ขึ้นป้ายโจมตีเอ็นจีโอค้านสร้างเขื่อนรอบนิคมฯ

มือดีขึ้นป้ายโจมตีเอ็นจีโอที่ออกมาคัดค้านการสร้างแนวคันดินป้องกันน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมกรุงเก่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบมือดีขึ้นป้ายผ้าที่มีข้อความต่างๆพรึบทั่วเมืองพระนครศรีอยุธยา ต่อต้านกลุ่มเอ็นจีโอที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการสร้างแนวคันดินป้องกันน้ำท่วมโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมถูกนำมาติดที่บริเวณสะพานลอยคนเดินข้ามถนนสายเอเชีย ด้านหน้าศูนย์การค้าอยุธยาพาร์ค  และสะพานลอยคนเดินข้ามถนนโรจนะหน้าวัดคานหาม  อ.อุทัย  จ.พระนครศรีอยุธยา
 
ทั้งนี้ในแต่ละป้านเขียนด้วยลายมือมีข้อความต่อต้านกลุ่มเอ็นจีโอ ที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการก่อสร้างแนวคันดินป้องกันน้ำท่วม เช่น "ถ้าน้ำท่วม  เดือดร้อน  และตกงาน ใครรับผิดชอบ ท่าน เอ็นจีโอ ทั้งหลาย ยามน้ำท่วมหัวหายตายกันหมด  ยามน้ำลดหัวที่หดกลับผยอง   ถ้าน้ำท่วมอีกคงช้ำน้ำตานอง  ขอพี่น้องคนอยุธยา ช่วยต่อต้าน เอ็นจี ท่านเอ็นจีโอ ที่คัดค้านการก่อสร้างแนวคันดินป้องกันน้ำท่วม ถาม คนคานหามแล้วหรือยัง ชาวคานหาม ขอคัดค้านเอ็นจีโอที่ออกมาคัดค้านการสร้างแนวคันดินป้องกันน้ำท่วม  เพราะไม่สร้างสรรค์ สวนอุตสาหกรรมโรจนะอยู่ไม่ได้  และชาวคานหามจะอยู่ได้อย่างไร "
 
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวตระเวนสอบถามการติดป้ายดังกล่าวแต่ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าใครเป็นผู้นำมาติดแต่ชาวบ้าน ทั้งกลุ่มรถจักรยานยนต์รับจ้าง  ผู้ประกอบการหอพักร้านขายของชำ  และกลุ่มพนักงาน  ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
เห็นด้วยกับผู้ที่นำป้านมาติดตั้ง  เพราะกลุ่ม เอ็นจีโอ ออกมาต่อต้านการสร้างคันกั้นน้ำครั้งนี้ไม่สร้างสรรค์และไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของ จ.พระนครศรีอยุธยา
 
นางสาวสุนีย์  กุมุท  อายุ 53 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 15/40  ม.4  ต.คานหาม อ.อุทัย  ตัวแทนชาวบ้าน  ใน ต.คานหาม  อ.อุทัย  ซึ่งประกอบอาชีพค้าขาย และประสบปัญหาน้ำท่วมปีที่ผ่านมา กล่าวว่า หากมีการก่อสร้างแนวคันดินป้องกันน้ำท่วมเพื่อรักษาเขตเศรษฐกิจไว้ชาวบ้าน ต.คานหาม  ซึ่งมีพื้นที่ติดกับนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ โดย 99% เห็นด้วยที่ให้มีการสร้างแนวคันดินป้องกันน้ำท่วมเพราะจะได้ให้พนักงานมีงานทำช่วงน้ำท่วมและกลุ่มตนเองก็จะมีราได้เช่นกัน  ซึ่งดูจากน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา นิคมอุตสาหกรรมถูกน้ำท่วม  ธุรกิจทุกอย่าง ใน ต.คานหาม  ปิดตายทั้งหมดเมื่อน้ำลงแล้ว  ก็ยังพอขายของได้บ้างแม้จะไม่มากและเชื่อว่าการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมของนิคมอุตสาหกรรมโรจนะก็ไม่ทำให้พวกตนเองเดือดร้อนมากเนื่องจากเมื่อสร้างแนวคันดินแล้วน้ำจะเพิ่มขึ้นอีกเต็มที่ 30 ซม.และปีที่แล้วพวกตนก็มีประสบการณ์แล้ว
 
นางสาวสุนีย์  กล่าวอีกว่า การรักษาพื้นที่ภาคอุตสาหกรรมไว้ไม่ใช่เฉพาะพวกตนเพียงกลุ่มเดียวที่จะมีรายได้แต่พวกเจ้าของหอพักก็จะมีราได้หมุนเวียนไปใช้หนีธนาคารที่กู้มาสร้างอาคารหอพักด้วยและรวมไปถึงคนงานจากทั่วประเทศอีกจำนวนมากที่เข้ามาประกอบอาชีในภาคอุตสาหกรรมของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็จะมีงานทำด้วย