posttoday

ผบ.ทบ. สั่งกองกำลังเร่งปลูกป่าแก้น้ำท่วม

09 มีนาคม 2555

ผบ.ทบ.สั่ง7 กองกำลัง ชายแดนเร่งปลูกป่า สร้างฝาย ปลูกหญ้าแฝกแก้ปัญหาอุทกภัยยั่งยืน

ผบ.ทบ.สั่ง7 กองกำลัง ชายแดนเร่งปลูกป่า สร้างฝาย ปลูกหญ้าแฝกแก้ปัญหาอุทกภัยยั่งยืน

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ว่า ตามที่กองทัพบกได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ให้สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืนในภาพรวมของประเทศ ทั้งพื้นที่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ นั้น การดำเนินการในเรื่องดังกล่าวมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยใน พื้นที่ต้นน้ำ กองทัพบกได้กำหนดพื้นที่ปลูกป่าบริเวณพื้นที่ชายแดน ตามเส้นทางการไหลของน้ำ โดยได้จัดทำ “โครงการฟื้นคืนผืนป่าแนวชายแดน” โดยให้กองกำลังชายแดนทั้ง 7 กองกำลัง ปลูกป่า 7,142 ไร่ สร้างฝายชะลอน้ำ 1,898 ฝาย ปลูกหญ้าแฝก 4,285,000 ต้น ในพื้นที่ตามแนวชายแดนทั่วประเทศ พร้อมทั้งได้จัดทำ “โครงการฟื้นฟูป่าต้นน้ำเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนารถด้วยการปลูกป่าในพื้นที่ป่าต้นน้ำ 42 ป่าต้นน้ำ ครอบคลุมพื้นที่ 6,450 ไร่ รวมทั้งการสร้างฝายชะลอน้ำ ป้องกันและสกัดกั้นการบุกรุกทำลายป่าต้นน้ำ

ส่วนในพื้นที่กลางน้ำ ซึ่งรัฐบาลมอบหมายให้กองทัพบกดำเนินการสำรวจและกำหนดเขตพื้นที่บึงบอระเพ็ด ร่วมกับจังหวัดนครสวรรค์ ขณะนี้กองทัพภาคที่ 3ได้ประสานข้อมูลกับทางจังหวัดเพื่อกำหนดกรอบแนวทางการดำเนินงานแล้ว พร้อมกันนั้นได้เตรียมกำลังทหารช่าง และยุทโธปกรณ์ พร้อมสนับสนุนการสำรวจแนวคันกั้นน้ำ ตั้งแต่พื้นที่จังหวัดนครสวรรค์จนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และแนวคันกั้นน้ำตามแนวพระราชดำริในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล เพื่อเสริมความแข็งแรงและซ่อมแซม อีกทั้งเตรียมกำลังพลและเครื่องมือในการสนับสนุนโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำของกรมทรัพยากรน้ำ โดยขุดลอกคูคลองจำนวน 57สาย ในพื้นที่ 16จังหวัดของภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือสำหรับในพื้นที่ปลายน้ำ ขณะนี้การขุดลอกคูคลอง จำนวน 227 สายใน 27 เขตของ กทม. โดยหน่วยทหารช่างของกองทัพบกมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถขุดลอกคลองเสร็จแล้ว 9 คลอง กำลังขุดลอก 66 คลอง คิดเป็นความก้าวหน้า 16 เปอร์เซ็นต์ ระยะทางที่ขุดได้ 80 กิโลเมตร ซึ่งผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับให้ผู้บังคับหน่วยให้ความสำคัญกับการสนับสนุนและดำเนินงานตามแผนงานแก้ไขอุทกภัยอย่างยั่งยืนของรัฐบาลอย่างเต็มกำลัง

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารบกยังกำชับให้หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ดำเนินการจัดทำแผนเผชิญเหตุในภาวะวิกฤต ร่วมกับจังหวัดลพบุรี และกระทรวงมหาดไทย ภายใต้ชื่อ “ลพบุรีโมเดล” ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งครอบคลุมทั้งเรื่องการป้องกัน เฝ้าระวัง การแจ้งเตือน การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและการฟื้นฟูพื้นที่หลังประสบภัย ซึ่งกองทัพบกจะได้นำแผนเผชิญเหตุดังกล่าว ทำเป็นคู่มือเสนอต่อรัฐบาล เพื่อใช้ในการแจกจ่ายให้ทุกจังหวัดนำไปประยุกต์ เป็นแนวทางบริหารจัดการ กับปัญหาภัยพิบัติต่อไป

รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับให้ทุกหน่วยกำกับดูแล และปฏิบัติตามมาตรการระวังป้องกันอัคคีภัยอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุไม่พึงประสงค์ ทั้งเรื่องการฝึกภาคสนาม ความเสี่ยงที่จะเกิดอัคคีภัยในสถานที่ต่างๆ รวมถึงคลังเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ของหน่วยทหาร สำหรับในพื้นที่ภาคเหนือที่กำลังเกิดปัญหาไฟป่าและหมอกควันนั้น กองทัพภาคที่ 3 ได้ส่งชุดปฏิบัติการดับไฟเข้าดับไฟป่าในทุกพื้นที่ การสร้างแนวป้องกันไฟ การจัดกิจกรรมเพิ่มความชุ่มชื่นในอากาศ รวมถึง การรณรงค์สร้างความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องการงดจุดไฟเผา ซึ่งผู้บัญชาการทหารบก เป็นห่วงสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันเป็นอย่างยิ่ง ได้เน้นย้ำให้หน่วยทหาร เข้าคลี่คลายสถานการณ์ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

 

 

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2