posttoday

ดีดบ้านคืออะไรทำได้จริงหรือ

25 มีนาคม 2555

ธุรกิจฮอตฮิตที่มีการพูดถึงกันมากในเวลานี้ คงหนีไม่พ้นการดีดบ้านหรือยกบ้าน

โดย...วราพงษ์ ป่านแก้ว/สุกัญญา สินถิรศักดิ์

ธุรกิจฮอตฮิตที่มีการพูดถึงกันมากในเวลานี้ คงหนีไม่พ้นการดีดบ้านหรือยกบ้าน เพราะหลายคนที่บ้านถูกน้ำท่วมพยายามแก้ปัญหาด้วยการยกบ้านหนีน้ำ

บางคนอาจจะไม่เคยรู้ และเกิดคำถามตามมาว่า บ้านใหญ่ๆ ทั้งหลังยกหนีน้ำกันได้จริงๆ หรือ คำตอบก็คือ ทำได้จริง แต่ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็ทำได้ เพราะแม้แต่ช่างผู้ชำนาญเองก็เคยผิดพลาดถึงขนาดบ้านทับตายกันมาแล้วก็มี

ธเนศ วีระศิริ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชู ปถัมภ์ อธิบายว่า การดีดบ้านกับการยกบ้านดูเผินๆ เหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วต่างกัน

การดีดบ้านเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน คือ ดีดบ้านให้สูงขึ้น หรือเคลื่อนย้ายบ้านไปอยู่ที่สูงกว่า ใช้กับบ้านไม้

ในส่วนของการยกบ้านจะเจาะจงไปที่เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ต้องอาศัยเครื่องไม้เครื่องมือ และที่สำคัญต้องมีวิศวกรคอยดูแล แตกต่างจากการดีดบ้านที่อาศัยแค่ช่างที่มีความชำนาญก็พอ

การดีดบ้านไม้จะมีวิธีการที่ไม่สลับซับซ้อนนัก โดยช่างจะตัดเสาไม้ด้านล่างแล้วยกให้สูงขึ้นโดยใช้ “รอกโซ่” ยกขึ้นตามความสูงที่ต้องการ ส่วนการยกบ้านคอนกรีตจะต้องตัดเสาในส่วนตอม่อใต้ดินขึ้นมาทั้งหมด โดยใช้แม่แรงไฮดรอลิก ซึ่งต้องระวังในเรื่องของการแตกร้าวของอาคาร อาจจะสร้างความเสียหายให้กับบ้าน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการดีดหรือการยก ช่างหรือวิศวกรที่จะมาทำงานพวกนี้ต้องชำนาญในเรื่องของการถ่ายแรง และการต่อเสาจะต้องทำอย่างชำนาญ โดยควรที่จะใช้เสาที่มีขนาดใหญ่กว่าเสาเดิม

การดีดบ้านหรือยกบ้านนั้น ช่วงที่สำคัญที่สุด คือ ในช่วงของการยกบ้านและต่อเสา ในขั้นตอนนี้หากช่างไม่มีประสบการณ์หรือมือไม่ถึง บ้านก็อาจจะได้รับความเสียหายหรือพังลงมาได้ แต่เมื่อยกหรือดีดบ้านขึ้นมาเสร็จต่อเสาเรียบร้อยตามหลักการที่ถูกต้องแล้วก็สามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัย โดยในระหว่างการยกหรือดีดบ้าน เจ้าของไม่จำเป็นต้องขนย้ายของในบ้านออกมาเลย แต่ถ้าไม่มั่นใจหรือเพื่อความสบายใจอยากจะขนของสำคัญเพื่อความปลอดภัยก็ไม่มีข้อห้าม

ดีดบ้านคืออะไรทำได้จริงหรือ

 

สนนราคาที่ว่ากันในท้องตลาดการดีดบ้านไม้ราคาไม่แพงนัก โดยคิดค่าจ้างเป็นเสาต้นละประมาณ 5,000-1 หมื่นบาท ถ้าบ้านไม้หลังขนาดเสา 45 ต้น ราคาดีดบ้านจะตกอยู่ที่ 3 แสนบาท แต่สำหรับการยกบ้านที่เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กราคาจะต่างกันอย่างชัดเจน เพราะบ้านหลังขนาดเล็กตกหลังละ 1.2-1.3 ล้านบาท ซึ่งการจะหาช่างมาดีดบ้านหรือยกบ้านนั้นต้องดูที่ผลงานที่ผ่านมาเป็นหลัก

จากการสำรวจธุรกิจดีดบ้านหลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ ต้องเรียกว่าคึกคักมาก ทำให้บางบริษัทงดรับงานแล้ว เพราะคิวยาวถึงเดือน พ.ค. โดยค่าใช้จ่ายในการดีดบ้าน ส่วนใหญ่จะไม่มีการระบุเป็นราคาตายตัว ต้องอาศัยการประเมินกันที่หน้างาน เพราะขึ้นอยู่กับความยากง่ายของงาน ตัวบ้าน ขนาดบ้าน และปริมาณเสาที่ต้องใช้ จำนวนเสายิ่งมากราคายิ่งสูง

นอกจากนี้ ผู้สนใจส่วนใหญ่อาจไม่เคยรู้เลยว่าจริงๆ แล้วการดีดบ้านมีราคาสูงกว่าที่คิด แต่ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการดีดบ้าน หากเป็นเหตุผลหลักในอดีตของคนที่ต้องการดีดบ้าน คือ การแก้ปัญหาบ้านทรุด สนนราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสน และบางกรณีอาจได้เห็นตัวเลขค่าใช้จ่ายแพงถึงหลักล้าน

ธชา ขำสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โฮม บอกว่า เวลานี้ความต้องการดีดบ้านเพิ่มขึ้น 100% โดยเฉพาะบ้านในกรุงเทพฯ และนนทบุรี แต่เกือบ 50% ที่ฟังราคาแล้วก็ยังไม่ตัดสินใจทำ

อัตราค่าบริการของบริษัท ถ้าเป็นแบบบ้านมาตรฐาน 2 ชั้น เสา 40 ต้น ราคาเริ่มต้น 4 แสนบาทขึ้นไป ซึ่งต้องวิเคราะห์หน้างานอีกครั้งว่ามีรายละเอียดเป็นอย่างไร ใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือน โดยระยะหลังมีความต้องการดีดบ้านให้สูงกว่าเดิม 1.52 เมตร

“จริงๆ ธุรกิจนี้มีมานานแล้ว แต่คนอาจจะไม่ค่อยสนใจ จนเมื่อมีปัญหา เช่น บ้านทรุด บ้านต่ำกว่าถนน จึงจะเริ่มหาข้อมูล แต่พอมีภาวะน้ำท่วมคนจึงเริ่มมาสนใจมากขึ้น ความต้องการจากตลาดเป็นผลให้มีบริษัทรายใหม่เกิดขึ้นเพื่อรับงานดีดบ้าน” ทั้งนี้ ขอเตือนผู้บริโภคให้ระมัดระวังในการเลือกผู้ที่จะมาดีดบ้าน เพราะมีความเสี่ยง 2 ประการ กรณีแรก รับเงินแล้วทิ้งงาน เพราะรับมาเยอะเกินไป ทำไม่ทัน อีกกรณีหนึ่ง คือ ไม่มีความเชี่ยวชาญ ประเด็นนี้มีความเสี่ยงต่อโครงสร้างบ้าน

ความคิดเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับเจ้าหน้าที่จากบริษัท ดีฟายน์ คอนซัลแตนท์ หนึ่งในบริษัทรับดีดบ้าน แนะนำว่าผู้สนใจควรเลือกบริษัทที่มีตัวตนจริง มีเบอร์ 02 ไม่ใช่มีแค่เบอร์มือถือ และต้องมีวิศวกรที่มีรายชื่ออยู่ในสภาวิศวกร เพราะตั้งแต่เกิดน้ำท่วม กลุ่มผู้รับเหมาทั่วไปเริ่มหันไปรับงานดีดบ้าน ไปลงโฆษณากับกูเกิล รับงานไว้จำนวนมาก ท้ายที่สุดก็ทำไม่ได้ หรือบางกรณีทำแล้วแต่กระทบกับโครงสร้างเดิม

จะเห็นได้ว่าการดีดบ้านไม่ใช่เรื่องที่จะมักง่ายหาใครทำก็ได้ ไม่อย่างนั้นอาจจะกลายเป็นหนีน้ำท่วม แต่มาเสียหายเพราะบ้านพังก็ได้ เพราะขึ้นอยู่กับความยากง่ายของงาน ตัวบ้าน ขนาดบ้าน และปริมาณเสาที่ต้องใช้ จำนวนเสายิ่งมากราคายิ่งสูง

ข่าวล่าสุด

คนละครึ่งพลัส หนุน “พาสต้า บ่? - มีลาภ อุบลฯ" ยอดขายพุ่ง แชมป์ร้านต่างจังหวัดขายดี