่ทราบว่ามีหรือไม่เพราะพ่อไม่เคยเล่าให้ฟัง แต่นางรัศมีอ้างว่าพ่อมีภรรยาอีกคนคือนางวัชรี จันเทิดไท และมีลูกสาวด้วยกันคนหนึ่งคือด.ญ.วัชชาหรือชญานิศ ซึ่งนางวัชรี ได้ขอให้นางรัศมีเป็นผู้จัดการมรดกของบิดา
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ศาลเคยมีคำสั่งให้นางวัชรี ด.ญ.ชญานิศ เข้ารับการตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางสายเลือด ตาบุคคลทั้งสอง ไม่ยอมเข้ารับการตรวจ จึงทำให้เห็นว่านางวัชรีน่าจะมีการทำเอกสารสูติบัตรเท็จเพื่อเบิกความต่อศาล