"ยุวดี"ดอกไม้เหล็กแห่งเซ็นทรัลนักธุรกิจทรงอิทธิพลเอเชีย
นับเป็นสุภาพสตรีคนแรกที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานสหพันธ์ห้างสรรพสินค้านานาชาติ
นับเป็นสุภาพสตรีคนแรกที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานสหพันธ์ห้างสรรพสินค้านานาชาติ Intercontinental Group of Department Stores ในรอบ 58 ปี เมื่อปี 2547 และผลงานการบริหารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลกว่า 15 ปี ครึ่งชีวิตของห้างเซ็นทรัลที่ยืนหยัดคู่เมืองไทยมานานถึง 64 ปี
นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นิตยสารฟอร์บส์ เลือก ยุวดี จิราธิวัฒน์ ให้เป็นหนึ่งเดียวของนักธุรกิจหญิงจากประเทศไทย ที่ติดอันดับ “50 อันดับนักธุรกิจหญิงผู้ทรงอิทธิพลแห่งเอเชีย”
ยุวดี จิราธิวัฒน์ พิจารณ์จิตร ถือเป็นอีกหนึ่งหญิงเหล็กของวงการค้าปลีกเมืองไทย และเป็นที่รู้จักในแวดวงค้าปลีกระดับสากล มีเหรียญเกียรติยศและใบประกาศเกียรติคุณที่ได้รับจากประเทศเดนมาร์ก รวมถึง “เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น Knight (Cavaliere)” จากรัฐบาลประเทศอิตาลีด้วย
ยุวดี เกิดเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2496 นับเป็นทายาทรุ่น 3 ของห้างเซ็นทรัล โดยเป็นบุตรสาวคนที่ 3 ของ สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ผู้นำของพี่น้องตระกูล "จิราธิวัฒน์" รุ่นที่สอง ผู้ปลุกปั้นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สมรสกับ วรชัย พิจารณ์จิตร มีบุตร 3 คน คือ โชดกบรมวรลักษณัย พิจารณ์จิตร
ยุวดี ได้รับทุนภูมิพล และได้รับพระราชทานเข็มรางวัลเรียนดีในฐานะผู้ที่ทำคะแนนสูงสุดของแผนกภาษาและวรรณคดีอังกฤษในปี 2518 เมื่อจบการศึกษาปริญญาตรี พร้อมเกียรตินิยมอันดับ 2 คณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นไปศึกษาต่อปริญญาโท ที่ North Western University,U.S.A
จนถึงวันนี้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลภายใต้การบริหารงานของยุวดี มีสาขา 14 แห่งทั่วประเทศ และตั้งเป้ารายได้ปีนี้ถึง 5,600 ล้านบาท
โดยกลยุทธ์การทำงานจะเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกๆด้าน ทั้งการพัฒนาคุณภาพบุคลากร ระบบการทำงาน การตลาด การบริหารงาน การบริหารสินค้าและที่สำคัญคือการบริการที่ลูกค้าต้องมาอันดับหนึ่ง
ยุวดี กล่าวกับนิตยสารฟอร์บส์ ว่า เซ็นทรัลมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งตรงที่มีประวัติศาสตร์และประสบการณ์ด้านการค้าปลีกมายาวนาน อีกทั้งเป็นธุรกิจครอบครัว จึงทำให้เกิดความต่อเนื่องในการทำธุรกิจ รวมทั้งการมีตัวอย่างเช่น บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่ทำหน้าที่พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เราสามารถรู้ถึงทำเลที่ดีในการทำธุรกิจ โดยเซ็นทรัลสามารถดำเนินธุรกิจบนพื้นที่เหล่านี้ ซึ่งเป็นพื้นที่ของเซ็นทรัลเอง ในขณะที่คู่แข่งทางธุรกิจรายอื่นยังจำเป็นต้องเช่าพื้นที่เพื่อทำธุรกิจฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง โดยมีลูกค้าประจำถือบัตรสมาชิกเดอะวันการ์ดถึง 2 ล้านคน
นอกจากการขยายสาขาในไทยแล้ว เซ็นทรัลยังมองหาลู่ทางขยายธุรกิจที่ประเทศจีนเพิ่ม หลังเปิดสาขาแรกในจีนเมื่อปี 2553 ปัจจุบันมี 3 สาขาในจีน รวมทั้งเล็งขยายไปยังมาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนามด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการเมืองและภัยธรรมชาติ โดยสิ่งเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของธุรกิจค้าปลีก
ทว่า บริษัทได้มุ่งทำงานอย่างหนักเพื่อบรรลุเป้าการขายมาโดยตลอด ดังที่เห็นได้จากตัวเลขค้าปลีกของบริษัทเมื่อปี 2554 นั้น โต 3.5% จากปีก่อน และการเติบโตของแต่ละสาขานั้นอยู่ที่ 17%
ในส่วนของทัศนคติที่มีต่อนักธุรกิจหญิงในเอเชียในปัจจุบันนั้น ยุวดีมองว่า นักธุรกิจหญิงคือบุคคลที่น่ายกย่องอย่างยิ่งเนื่องจากสามารถจัดการบทบาทต่างๆ ในชีวิตไม่ว่าจะเป็นบทบาทในที่ทำงาน หรือที่บ้าน ได้อย่างสมดุล
สุดท้าย ยุวดี ให้ข้อคิดในการทำธุรกิจ คือ “ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก” และต้องไม่ลืมว่าไม่มีอาชีพใดในโลกที่ปราศจากปัญหาและความขัดแย้ง ดังนั้นจะต้องมีทางออกเสมอ และที่สำคัญคือ อย่ายอมแพ้


