นวนครรวมตัวฮึดสู้น้ำ

ขู่ท่วมซ้ำสองรง.ย้ายหนีไทยหมดอยุธยาขอ4พันล.แก้อุทกภัยถาวร

ผู้ประกอบการในนิคมฯ นวนคร ฮึดสู้น้ำอีกรอบ หากท่วมซ้ำสองทุนนอกย้ายฐานผลิตหนีทันที

นายสมัคร ส่องสว่าง ประธานชมรมบริหารงานบุคคลนวนคร เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการกว่า 200 โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมจะกลับมาฟื้นฟูโรงงานอีกครั้ง แต่หากรัฐบาลปล่อยน้ำท่วมซ้ำปีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติต้องย้ายฐานการผลิตไปลงทุนที่อื่นอย่างแน่นอน

นายสมัคร กล่าวอีกว่า ขณะนี้นิคมฯ ได้ลงทุนจ้างบริษัทรับเหมาเอกชนสร้างกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กรอบเขตบริเวณพื้นที่ของนิคมฯ สูง 4 เมตร ยาวกว่า 8 กิโลเมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วมภายใน ส่วนการป้องกันน้ำรอบนอกยังคงต้องรอแผนบริหารจัดการน้ำท่วมของรัฐบาลว่าสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติได้หรือไม่

“ลำพังเอกชนสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วมล้อมรอบนิคมฯ ก็ป้องกันได้ระดับหนึ่ง แต่จะมีประโยชน์อะไรหากเกิดน้ำท่วมรอบนอกนิคมฯ ผู้ประกอบการโรงงานสามารถเดินเครื่องการผลิตได้ แต่ไม่สามารถลำเลียงสินค้าส่งออกได้ ก็จะสร้างความสูญเสียมหาศาลเช่นปีที่แล้ว” นายสมัคร กล่าว

ขณะที่นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ได้ประชุมร่วมกับนายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา และผู้ว่าราชการจังหวัดอีก 7 จังหวัด คือ สุพรรณบุรี ปราจีนบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี และนครนายก ซึ่งทั้งหมดอยู่ในกลุ่มจังหวัดพื้นที่ปลายน้ำตอนบน เพื่อเตรียมรายงานสรุปต่อนายกรัฐมนตรีที่กำหนดลงพื้นที่ติดตามการป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วมที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 1617 ก.พ.นี้

นายวิทยา กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ได้สรุปเตรียมความพร้อมสำหรับแก้ปัญหาน้ำท่วม ในเบื้องต้นได้แบ่งคณะทำงานออกเป็น 4 ลุ่มน้ำ ได้แก่ แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย โดยเตรียมของบประมาณ 4,000 ล้านบาทต่อนายกรัฐมนตรี สำหรับแก้ปัญหาน้ำท่วมระยะยาว ทั้งการขุดคลองเพื่อระบายน้ำจากแม่น้ำลพบุรีออกแม่น้ำเจ้าพระยา การเสริมถนนคันลำคลองและแม่น้ำทั้งสามสายให้สูงขึ้น รวมไปถึงการปรับถนนอู่ทองรอบเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา เพื่อป้องกันแหล่งเศรษฐกิจและโบราณสถานสำคัญ

ด้านนายวิเชียร พวงลำเจียก ประธานกลุ่มเกษตรกรระดับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ชาวบ้านและกลุ่มเกษตรกรจะยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีระหว่างลงพื้นที่ตรวจติดตามการแก้ปัญหาอุทกภัยพื้นที่ปลายน้ำตอนบนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เรื่องของการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำน้อย เพราะที่ผ่านมาทุกรัฐบาลยังแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้

ทั้งนี้ อยากให้นายกรัฐมนตรีสั่งกรมชลประทานเปิดประตูระบายน้ำในเขตพื้นที่ อ.วิเศษไชยชาญ จ.อ่างทอง รวมทั้ง อ.ผักไห่ เสนา บางซ้าย และลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเฉลี่ยน้ำออกไปยัง จ.สุพรรณบุรี โดยไม่ต้องให้ชาวบ้านประท้วงเหมือนปีที่ผ่านมา ดังนั้นขอฝากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเห็นใจคนพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพราะถูกน้ำท่วมทุกปี และยืนยันว่าการใช้ทุ่งนาเป็นพื้นที่รับน้ำจะต้องจ่ายเงินค่าชดเชยไร่ละ 7,000 บาท