รัฐสั่งย้ายศาลทำเนียบฯ-ปรับองศาปืนใหญ่

"รัฐบาลปู"สั่งรื้อศาลพระภูมิเจ้าที่ไว้ที่หน้าตึกบัญชาการ พร้อมปรับองศาปืนใหญ่หน้าตึกไทยฯ อ้างปรับภูมิทัศน์-สร้างความสวยงาม

พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง  รองเลขาธิการนายกฯและรักษาการเลขานายกฯ ประชุมเจ้าหน้าสำนักเลขาธิการนายกฯและตัดสินครั้งสำคัญด้วยการให้มีการปรับปรุงทัศนียภาพทำเนียบรัฐบาลครั้งใหญ่ ในรอบ 7 เดือนรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี

การปรับปรุงดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นวานนี้ ( 8 มี.ค. )  เมื่อสำนักเลขานายกฯ สั่งให้คนงานก่อสร้างเข้ามาตอกเสาเข็มอาคารบนสนามหญ้าด้านหน้าห้องสื่อมวลชน 2   ซึ่งจากการสอบถาม คนงานบอกว่า  กำลังตอกเสาเข็มตามคำสั่งเจ้านาย   

ต่อมา เวลา 16.00น.พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รักษาการเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการปรับภูมิทัศน์ในทำเนียบรัฐบาลบางแห่ง รวมทั้งการตอกเสาเข็มดังกล่าวด้วยว่า ได้หารือกับข้าราชการทำเนียบฯแล้ว และเห็นพ้องต้องกันในการปรับปรุงทำเนียบฯบางส่วน โดยได้เรียนต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้รับทราบแล้วด้วย ทั้งนี้นายกฯไม่แสดงความเห็น เพราะไม่อยากเป็นข่าว แต่ได้มอบหมายอำนาจให้ตนจัดการตามความเหมาะสมแทน

“ผมเป็นพ่อบ้านทำเนียบฯและรักต้นไม้ กำลังจะดำเนินการย้ายต้นปาล์มด้านสนามหญ้าหน้าห้องห้องสื่อมวลชน 2 ไปไว้ที่สนามหญ้าหน้าตึกบัญชาการ1  และย้ายศาลพระภูมิเจ้าที่ประจำทำเนียบฯ จากเดิมที่ตั้งอยู่ริม ถ.พิษณุโลกมาไว้แทน เพื่อจะได้ทำการสักการะได้สะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งจะได้หลบเลี่ยงจากกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ที่ออกมานัดประท้วงชุมนุมกันในวันเวลาสำคัญๆ เพื่อหลีกเลี่ยงภาพลักษณ์ที่ไม่ดูค่อยดี หรือบางครั้งอาจโดนสิ่งของที่กลุ่มผู้ชุมนุมขว้างปาเข้ามา จนอาจทำให้ศาลพระภูมิได้รับความเสียหายได้”  รักษาการเลขาธิการนายกฯ กล่าว

ศาลพระภูมิภายในทำเนียบฯ

พล.ต.ต.ธวัช กล่าว่า   อีกทั้งบริเวณดังกล่าวยังมีตู้วงจรไฟฟ้าขนาดใหญ่อยู่ด้วย โดยเกรงว่าอาจเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าลัดวงจรและและเกิดไฟไหม้ได้ ทั้งนี้การย้ายศาลพระภูมิจะให้พราหมณ์ในโบสถ์พราหมณ์ มาทำพิธี ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการระบุว่าจะเป็นใคร แต่อย่างไรก็ตาม การตั้งศาลพระภูมิในครั้งนี้จะให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 17 มี.ค.ที่จะถึงนี้

พล.ต.ต.ธวัช กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้อาจจะติดตั้งไม้ดัดรูปช้างไว้ด้วย เพราะช้างเป็นสัตว์ประจำชาติไทย อีกทั้งกำลังจะดำเนินการปรับปรุงทางเดินบริเวณตึกไทยคู่ฟ้า โดยทำการปรับองศาปืนใหญ่ทั้งสองกระบอก ซึ่งแต่เดิมหันหน้าเข้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน( กพ.) และตึกบัญชาการ 2 โดยจะมีการปรับองศากระบอกปืนใหญ่ ไปยังประตูเข้า - ออกทำเนียบฯ เพราะหลักยุทธการและชัยภูมิตรงนั้น แต่เดิมไม่ควรหันอาวุธเข้าหาตัวเองและลูกน้อง

ซึ่งแต่เดิมนั้นที่ไม่ได้ปรับองศากระบอกปืน ให้หันไปยังพาณิชยการพระนครนั้น ก็เพราะว่าเคยเป็นวังเก่าของกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์มาก่อน แต่ภายหลัง ที่กำลังจะเตรียมการปรับองศาปืนใหญ่ไปทางฝั่งดังกล่าวนั้น ก็เพราะว่า ตามหลักชัยภูมิโบราณแล้ว ตรงไหน หากมีเเม่น้ำลำคลองกั้นเกิดขึ้น ก็ถือว่าเป็นคนละสถานที่กันเเล้ว นอกจากนี้ยังจะมีการซ่อมป้อมตำรวจรอบๆทำเนียบฯ และมีแนวคิดที่จะปรับปรุงประตูเข้า – ออกทำเนียบฯ ทั้งหมด ที่ชำรุดทรุดโทรมอีกด้วย

"ยืนยันไม่มีการนำไม้มงคลมาวางหรือปลูกเสริมบารมีแก่นายกฯ แต่อย่างใด"พล.ต.ต.ธวัช กล่าว

ทั้งนี้   การปรับปรุงภูมิทัศน์ในทำเนียบฯ  เกิดขึ้นเเทบทุกรัฐบาลโดยอ้างกันว่า เป็นการปรับปรุงให้งดงาม เเละทดเเทนสิ่งที่ชำรุด โดยการปรับปรุงครั้งล่าสุดนั้น เกิดในสมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ เพราะรัฐบาลก่อนหน้านั้น คือ รัฐบาลพรรคพลังประชาชนที่มี นายสมัคร สุนทรเวช เเละรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ ซึ่งถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บุกเข้ามาชุมนุมและทำลายข้าวของและสิ่งปลูกสร้างต่างๆในทำเนียบฯ เพื่อขับไล่รัฐบาลทั้งสองชุดนี้ให้ออกไป โดยใช้ระยะเวลาชุมนุมทั้งสิ้น 193 วัน เเละเมื่อรัฐบาลพรรคพลังประชาชน โดนคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นเเกนนำจัดตั้งรัฐบาลเเทน เเละเข้ามาทำงานในทำเนียบฯ โดยได้สั่งการให้บูรณะทำเนียบฯใหม่เกือบทั้งหมด ซึ่งช่วงนั้นก็มีการปรับปรุงฮวงจุ้ย เพื่อเสริมบารมี ให้กับการทำงานของนายอภิสิทธิ์ด้วย

นอกจากนี้ ในส่วนของตึกบัญชาการ 1 และ 2 จะใช้เป็นตึกสำนักงานในส่วนของงานการเมืองทั้งหมด โดยจะทำการย้ายข้าราชการและพนักงานทั้งหมด ที่ประจำอยู่ในตึกดังกล่าวไปประจำอยู่ตึกแดง(จปร.)แทน

พล.ต.ต.ธวัช  กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ กับสื่อต่างประเทศที่จะกลับเมืองไทยปีนี้ว่า  พ.ต.ท.ทักษิณอาจประเมินจากสถานการณ์ทั่วไปแล้วว่า ตอนนี้ดีขึ้น อีกทั้งเวลาที่ผ่านมานายกฯได้ไปตรวจน้ำท่วมและเยี่ยมเยือนเหล่าทัพต่างๆ จึงทำให้บรรยากาศและสถานการณ์ในขณะนี้ดีขึ้นมาก ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะกลับมาในช่วงนี้ก็เหมาะสม เพราะรัฐบาลทำงานได้ดี แก้น้ำสอดคล้องกับแผนของกยน. อีกทั้งการเมือทั่วๆไปก็เดินไปได้ ส่วนเรื่องที่จะกลับมาปลายปีนี้นั้น โดยหลายฝ่ายคาดการว่าอาจจะเร็วไป พล.ต.ต.ธวัช กล่าวว่า หากสถานการณ์ดีขึ้น ก็ถือว่าเห็นสมควร