เปิดทรัพย์สิน"ตู่"พบเคยเปิดบริษัท5แห่ง
ชำแหละทรัพย์สิน "จตุพร" พบขนเงิน 25 ล้านจดทะเบียนธุรกิจ 5 แห่งรวดพบใช้ที่อยู่บริษํทเดียวกันทั้งหมด แถมเปิด2ปีแจ้งเลิกกิจการพร้อมกัน
ชำแหละทรัพย์สิน "จตุพร" พบขนเงิน 25 ล้านจดทะเบียนธุรกิจ 5 แห่งรวดพบใช้ที่อยู่บริษํทเดียวกันทั้งหมด แถมเปิด2ปีแจ้งเลิกกิจการพร้อมกัน
สำนักข่าวข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้ทำการสำรวจรายการทรัพย์สินหนี้สินแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ที่ก้าวสู่ตำแหน่งส.ส. และรัฐมนตรี ที่เกี่ยวพันกันอย่างมีนัยยะ
เริ่มจากกรณีนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ก่อนเข้าสู่อำนาจรัฐเป็นรองโฆษกรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ต้นปี 2551 และเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตอนต้นปี 2555 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มีธุรกิจ 3 แห่งคือ บริษัท ไทย คอนซัลแตนท์ แอนด์ พับบลิค รีเลชั่น จำกัด รับเป็นปรึกษาประชาสัมพันธ์และมวลชนสัมพันธ์ (รับงานโครงการท่อส่งก๊าซ ของ บมจ. ปตท.) และ บริษัท เพื่อนพ้อง น้องพี่ จำกัด และ บริษัท พีทีวี ทีวีเพื่อประชาชน จำกัด รวมเงินลงทุน 3 บริษัท 23 ล้านบาท (มูลค่าตามตามสัดส่วนการถือหุ้น)
นายจตุพร พรหมพันธุ์ หุ้นส่วนบริษัท เพื่อนพ้อง น้องพี่ จำกัด และ บริษัท พีทีวี ทีวีเพื่อประชาชน จำกัด เป็นอย่างไร?
สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า ในช่วงเดือนเมษายน 2544 ที่นายณัฐวุฒิก่อตั้งบริษัท ไทย คอนซัลแตนท์ แอนด์ พับบลิค รีเลชั่น จำกัด ไม่ถึงปีถัดมานายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็ทำธุรกิจเช่นกัน
หากแต่ธุรกิจของนายจตุพรลงทุนร่วมกับนายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย และนายฐาปนา จินดากาญจน์
ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2545 นายจตุพรกับพวกจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด 5 แห่งรวด รวมเงินลงทุน 25 ล้านบาท (เฉพาะนายจตุพร 8.6 ล้านบาท) ได้แก่
1.หจก.สยามเชนจ์ พอยท์ จดทะเบียนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2545 ทุน 5 ล้านบาท รับเหมาก่อสร้าง ถมดิน ขุดดิน ปรับหน้าดิน มีหุ้นส่วน 3 คน
นายจตุพร 1,600,000 บาท บาท
นายฐาปนา จินดากาญจน์ 1,600,000 บาท
นายสถาพร มณีรัตน์ 1,800,000 บาท
2. หจก.วิชั่น แอนด์ ซีนะรี จดทะเบียนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2545 ทุน 5 ล้านบาท ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง ผลิตสื่อโฆษณา หุ้นส่วน 2 คน
นายจตุพร 4,000,000 บาท
นายสถาพร มณีรัตน์ 1,000,000 บาท
3.หจก. ศรีหมวดเก้า จดทะเบียนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2545 ทุน 5 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ ขุดถ่านหิน ขุด ขนแร่ต่างๆ หุ้นส่วน 2 คน
นายจตุพร 1,000,000 บาท
นายสถาพร มณีรัตน์ 4,000,000 บาท
4.หจก.บุตรตะวัน จดวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2545 ทุน 5 ล้านบาท ประกอบกิจการ2 ข้อ ถมดิน ขุดปรับหน้าดิน ขายซื้อที่ดินทั้งหมด และ ประกอบกิจการขนถ่ายขุดถ่านหิน แร่ต่างๆทำเหมืองแร่ทั้งหมด มีหุ้นส่วน 2 คน
นายจตุพร 1,000,000 บาท บาท
นายฐาปนา จินดากาญจน์ 4,000,000 บาท
5.หจก. ศรีสมุย ลองสเตย์ จดทะเบียนวันที่ 12 มีนาคม 2545 ทุน 5 ล้านบาท แจ้งข้อมูลต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีวัตถุประสงค์ 3 ข้อ ประกอบธุรกิจบริการให้คำปรึกษาแก่ชาวไทยและต่างชาติเพื่อเป็นสมาชิกประกอบธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาว ประกอบกิจการอำนวยความสะดวกในการจองที่พัก โรงแรม ในโครงการที่พักระยะยาว และประกอบกิจการให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในการพัฒนาโครงการพัฒนาโครงการหมู่บ้าน หุ้นส่วน 2 คน
นายจตุพร 1,000,000 บาท
นายสถาพร มณีรัตน์ 4,000,000 บาท
หจก.ทั้ง 5 แห่งมีที่ตั้งเลขที่เดียวกัน เลขที่ 69/12 อาคารอัลฟ่าบิลดิ้ง ชั้น 12 โซนเอ ถนนวิภาวดีรังสิต สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ
น่าสังเกตว่า กิจการของนายจตุพรกับพวกจดทะเบียนก่อตั้งในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันและอยู่ในช่วงพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล
จากการตรวจสอบพบว่าทั้ง5 แห่งเปิดดำเนินการเพียงสั้นๆ ไม่ได้แจ้งผลประกอบการต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และแจ้งเลิกกิจการพร้อมกันวันที่ 24 ธันวาคม 2547
อย่างไรก็ตาม น่าสังเกตว่าทรัพย์สินของนายจตุพรและนายสถาพรที่แจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ในช่วงเวลาถัดมา มีจำนวนไม่มากนัก
ตอนตำแหน่งระบบบัญชีรายชื่อ วันที่ 22 มกราคม 2551 นายจตุพรแจ้งทรัพย์สิน 8,050,892.2 บาท แบ่งเป็น
เงินฝาก 5 บัญชี 2,599,939.46 บาท , โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง บ้านเลขที่ 99/92 หมู่ 4 แขวงคลองถนน เขตสายใหม่ กรุงเทพฯ 2,700,000 บาท , รถยนต์ 2 คัน ทะเบียน สอ.2535 กรุงเทพมหานคร 1,750,800 บาท คันที่ 2 ทะเบียน ชศ 2535 กรุงเทพมหานคร มูลค่า 999,312 บาท รวมมูลค่า 2,750,122 บาท ไม่มีทรัพย์สินอื่น
หนี้สิน เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 2,750,112 บาท (หนี้สินมีจำนวนเท่ากับมูลค่ารถยนต์)


